
HotNews : ALL จ่อเทรด mai กลางเดือน พ.ค.62
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (4 เมษายน 2562) ALL คาดเคาะราคา IPO - จองซื้อเดือน เม.ย.นี้ หวังเข้าเทรด mai กลางเดือน พ.ค.62 ระดมเงินทุนพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายพื้นที่ให้มีศักยภาพ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานในอนาคต
นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า คาด ALL จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ประมาณกลางเดือน พฤษภาคม 2562 หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุญาตแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนเรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ ALL เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.79 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท คาดว่าจะมีการกำหนดราคาเสนอขาย IPO และเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในช่วงปลายเดือนเมษายนหลังจากนั้นคาดว่าหุ้น ALL จะเข้าซื้อขายวันแรกประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2562 นี้
สำหรับวัตถุประสงค์ในการระดมเงินทุนที่ได้จากการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งนี้ เพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายพื้นที่ให้มีศักยภาพ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานในอนาคต

ALL ประกอบธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยทั้งโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยประเภทคอนโดมิเนียม และโครงการอสังหาริมทรัพย์ประเภทแนวราบ เช่น ทาวน์โฮม รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้แก่ การให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ การลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อย และการให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด
กลุ่มบริษัทเป็นผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่เน้นพัฒนาโครงการทั้งแนวสูงและแนวราบ ในทำเลที่ตั้งบริเวณแนวระบบขนส่งมวลชนระบบรางของกรุงเทพฯ
โดยเฉพาะรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ โดยเน้นฟังก์ชั่นการใช้งาน การออกแบบที่ทันสมัยพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่ครบครัน การออกแบบพื้นที่ใช้สอยให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งแวดล้อมที่ดี ในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ ตามแนวคิด Class of Living “ชีวิตที่มีระดับ คือชีวิตที่คุณเลือกเอง” ปัจจุบันกลุ่มบริษัทประกอบธุรกิจหลัก 4 ธุรกิจ โดยมีรายละเอียดสรุปดังนี้

1. ธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย แบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1.1 โครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัย แบบ Low Rise และ High Rise เน้นทำเลที่ตั้งบริเวณแนวระบบขนส่งมวลชนระบบรางในเขตกรุงเทพฯ เป็นหลักภายใต้ชื่อโครงการดังนี้
1.1.1 โครงการภายใต้ชื่อ “The Excel” พัฒนาภายใต้บริษัทฯ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise เน้นทำเลที่ตั้งที่มีความหนาแน่นของประชากรและผู้อยู่อาศัย การออกแบบมีความเป็นเอกลักษณ์ สวยงาม ทันสมัย และมีการบริหารจัดการพื้นที่ใช้สอยในโครงการให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งในส่วนของพื้นที่ห้องพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลาง และสิ่งแวดล้อมโดยรอบ ภายใต้แนวคิด “Luxury Assemble” โดยมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีรายได้ระดับกลาง ซึ่งมีรายได้ประมาณ 25,000-50,000 บาทต่อเดือน โดยขนาดห้องชุดมีตั้งแต่ 25.0 – 49.0 ตารางเมตร มีทั้งแบบห้องสตูดิโอ และ 1 – 2 ห้องนอน ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 60,000-90,000 บาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขายจำนวน 8 โครงการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
1.1.2 โครงการภายใต้ชื่อ “RISE” พัฒนาภายใต้บริษัทฯ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise และ High Rise ในทำเลที่ตั้งบริเวณแนวระบบขนส่งมวลชนหลักของกรุงเทพฯ และ/หรือใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน และ/หรือใกล้ถนนใหญ่ การออกแบบโครงการจะมีลักษณะเปิดโล่ง มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครันและใช้ระบบ Home Automation มาผสมผสานเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับกลางถึงระดับบน ซึ่งมีรายได้ประมาณ 40,000-80,000 บาทต่อเดือน โดยมีขนาดห้องชุดตั้งแต่ 25.0 -70.0 ตารางเมตร ทั้งแบบสตูดิโอ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และดูเพล็กซ์ ราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณ 80,000-140,000บาท ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขายจำนวน 2 โครงการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
1.1.3 โครงการภายใต้ชื่อ “Impression” พัฒนาภายใต้บริษัทฯ เป็นคอนโดมิเนียมประเภท Luxury ในทำเลที่มีศักยภาพ การออกแบบโครงการตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ต้องการความหรูหรา โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับไฮเอนด์ ซึ่งมีรายได้มากกว่า 150,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและขายจำนวน 1 โครงการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
1.2 โครงการอสังหาริมทรัพย์แนวราบ ภายใต้ชื่อ “The Vision”
พัฒนาภายใต้บริษัทฯ เป็นอสังหาริมทรัพย์ประเภททาวน์โฮม ในมีทำเลที่ตั้งในเมือง และ/หรือใกล้ทางขึ้นลงทางด่วน โดยการออกแบบให้ใช้พื้นที่ใช้สอยเหมือนบ้านเดี่ยว เหมาะกับการใช้งานทั้ง ผู้สูงอายุ วัยทำงาน และเด็ก เน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายระดับกลาง ซึ่งมีรายได้ประมาณ 40,000-100,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มบริษัทมีโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาจำนวน 1 โครงการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)

2. ธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายอสังหาริมทรัพย์สำหรับตลาดต่างประเทศ
ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไทย ดี เรียลเอสเตท จำกัด (บริษัทย่อยร้อยละ 100) ประกอบธุรกิจให้บริการเป็นตัวแทนและนายหน้าในการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ลูกค้าหรือนักลงทุนต่างประเทศที่มีความต้องการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย เช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวัน เป็นต้น นอกจากนี้ ยังให้บริการกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายอื่นๆ เช่นเดียวกัน โดยกลุ่มบริษัทไม่มีมีนโยบายในการให้บริการกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ของผู้ประกอบการรายอื่นที่อาจจะทำให้เกิดการแข่งขันกับโครงการของกลุ่มบริษัทโดยตรง (Conflict of Interest) (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
3. ธุรกิจลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จ
ดำเนินงานภายใต้บริษัท ไรส์ เอสเตท จำกัด (บริษัทย่อย ร้อยละ 100) ประกอบธุรกิจลงทุนและซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างแล้วเสร็จแต่ยังขายไม่ได้ จากผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายย่อย โดยจะทำการค้นหาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พัฒนาเสร็จแล้วในทำเลที่มีความต้องการของตลาด ในทำเลที่ตั้งบริเวณแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และ/หรือรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และ/หรือเป็นทำเลที่มีศักยภาพเช่น ศูนย์กลางธุรกิจใหม่ (New CBD) เพื่อนำมาสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value Added) ไม่ว่าจะเป็นปรับปรุง ตกแต่ง และขายต่อแก่ลูกค้าของกลุ่มบริษัท (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
4. ธุรกิจให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด
ดำเนินงานภายใต้บริษัท ออลล์ พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส จำกัด (บริษัทย่อยร้อยละ 100) ทำหน้าที่ให้บริการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุดของกลุ่มบริษัท โดยมีขอบเขตของการให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การบริหารจัดการนิติบุคคลฯ งานซ่อมบำรุง งานรักษาความปลอดภัย และอื่นๆ ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561 กลุ่มบริษัทให้บริการฯ ทั้งสิ้น 2 โครงการ (รายละเอียดเพิ่มเติมในส่วนที่ 2.2.2 ลักษณะการประกอบธุรกิจ)
สำหรับภาพรวมบริษัทปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ 2,343 ล้านบาท ซึ่งมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 84% มูลค่า 1,978 ล้านบาท ธุรกิจนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ 9% มูลค่า 204 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ 7% มูลค่า 161 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมียดขายที่รอรับรู้รายได้จาการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) จำนวน 11 โครงการ มูลค่า 6,354 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ภายในปี 2562 อยู่ที่ 60%
ขณะที่ในปี 2562 นี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดตัวโครงการใหม่รวม 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,250 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ (High Rise) จำนวน 3 โครงการ ได้แก่ ทำเล ทองหล่อ 12 ทองหล่อ 16 และโครงการ อิมเพรสชั่น เอกมัย (Impression Ekkamai) โครงการคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ (Low Rise) จำ นวน 3โครงการ ได้แก่ ทำเล ลาดพร้าว-สุทธิสาร 20 มิถุนาแยก 5 และลาซาล 83
ALL