เฟดเริ่มชะลอมาตรการ QE...จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐฯ
ที่ประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีมติให้ลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนภายใต้มาตรการ QE ทั้งในส่วนของหลักทรัพย์ที่หนุนหลังด้วยสินเชื่อจำนองและพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รวม 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ มาอยู่ที่ระดับ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ โดยให้มีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 เป็นต้นไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดการเงินตอบรับมติชะลอมาตรการ QE ของเฟดในรอบนี้อย่างเป็นระเบียบ ไม่ได้ตื่นตระหนกมากนัก โดยเงินดอลลาร์ฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นทั้งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักและสกุลเงินในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะเฟดยังคงยืนยันกับตลาดว่า อัตราดอกเบี้ย Fed Funds จะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป แม้อัตราการว่างงานของสหรัฐฯ ในปี 2557 มีโอกาสปรับลดลงต่อเนื่องไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 6.5%
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ระดับทุนสำรองระหว่างประเทศ และเครื่องมือดูแลสภาพคล่องในระบบการเงินไทยของธปท. น่าจะสามารถรองรับสภาวะแวดล้อมทางการเงินที่อาจผันผวนไปตามแนวทางการชะลอมาตรการ QE ของเฟดในช่วงปีข้างหน้าได้ แม้คงต้องยอมรับว่า ทิศทางของตลาดการเงินไทยบางส่วน อาทิ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยและค่าเงินบาท อาจต้องเคลื่อนไหวไปตามภาพใหญ่ที่ถูกกำหนดมาจากตลาดการเงินของสหรัฐฯ ก็ตาม
แนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ มาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด มีมติที่เกือบเป็นเอกฉันท์ 9:1 เสียง ให้ลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ต่อเดือนภายใต้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (มาตรการ QE) รวม 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ (แบ่งเป็นการชะลอซื้อหลักทรัพย์ที่หนุนหลังด้วยสินเชื่อจำนอง 5 พันล้านดอลลาร์ฯ และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ฯ) ซึ่งทำให้ขนาดของมาตรการ QE ปรับลดลงมาที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือนตั้งแต่เดือนม.ค. 2557 เป็นต้นไป (จากวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ ต่อเดือน ซึ่งเฟดได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนม.ค. 2556 จนถึงปัจจุบัน) อย่างไรก็ดี เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Fed Funds Rate) ที่กรอบ 0.00-0.25% ต่อไปอีกระยะหนึ่ง
อนึ่ง ผลการประชุมเฟดดังกล่าว สอดคล้องกับเสียงคาดการณ์ส่วนน้อยของตลาดที่ประเมินว่า เฟดจะตอบรับกับทิศทางเชิงบวกของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะข้อมูลที่แข็งแกร่งของตลาดแรงงาน (ทั้งการเพิ่มขึ้นของการจ้างงานนอกภาคเกษตร และการปรับตัวลงของอัตราการว่างงาน) ด้วยการเริ่มถอยออกจากมาตรการ QE ตามสัญญาณที่เคยได้สื่อสารกับตลาดการเงินทั่วโลกในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้
การปรับตัวของตลาดการเงินหลังเฟดประกาศชะลอมาตรการ QE
หลังจากที่เฟดประกาศมติลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการ QE แล้ว นักลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รับข่าวนี้ ด้วยคำสั่งขายพันธบัตร ซึ่งส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับเพิ่มขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ที่ 2.92% ก่อนจะปรับตัวลงมาปิดตลาดนิวยอร์กวันที่ 18 ธ.ค. 2556 ที่ 2.89% (เนื่องจากเฟดยังคงย้ำเรื่องอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ที่ระดับต่ำต่อไป) ในขณะที่ ฟากฝั่งเอเชีย เปิดตลาดเช้าวันนี้ ด้วยสัญญาณที่แข็งแกร่งของเงินดอลลาร์ฯ โดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 เดือนใกล้ระดับ 32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ เช่นเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชียที่เผชิญแรงขายรับข่าวเฟดชะลอมาตรการ QE เช่นกัน
มุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ตลาดการเงินน่าจะยังอยู่ภายใต้สภาวะที่ไม่ตื่นตระหนกมากนัก
แม้การทะยานแข็งค่าของเงินดอลลาร์ฯ จะปรากฏขึ้นในวงกว้าง ทั้งเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก สกุลเงินในเอเชีย รวมถึงเงินบาท ก็ตาม
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า แม้การตัดสินใจลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการ QE รอบนี้ จะเป็นทิศทางที่ผิดไปจากที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า แต่การปรับตัวของตลาดการเงินเพื่อรับข่าวนี้ น่าจะอยู่ภายใต้สภาวะที่เป็นปกติ/ไม่สะท้อนภาวะที่ตื่นตระหนกมากนัก เพราะเป็นทิศทางที่เฟดได้พยายามสื่อสารกับตลาดมาระยะหนึ่งแล้ว และเฟดเองก็สร้างสมดุลด้วยการปรับเปลี่ยนถ้อยแถลงในส่วนที่เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเล็กน้อย เพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นกับตลาดการเงินว่า อัตราดอกเบี้ย Fed Funds จะยังคงยืนที่ระดับใกล้ 0% แม้อัตราการว่างงานจะลดต่ำลงกว่าระดับ 6.5% ในระยะข้างหน้า และการเริ่มทยอยถอยออกจากมาตรการ QE ครั้งนี้ ไม่ใช่เป็นจุดเปลี่ยนไปสู่การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟด
ผลกระทบต่อไทยน่าจะอยู่ในกรอบที่สามารถบริหารจัดการได้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่น่าจะประคองโมเมนตัมการฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องในช่วงปีข้างหน้า (ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินในกรณีพื้นฐานว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวประมาณ 2.2 % ในปี 2557 ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2556) จะเอื้อให้เฟดสามารถเดินหน้าชะลอมาตรการ QE อย่างค่อยเป็นค่อยได้ตั้งแต่ต้นปี 2557 ซึ่งสภาพแวดล้อมดังกล่าวนี้ เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่กระตุ้นให้นักลงทุน-กลุ่มกองทุนทำการปรับเปลี่ยนน้ำหนักการลงทุนในตลาดการเงินทั่วโลก และตลาดการเงินไทยทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร ก็อาจจะต้องเตรียมรับสภาวะที่ผันผวนของกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างยากจะหลีกเลี่ยง แต่กระนั้น ระดับทุนสำรองระหว่างประเทศ เครื่องมือทางการเงินของธปท. และสภาพคล่องในระบบการเงินไทยน่าจะยังสามารถรองรับกับภาวะดังกล่าวได้ในช่วงปีข้างหน้า
oระดับทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย รวมฐานะสุทธิฟอร์เวิร์ด (ล่าสุด ณ วันที่ 6 ธ.ค. 2556 อยู่ที่ 191.2 พันล้านดอลลาร์ฯ) อยู่ในระดับที่แข็งแกร่งเพียงพอ เมื่อเทียบกับหนี้ต่างประเทศของไทยซึ่งอยู่ที่ 141.0 พันล้านดอลลาร์ฯ (แบ่งเป็นหนี้ระยะสั้น 64.3 พันล้านดอลลาร์ฯ และหนี้ระยะยาว 76.7 พันล้านดอลลาร์ฯ) และมูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ซึ่งอยู่ในมือของนักลงทุนต่างชาติ เมื่อคิดเป็นรูปดอลลาร์ฯ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 21.7 พันล้านดอลลาร์ฯ
oสภาพคล่องของระบบการเงินไทยยังมีความยืดหยุ่น ทั้งนี้ ธปท.สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับตลาดเงินระยะสั้นผ่านการทำธุรกรรมซื้อคืนพันธบัตรกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งขณะนี้ มียอดคงค้างการถือครองพันธบัตรธปท. ณ สิ้นเดือนพ.ย. 2556 อยู่ราว 1.54 ล้านล้านบาท
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า เครื่องมือของธปท. น่าจะสามารถรองรับสถานการณ์เงินทุนไหลออก พร้อมๆ กับดูแลระดับสภาพคล่องให้มีความเพียงพอได้ท่ามกลางทิศทางการชะลอมาตรการ QE ของเฟดในช่วงปีข้างหน้า ขณะที่ การกำหนดจุดยืนเชิงนโยบายการเงินของกนง. ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นกลไกในการส่งสัญญาณไปที่อัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ได้ แม้ว่าเครื่องชี้ของตลาดเงินบางส่วน เช่น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย อาจต้องทยอยปรับสูงขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และเงินบาทอาจจะแกว่งตัวในช่วงปี 2557 ก็ตาม
ทั้งนี้ คงต้องติดตามความต่อเนื่องของการฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2557 ของตลาดแรงงาน ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในภาพรวมอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเฟดสามารถเดินหน้าทยอยลดวงเงินซื้อสินทรัพย์ภายใต้มาตรการ QE ได้อย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งแรกของปี เพราะหากเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถรักษาจังหวะการขยายตัวได้อย่างราบรื่น ตลาดการเงินคงจะเริ่มคาดการณ์ถึงขั้นตอนถัดไปที่จะเกิดขึ้นหลังจากมาตรการ QE ของเฟดได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งเป็นนัยว่า ทิศทางตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ น่าจะปรับตัวสะท้อนการคาดการณ์เกี่ยวกับวัฏจักรการคุมเข้มด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย Fed Funds ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2557
ที่มา ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
PTG ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน Fortune Southeast Asia 500 ประจำปี 2025 เป็นปีที่สองติดต่อกัน ...
SKIN ผนึก APM ลุยโรดโชว์ห้องค้า PST มั่นใจพื้นฐานแกร่ง นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ อารมณ์คอการเมือง ร้อนทันที เป็นคลิปเสียง แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สนทนากับ สมเด็จฯ ฮุน..
รู้จักพร้อมเปิดพื้นฐาน NUT ก่อนเทรด 11 มิ.ย.- สายตรงอินไซด์ - 9 มิ.ย.68