Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : STPI โล่งอก ชนะข้อพิพาทกับคู่สัญญา ตปท. รอรับเงิน 2.6 พันลบ.

3,598

HotNews : STPI โล่งอก ชนะข้อพิพาทกับคู่สัญญา ตปท. รอรับเงิน 2.6 พันลบ.

 

STPI โล่งอก ชนะข้อพิพาทกับคู่สัญญาตปท.  รอรับเงิน 2.6 พันลบ.   ขณะที่ราคาหุ้น  STPI  วันนี้บวกรับข่าวทันที  ปิดวันนี้ที่  5.05  บาท พุ่ง 0.51 บาท หรือคิดเป็น 11.23%   มูลค่าการซื้อขาย  132.43 ล้านบาท 

 

นายมาศถวิน ชาญวีรกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จํากัด (มหาชน) STPI เปิดเผยว่า ตามที่บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จํากัด (มหาชน) ได้รายงานว่า บริษัทมีข้อพิพาทกับคู่สัญญาต่างประเทศรายหนึ่ง สําหรับยอดลูกหนี้การค้าที่ค้างชําระ ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 โดยคู่สัญญาดังกล่าวได้เรียกร้องค่าเสียหายจากบริษัทมาจํานวนหนึ่งด้วยเช่นกัน และบริษัทได้อธิบายในหมายเหตุประกอบ งบการเงินมาโดยตลอดแล้วนั้น

 


บัดนี้ บริษัทขอเรียนแจ้งเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2562 บริษัทได้รับทราบผลการพิจารณาข้อพิพาทดังกล่าว โดย คณะอนุญาโตตุลาการได้ตัดสินให้คู่สัญญาต่างประเทศจ่ายเงินค่าจ้างตามสัญญาที่ค้างชําระต่อบริษัททั้งหมด ตามจํานวนที่ บริษัทได้ฟ้องร้องไปที่ประมาณ 83.3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือเทียบเท่าประมาณ 2,600 ล้านบาท รวมถึงได้ยกฟ้องส่วนของ ค่าเสียหายที่คู่สัญญาดังกล่าวเรียกร้องมาทั้งจํานวน ส่วนดอกเบี้ยและค่าชดเชยค่าใช้จ่ายในการดําเนินคดีที่บริษัทเรียกร้องไป นั้น คณะอนุญาโตตุลาการจะพิจารณาในขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทจะดําเนินการขอรับชําระเงินตามคําตัดสินโดยไม่ชักช้า และจะรายงานความคืบหน้าต่อท่านเมื่อมีความ ชัดเจนมากขึ้น อย่างไรก็ดี ยังคงมีความไม่แน่นอนว่าบริษัทจะสามารถได้รับเงินตามคําตัดสินเมื่อใด อันเป็นความเสี่ยงตามปกติ ของการบังคับคดีและการเก็บเงินจากลูกหนี้การค้าหลังกระบวนการอนุญาโตตุลาการ

 



ด้านบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์เปิดเผยว่า STPI รายงานงบไตรมาส 4/2561 ขาดทุน 150 ลบ. โดยขาดทุนลดลงทั้ง YoY และ QoQ และขาดทุนน้อยกว่าที่เราคาด 12% ปัจจัยหลักที่ทำให้งบขาดทุนลดลงมาจากรายได้จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น 254%YoY และ 180%QoQ โดยเราคาดว่า STPI จะยังคงรายงานผลขาดทุนในปี 2562 แต่จะมีโอกาสพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ในปี 2563 หากชนะงานประมูลเพียงหนึ่งงานจากงานประมูลขนาดใหญ่ 4 งาน มูลค่ารวม 2.9 หมื่นลบ. ที่จะทยอยประกาศผลในไตรมาส 1/2562 จนถึงกลางปี 2562 รวมทั้งผลคำตัดสินในคดีงานก่อสร้างในออสเตรเลียที่ STPI ยื่นฟ้องเรียกค่างานก่อสร้าง ยังคงคำแนะนำ "ถือ" ที่ราคาพื้นฐาน 4.80 บาท

 

 


STPI แจงปี 61 ขาดทุน 629.38 ลบ. เหตุตั้งสำรองกรณีมีข้อพิพาทฯ

 

นางสาวสุพัตรา ยังตรง ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) STPI เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทมีรายได้จากการรับจ้างผลิต การขายและบริการ เท่ากับ 1,081.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.8% เมื่อเทียบกับ 1,003.73 ล้านบาทในปี 2560 ซึ่งแม้ว่าปริมาณงานที่รับจ้างผลิตและรับรู้ รายได้ในปี 2561ของบริษัทจะลดลง แต่อย่างไรก็ดีบริษัทย่อยสามารถขายและส่งมอบเครื่องจักรให้ลูกค้าได้มาก โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ของปี 2561 ทำให้รายได้จากการขายดีขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีรายได้จากการให้เช่าที่ดิน อาคารสำนักงานและคลังสินค้า จำนวน 106.58ล้านบาทอีกด้วย โดยเป็นรายได้ที่เริ่มรับรู้ ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม ปี 2560ซึ่งเป็นรายได้ที่จะได้รับสม่ำเสมอตลอดอายุสัญญาเช่า และเป็นไปตามนโยบายการลงทุนเพื่อสร้างประโยชน์ในระยะยาว

 


บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากการรับจ้างผลิต การขายและบริการ รวมถึงจากการให้เช่าที่ดิน อาคารสำนักงานและคลังสินค้าเป็นเงินทั้งสิ้น 138.36 ล้านบาท ซึ่งปรับตัวดีขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับขาดทุนขั้นต้นฯ 404.62 ล้านบาท สำหรับปี 2560อันเนื่องจากในปี 2560 มีการรับรู้งานระหว่างก่อสร้างจากโครงการที่มีข้อพิพาทระหว่างกันเป็นต้นทุนจากการรับจ้างผลิตจำนวน 385.28 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายโรงงานที่ไม่ปันส่วนเข้าต้นทุนโครงการสำหรับทั้งสองปีให้มีจำนวนใกล้เคียงกันที่ประมาณ 401 ล้านบาทได้

 

บริษัทมีข้อพิพาทกับคู่สัญญาต่างประเทศรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลาการ โดยในระหว่างปี2560 บริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับยอดลูกหนี้คงค้างบางส่วนเป็นจำนวน 722 ล้านบาทและตั้งสำรองเต็มจำนวนสำหรับรายได้ที่ยังไม่ได้เรียกชำระเป็นจำนวน 473 ล้านบาท รวมเป็นการตั้งสำรองทั้งสิ้นจำนวน 1,195 ล้านบาท

 

 

ค่าใช้ จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 200.14 ล้านบาท จากปี 2560 โดยมีสาเหตุหลักมาจากในระหว่างปี 2561 คณะอนุญาโตตุลาการได้นัดสืบพยานในต่างประเทศ จึงมีค่าใช้จ่ายสำหรับทนายความและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดีดังกล่าวค่อนข้างสูง นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาวิเคราะห์การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มช่องทางสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงธุรกิจหลักซึ่งมีความอ่อนไหวต่อสภาะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับบริษัทย่อยเปิดตัวเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรก่อสร้างยี่ห้อใหม่ จึงมีค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่สูงขึ้น

 

 

ปี 2561 บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 6.90 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2560 บริษัทมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสูงถึง 305.18 ล้านบาท จากการที่บริษัท ต้องปรับปรุงมูลค่าทางบัญชีของสินทรัพย์สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันสิ้นงวด (Mark to Market) ตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน

 

 

ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2560 ศาลฎีกามีคำพิพากษาเกี่ยวกับโครงการในอดีต ที่เข้าสู่กระบวนการทางศาลตั้งแต่ปี 2548 โดยบริษัทต้องรับรู้ ค่าเสียหายจากคดีความเพิ่มเติมในปี2560 เป็นเงินประมาณ 110 ล้านบาท ในขณะที่ปี 2561ไม่มีค่าใช้จ่ายในลักษณะนี้ จากสาเหตุข้างต้นทำให้บริษัทแสดงผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัท จำนวน 629.38 ล้านบาท ในปี2561ซึ่งเป็นผลที่ดีขึ้นถึง 74.78% จากผลขาดทุนสุทธิ 2,495.80 ล้านบาท ในปี 2560

 

STPI

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

1200 แตก By: แม่มดน้อย

แม่ดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ และแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทย ก็แตก 1,200 จุด ด้วยพ่อใหญ่อย่าง DELTA แม่ใหญ่ AOT เป็นหัวหอก....

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

FTI จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผถห.อนุมัติไฟเขียวทุกวาระ จ่ายปันผล 0.04 บาทต่อหุ้น

มัลติมีเดีย

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

NER บนสงครามการค้าโลก - สายตรงอินไซด์ - 24 เม.ย.68

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้