Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : หุ้น FPI นิวไฮรอบ 5 เดือน - เคาะซื้อหุ้นคืน 2.6% เพิ่มสภาพคล่อง

2,373

HotNews : หุ้น FPI นิวไฮรอบ 5 เดือน
- เคาะซื้อหุ้นคืน 2.6% เพิ่มสภาพคล่อง

 

บอร์ด FPI ไฟเขียวอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน 40 ล้านหุ้นคิดเป็น 2.64% ราคารับซื้อหุ้นละ 2.02 บาท มูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท ประเดิม 22 ก.พ.-21 ส.ค.62 ด้าน "สมพล ธนาดำรงศักดิ์" คาดช่วยเพิ่มสภาพคล่องการซื้อขาย และทำให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นสูงขึ้น ระบุฐานะการเงินแข็งแรงมีเงินสดพร้อมลงทุน ตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้โตต่อเนื่อง ขณะที่ราคาหุ้นทะยานนิวไฮรอบ 5 เดือน

 

นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อันดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงิน 150 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่ซื้อคืน 40 ล้านหุ้น คิดเป็น 2.64% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด กำหนดเวลาซื้อคืนตั้งแต่ 22 ก.พ.-21 ส.ค.62 โดยราคาเฉลี่ยที่รับซื้ออยู่ที่ประมาณ 2.02 บาทต่อหุ้น



"การเปิดโครงการรับซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ เพื่อจะช่วยสภาพคล่องการซื้อขายหุ้นเพิ่มขึ้น และในอนาคตจะทำให้อัตราผลตอบแทนส่วนผู้ถือหุ้น หรือ ROE เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันอัตราเงินปันผลมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้เพราะจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่ได้รับสิทธิเงินปันผล บริษัทฯเชื่อว่าการซื้อหุ้นคืนจะเป็นผลดี และสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น"นายสมพลกล่าว

 


กรรมการผู้จัดการยังกล่าวอีกว่า วงเงินที่จะใช้ในการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 150 ล้านบาทนั้น ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว และการนำเงินมาใช้จะไม่ส่งผลกระทบต่อฐานะทางการเงินของบริษัท ซึ่งการซื้อหุ้นคืน ถือว่าเป็นการบริหารสภาพคล่องทางการเงินเพื่อรับผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต



สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2562 คาดว่า จะมีแนวโน้มธุรกิจที่ดีขึ้นและกลับมาฟื้นตัวได้ดีกว่าปีที่ผ่านมา โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตประมาณ 10% จากปี61คาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เนื่องจากมีงานรอรับรู้รายได้ในมือประมาณ 700 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีนโยบายบริหารควบคุมต้นทุนภายในองค์และหาวิธีจัดการกับสินค้ามาร์จิ้นต่ำ ซึ่งคาดว่าจะสามารถช่วยลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี



ขณะที่แนวโน้มความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทฯ เดินหน้าขยายตลาดชิ้นส่วนรถยนต์ไป สหรัฐฯ - ยุโรปฯ- ออสเตรเลีย มากขึ้น เพราะประเทศเหล่านั้น มีความต้องการสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง ดังนั้นจะทำให้บริษัทฯได้รับผลตอบแทนที่ดีและปีนี้จะมีปัจจัยหนุนจากโรงงานที่อินเดีย จะเริ่มรับรู้กำไรอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2561 หลังจากที่ได้มีการเซ็นสัญญา เพื่อพ่นสีให้กับค่ายรถจักรยานยนต์ของญี่ปุ่น และไต้หวัน ซึ่งได้เข้าไปลงทุนในตลาดอินเดีย ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้น FPI ภายหลังจากการประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน พบว่า ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยราคาเปิดที่ 2.34 บาทต่อหุ้นและปรับขึ้นไปสูงสุดที่ 2.44 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับราคาที่สูงสุดในรอบ 5 เดือน

 


อนึ่งก่อนหน้านี้ นายสมพล เปิดเผยว่าบริษัทฯ คาดว่ากำไรสุทธิในปี 2562 จะกลับสู่ระดับสูงสุดใหม่(นิวไฮ) ได้อีกครั้งเนื่องจากในปี 2562 บริษัทฯ จะเน้นควบคุมต้นทุนทุกด้าน ทั้งต้นทุนวัตถุดิบ โดยมีการได้ล็อกต้นทุนไว้แล้ว หลังจากที่บริษัทฯที่ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนผันผวนส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทฯ ปรับตัวลดลง

 

"ปีที่ผ่านมาเป็นปีที่ไม่ดีของ FPI เพราะว่าค่าเงินบาทที่ลงมาจาก 36 บาท มาอยู่ที่ 31 บาท ทำให้กำไรเราหดหายไปเยอะมาก ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีเรามีคุยกับทีมงานแล้วว่าถ้ากรณี worst case เงินบาทอยู่ที่ 31 บาท เราทำยังไงจะให้กำไรเพิ่มขึ้น GP เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงนี้เราจะเริ่มตั้งแต่ตัววัตถุดิบเลย ตั้งแต่ต้นปีนี้เราสามารถจะ Fix ราคาวัตถุดิบ และเราจะเพิ่มเครื่องฉีดอีก 3 ตัว จะทำให้ต้นทุนของการผลิตกันชนลดลงอีก 10% หลักๆ ของเราปีนี้จะไปกดดันทุนต่างๆ แล้วก็เรื่องของ cost saving โดยเราตั้งใจลด cost ให้ได้10% ซึ่งจะทำให้ GP เราสูงขึ้นมาก แม้ว่าเงินบาทจะอยู่ที่ 31 บาทก็ตาม" นายสมพล กล่าว

 

ขณะที่จะมีการเพิ่มเครื่องฉีดอีก 3 ตัว เพื่อจะทำให้ต้นทุนของการผลิตกันชนลดลงอีก 10% สนับสนุนให้ภาพรวมของอัตรากำไรขึ้นต้น (Gross profit margin) ของปีนี้จะขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 28-30% จากเดิมอยู่ที่ 18-20% อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีการลงทุนโซลาร์ รูฟ สำหรับใช้ในโรงงาน เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้า คาด่าจะสามารถลดค่าไฟฟ้าได้เดือนละ 3-4 แสนบาท หรือปีละ 4-5 ล้านบาทได้ "ปีนี้เราตั้งใจลดตัว cost saving ให้ได้ 100 ล้านบาท" นายสมพล กล่าว

 

ด้านงบลงทุนบริษัทฯ ได้มีการวางแผนไว้ตั้งแต่ปี2561 ในด้านการลงทุนทางด้านการวิจัยและพัฒนาหรือ R&D เพื่อลงทุนในแม่พิมพ์ซึ่งเป็นหัวใจของ FPI โดยใช้งบลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท โดยได้ใช้ไปแล้ว40-50 ล้านบาทในปีที่แล้ว ส่วนปีนี้(2562) จะใช้อีกประมาณ 60 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนส่วนที่ 2 คือการลงทุนซื้อเครื่องฉีดอีก 3 เครื่อง เป็นเครื่องฉีดขนาด 2 พันตัน คาดว่าเครื่องจักรน่าจะเข้ามาประมาณเดือนเมษายน นี้ ซึ่งทันกับฤดูการขายที่วอลุ่มขายจะโตขึ้น

 


นายสมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันบริษัทฯ มีการส่งออกไป 137 ประเทศทั้วโลก โดยสัดส่วนรายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 87% และเป็นการขายในประเทศอีก 13% โดยตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จากก่อนหน้าที่ตลาดในตะวันออกกลาง และแอฟริกาตอนบนจะมีมีปัญหาค่อนข้างเยอะ เช่นที่ตุรกีค่าเงินเริ่มมีเสถียรภาพดีขึ้น ส่วนตลาดในซาดุอารเบียก็เริ่มมีแนวโน้มดีขึ้นเช่นกัน ส่วนที่อินเดียคาดการณ์ว่าจะกลับมาเป็นบวกได้ในปีนี้ หลังจากขาดทุนเดือนละ 1 ล้านบาทมา 10 เดือนต่อเนื่อง โดยขณะนี้บริษัทฯ เริ่มได้รับออเดอร์ใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องแล้ว

 

ส่วนธุรกิจพลังานทดแทน บริษัทฯ สนใจลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากมองว่า โรงไฟฟ้าชีวมวลปัจจุบันเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้ามีราคาสูงขึ้นส่งผลให้การลงทุนโครงการใหม่ๆ อัตราผลตอบแทนการลงทุน (IRR) อาจจะต่ำลง อย่างไรก็ตามหากบริษัทฯ จะเข้าลงทุนในโครงการโครงการโซลาร์ฟาร์ม ต้องมี IRR สูงกว่า 15% ขึ้นไป ถ้าต่ำกว่า 10% มองว่ายังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน นายสมพล กล่าวทิ้งท้ายว่า ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 จะมีกรปรัชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เพื่อสรุปงบปี 2561

 

FPI

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

Wait&See By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ภาคเช้าที่ผ่านมา หุ้นไทยแตะเบรค หลังวานนี้ปรับขึ้นมา แรงซื้อ แรงขาย.....

มัลติมีเดีย

มารู้จักหุ้น SNPS ก่อน IPO - สายตรงอินไซด์

มารู้จักหุ้น SNPS ก่อน IPO - สายตรงอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้