วันที่ 19 มีนาคม 2563 พบกับเจ๊มดแดงได้ที่  www.hooninside.com (Line : @hooninside) รู้ลึกรู้จริงคลุกวงในหุ้นสไตล์กล้วยๆ

          เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง เชื่อว่า  วันนี้ตลาดหุ้นไทย  นักลงทุน  ขาทุบ คงหาจังหวะ สวน แลกหมัดกับ เจ้าไวรัส โควิด-19 เกมหุ้นไทย ตลาดหุ้นไทย คงดุเดือด  ตามสูตร#ประเทศไทยต้องชนะ  เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลาดหุ้นทั่วโลก หุ้นไทย ก็ถือว่า ดำดิ่ง ตอบรับข่าว  สถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นจริงไปแล้ว เว้น แต่เลวร้าย กว่าที่คาดไว้

          ความผันผวนของตลาดหุ้นไทย ก็เป็นความท้าทายของนักเก็งกำไร พร้อมเล่นสวน เทรดสวน โควิด-19 ท่ามกลาง นานาประเทศ ประกาศมาตรการปิดประเทศ บางประเทศ ให้เงิน ช่วยเหลือกับผู้มีรายได้น้อยที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส  โควิด-19 สำหรับผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้ คงต้องทำใจ กิจการใด เติบโต  ต้องขอชื่นชมค่ะ

          วานนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,048.15 จุด เพิ่มขึ้น 12.98 จุด หรือ 1.25% มูลค่าการซื้อขาย59,186.45 ล้านบาท  สรุปสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 3,046.44 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 48.77 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 3,997.49 ล้านบาท  นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 999.83 ล้านบาท

          ก่อนถึงตัวหุ้น มาที่ภาพใหญ่ก่อนค่ะ  ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประเทศไทย ได้ทบทวนอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาว (Long-Term Foreign Currency - IDR) ของประเทศไทยสู่ระดับมีเสถียรภาพ จากระดับเชิงบวก พร้อมกับคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ BBB+

          ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) ระบุ ธนาคารไทยกำลังได้รับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง ทั้งนี้ระดับของผลกระทบต่อธนาคารจะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและระยะเวลาของการชะลอตัวของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามฟิทช์คาดว่าคุณภาพสินทรัพย์และรายได้ของธนาคารไทยน่าจะปรับตัวลดลงอย่างมากในปี 2563 เมื่อเทียบกับปี 2562  โดยกลุ่มลูกหนี้  SME ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 3 ของสินเชื่อรวมของภาคธนาคารและเป็นกลุ่มที่มีความมีความเปราะบางค่อนข้างมากโดยเฉพาะในภาวะที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง  นอกจากนี้แม้ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส รายได้ของธนาคารโดยรวมได้เผชิญกับแรงกดดันจากภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำและการเติบโตที่ต่ำของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยมาแล้ว

          ในขณะที่ภาวะธุรกิจของภาคธนาคารมีแนวโน้มที่ไม่ดีนัก แต่อย่างไรก็ตามภาคธนาคารไทยยังคงมีความสามารถที่จะรับมือกับความเสี่ยงได้ในระดับที่ใช้ได้ และน่าจะช่วยป้องกันผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจได้บ้าง เช่น ณ สิ้นปี 2562  ธนาคารไทยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (Core Equity Tier 1) ของอยู่ในที่  16.0% และมีอัตราส่วนสำรองหนี้สูญต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ 145% อีกทั้งภาวะสภาพคล่องภายในประเทศยังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง

          บอร์ด GUNKUL ลงมติผุดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ครั้งที่ 2 รอบนี้ ตั้งงบ 1.1 พันลบ. ซื้อหุ้นคืน 440 ล้านหุ้น ผ่านตลาดหลักทรัพย์ เริ่มต้นซื้อ 1เม.ย.-30ก.ย.63  “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มั่นใจศักยภาพธุรกิจมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง จากงานในมือที่มีอยู่เพียบ และเตรียมประมูลเพิ่ม เชื่อเดินหน้าซื้อหุ้นคืนจะช่วยทำให้ราคาหุ้นสอดคล้องปัจจัยพื้นฐานและสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้น

          BA ก็เช่นกัน ทั้งที่เพิ่ง จบ เพิ่งปิดโครงการซื้อหุ้นคืนไป เมื่อวันที่ 6 มี.ค.63 ซื้อครบตามโครงการฯ 40 ล้านหุ้น แต่ก็ต้อง เปิดโครงการซื้อหุ้นคืนอีกครั้ง ครั้งนี้ ตั้งใจจะซื้อคืน 24 ล้านหุ้น  เริ่มซื้อวันที่ 1เม.ย.-30ก.ย.63  สู้ๆคร้า

          วานนี้  ราคาหุ้น WORK ปิดที่6.05 บาท บวก 75 สตางค์  คิดเป็น 14.15% วันนี้ จะเด้งต่อหรือไม่  ต้องวัดใจ วัดกำลัง นักเลงที่เคยชอร์ต จะทำการซื้อหุ้นกลับคืน เพื่อส่งมอบให้โบรกเกอร์หรือไม่ใครชอบ โหนกระแส  ก็ต้องติดตามหน้าจอ อย่างใกล้ชิด

          BEAUTY สยองจนเละ วานนี้ ราคาอยู่ที่ 1.31 บาท ลดลง 0.03 บาท คิดเป็น 2.24% ในเมื่อราคานอนก้นหลุมอย่างนี้  เจ๊มดแดงว่า สัปเหร่อ อาจปลุกผี เสกคาถา ใช้ข้าวสารเสก สาดไปในหุ้น BEAUTY เพื่อจะได้เต้นแร้ง เต้นกา คริๆ

          หุ้น SAMART ที่ลงหนักๆ มิใช่ พื้นฐานเปลี่ยน แต่เป็นเพราะคนนามสกุล วิไล...บางราย ถูกโบรกเกอร์ บังคับขายหุ้น  ทำให้ราคาหุ้นSAMART หล่นจากฟากฟ้า วานนี้ ราคาหุ้นSAMART ปิดที่ 4.08 บาท ลดลง 30 สตางค์  คิดเป็น 6.85% หมากเกมนี้ เกมจะพลิกขึ้นมาได้  เจ๊มดแดง มองและต้องฝากความหวังไว้ที่ทั่นวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์และ วิไลลักษณ์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง ส่วนรายใหญ่ๆอย่างบลจ.บัวหลวง และ นเรศ งามอภิชน ตอนนี้ก็คงหน้ามืด  หน้าดำกันไปหมด....ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน คร้า

                    ***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน***