HotNews : KBANK ตั้งธงสินเชื่อปี 63 โต 4 - 6% - NPL 3.6 - 4%

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (24 ตุลาคม 2562) KBANK ตั้งเป้าปี 63 เน้นใช้ดาต้าปล่อยสินเชื่อรวมเติบโต 4-6% คาด NIM อยู่ที่ 3.1- 3.3% อัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ -5 ถึง -17% และ NPL 3.6-4% มองปี 63 ยังมีปัจจัยท้าทายกดดันเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มการปล่อยสินเชื่อรายย่อยด้วยการใช้ศักยภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูล

 

 

 

ธนาคารกสิกรไทยมองปี 2563 ปัจจัยท้าทายกดดันเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง เดินหน้าสร้างบริการที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งชีวิตและธุรกิจ มุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุน และเพิ่มการปล่อยสินเชื่อรายย่อยด้วยการใช้ศักยภาพด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 4-6% นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 ยังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ เงินบาทที่ยังคงแข็งค่าส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจระหว่างประเทศ คาดว่าปี 2563 การส่งออกไทยจะขยายตัวติดลบที่ -2% ด้านภาคเศรษฐกิจภายในประเทศจะเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ จากการเดินหน้าโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ทิศทางดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลง ท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

 

 

 

 

 

 

ภายใต้ปัจจัยความท้าทายต่าง ๆ ธนาคารกสิกรไทยกำหนดทิศทางการดำเนินงานปี 2563 กำหนดเป้าหมายธุรกิจ "To Empower Every Customer's Life and Business" ในการเป็นสถาบันการเงินที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างนวัตกรรมทางการเงิน และทำงานเชิงรุก เพื่อส่งมอบบริการมาตรฐานสากล และคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ด้วยการประสานพลังเทคโนโลยีและบุคคลากรคุณภาพ เพื่อตอบสนองลูกค้าทั้งการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจ

 

 

 

ธนาคารกสิกรไทยได้ประกาศเป้าหมายทางการเงินปี 2563 โดยตั้งเป้าการเติบโตเงินให้สินเชื่อรวมที่ 4-6% แบ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจลูกค้าบรรษัทเติบโต 2-4% สินเชื่อธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการเติบโต 1-3% และสินเชื่อลูกค้าบุคคลเติบโต 9-11% อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net Interest Margin : NIM) อยู่ที่ 3.1 ถึง 3.3% อัตราการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ -5 ถึง -17% ในส่วนของคุณภาพสินทรัพย์ คาดว่ามีสัดส่วนเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อรวม (NPL Ratio Gross) ที่ 3.6-4.0%

 

 

 

 

 

ด้านหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) KBANK คงคำแนะนำ "Underperform" สำหรับ KBANK แม้กำไร 3Q19 ออกมาดีกว่าคาด โดยเรายังเห็นประเด็นกดดันหลักต่อการทำกำไร จากธุรกิจประกันชีวติที่ยังคงอ่อนแอ และโดยเฉพาะจากความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มสูงขึ้น ภายใต้ภาพรวมเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เราจะมีการประเมินประมาณการกำไรสำหรับ KBANK หลังการประชุมที่จะจัดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคมนี้ ซึ่ง KBANK จะมีการเปิดเผยเป้าหมายทางการเงินปี 2020E และหวังว่าจะมีการให้แนวทางเกี่ยวกับการโอนกลับสำรองหนี้ส่วนเกินหลังการเข้าสู่มาตรฐาน TFRS9 ในปี 2020E ทั้งนี้ประเมิน ราคาเป้าหมาย 173 บาท/หุ้น

 

 

 

 

บริษัทหลักทรัพย์ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า KBANK รายงานกำไรสุทธิ 9.9 พันล้านบาทในไตรมาส 3/62 เพิ่มขึ้น 2% YoY และทรงตัว QoQ เนื่องจากธนาคารบันทึกกำไรจากการลงทุนในตราสารทุนเพียงครั้งเดียวจำนวน 2.5 พันล้านบาทเพื่อชดเชยกับการตั้งสำรองที่เพิ่มขึ้น ในเชิงบวก KBANK สามารถรักษาระดับ NIM ทรงตัวที่ 3.34% แม้ว่าธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตของสินเชื่อและรายได้จากการประกันภัยสุทธิยังคงต่ำอยู่ คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ KBANK บันทึกการตั้งสำรอง 10 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% YoY และ 33% QoQ แม้ว่า KBANK จะตัดหนี้สูญจำนวนมากที่ 8.1 พันล้านบาทในไตรมาส 3/62 (9.3 พันล้านบาทในไตรมาส 2/62) แต่อัตราส่วน NPL ยังคงเพิ่มขึ้น 12bp QoQ เป็น 4.07%

 

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2563-64 ลง 3-6% เพื่อสะท้อน NIM ที่ลดลง (2-4bp) และสินเชื่อที่ชะลอตัวลง (จาก 6% เป็น 5%) เนื่องจาก KBANK ไม่มีนโยบายที่จะเพิ่มเงินปันผล เราจึงคาดว่า ROEs จะลดลงเหลือ 9.0-9.3% ในปี 2563-64 เนื่องจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยที่อ่อนแอ ทั้งนี้ KBANK จะมีการประชุมนักวิเคราะห์กับคุณบัณฑูร ล่ำซำ ในวันที่ 24 ต.ค.

 

 

 

 

บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) แนะนำ ซื้อ KBANK ราคาพื้นฐาน ที่ 228.00 บาท กำไร 3Q62 เพิ่มขึ้น 2.1% y-y และ 0.2% q-q : โดยมีกำไร 10 พันล้านบาท ใกล้เคียงกับที่คาด โดยกำไรเพิ่มขึ้น 2.1% y-y และ 0.2% q-q เป็นผลมาจากกำไรจากการขายเงินลงทุนจำนวนมากเป็นหลัก นอกเหนือจากรายได้ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น แต่การตั้งสำรองจำนวนมากทำให้กำไรเพิ่มขึ้นไม่มาก

 

 

 

สินเชื่อยังเติบโตชะลอ และ NPL เพิ่มสูงขึ้น : สินเชื่อในไตรมาสนี้ของ KBANK ยังคงเติบโตแบบชะลอตัว โดยเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% q-q และ 1.9% ytd โดยมาจากสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลัก อย่างไรก็ตามทาง KBANK ยังไม่ได้มีการปรับลดเป้าสินเชื่อที่ตั้งไว้โต 5 - 7% ลงแต่อย่างไร ในขณะที่ NPL ในไตรมาสนี้เพิ่มสูงขึ้นเป็น 3.53% จาก 3.4% ในไตรมาสก่อน

 

 

 

คงประมาณการกำไร และราคาพื้นฐานที่ 228 บาท ยังแนะนำ"ซื้อ" ทางฝ่ายยังคงประมาณการกำไรปี 62 - 63 ของ KBANK ไว้เหมือนเดิมที่ 39.6 พันล้านบาท และ 43.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% y-y และ 10.7% y-y ตามลำดับ ยังคงราคาพื้นฐาน 228 บาท และยังแนะนำ "ซื้อ"

 

 

 

KBANK