HotNews: FPI ลั่นกำไรปี65 พุ่งก้าวกระโดด
หลังลุยโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 26 เมษายน 2561)-------"สมพล ธนาดำรงศักดิ์ " บิ๊ก FPI คาดกำไรสุทธิปี 65 โตก้าวกระโดดหลังรับรู้กำไรตามส่วนแบ่งการลงทุนในโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น ที่ COD ครบ 176.72 MW พร้อมเผยบ.ร่วมทุน เซฟเอ็นเนอร์ยี่อยู่ระหว่างเจรจราร่วมลงทุนชีวมวลในประเทศ 2 ราย กำลังผลิตรวม 20 MW คาดสรุปภายในปีนี้
นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด(มหาชน) หรือFPI เปิดเผยว่าในปี2565บริษัทคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204 ล้านบาท หลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อหุ้นในสัดส่วน 40% หรือคิดเป็นเงินลงทุน 1.69 พันล้านบาท ในบริษัท ทีเอสอี โอเวอร์ซีส์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่เป็นบริษัทย่อย ของ บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE และบริษัท ฟอร์จูน พาร์ท อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ FPI ในสัดส่วน 60 : 40 ในการร่วมพัฒนาโครงการทั้งหมด 8 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตรวม 176.72 เมกะวัตต์ มูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาทและพลังงานทดแทนรูปแบบอื่นๆในอนาคต
ส่งผลบริษัทฯ คาดว่าจะสามารถรับรู้ผลตอบแทนจากการลงทุนเข้ามาเป็น กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อม และค่าจัดจำหน่าย (EBITDA) ในปี 2565 เป็นต้นไป จำนวนมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี ภายหลังจากที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ครบทั้ง 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 176.72 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้รับกำไรตามสัดส่วนการลงทุนกับ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) หรือ ECF จัดตั้ง บริษัท เซฟ เอนเนอร์จี โฮล์ดิ้ง จำกัด (SAFE) เพื่อร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วน 33.37% ซึ่งจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเข้ามาประมาณ 35 ล้านบาทต่อปีซึ่งในปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศเพิ่มเติมอีก จำนวน 2 ราย กำลังการผลิตรวม 20 MW ในพื้นที่ภาคใต้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
นายสมพล มั่นใจว่าการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับ TSE ในครั้งนี้จะช่วยผลักดันกำไรและกระแสเงินสดของบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยทำให้มีรายได้ประจำ (Recurring Income) เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และช่วยกระจายความเสี่ยงการดำเนินธุรกิจ ซึ่งก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้ลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 7.5 เมกะวัตต์ ใน จังหวัดนราธิวาส จะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ ใน จังหวัดแพร่ ซึ่งเตรียมจะ COD ในเดือนพ.ค.นี้
สำหรับเม็ดเงินลงทุนร่วมกับ TSE ในครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 1,695 ล้านบาท ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยเงินลงทุนมาจากการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงิน กระแสเงินสดของบริษัท และเงินที่ได้รับจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ์
“นับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับ FPI ที่จะทำให้ปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ มีความมั่นคงและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต่ละก้าวที่เดินไปคณะผู้บริหารต้องมั่นใจว่าเมื่อตัดสินใจดำเนินการแล้วต้องก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะผู้ถือหุ้นทุกท่าน และนี่คือความท้าทายครั้งใหม่ ซึ่งเรามั่นใจว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ สร้างความมั่นคงได้ในระยะยาว อันจะเป็นรากฐานสำคัญสู่การเติบโตที่ยั่งยืนต่อไปในอนาคต” นายสมพล ธนาดำรงศักดิ์ กล่าวในที่สุด
นายสมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า มติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2561เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2561 มีมติอนุมัติการได้มาซึ่งหุ้นไม่เกินร้อยละ 40 ของทุนจดทะเบียนชําระแล้วของบริษัท ทีเอสอีโอเวอร์ซีส์กรุ๊ป จํากัด(“TSEO”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัท ไทย โซล่าร์เอ็นเนอร์ยี่จํากัด (มหาชน) (“TSE”)ถือหุ้นในอัตราร้อยละ 100ของทุนจดทะเบียนชําระแล้ว คิดเป็นหุ้นสามัญจํานวนท้ังสิ้น 74,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท ที่มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 1,695 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัท ทีเอสอีโอเวอร์ซีส์กรุ๊ป จํากัด(“TSEO”)ลงทุนในโครงการ 6โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเภทติดตั้งบนพื้นดินในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งสิ้น 8 โครงการ ขนาดกําลังการผลิตรวมเท่ากับ176.72 เมกะวัตต์
สำหรับผลประโยชน์ที่คาดว่าบริษัทฯ จะได้รับ1) เป็นการเปิดโอกาสสําคัญให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ไปยังประเทศญี่ปุ่น2) ช่วยส่งเสริมให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและเพิ่มกระแสเงินสดจากการดําเนินงานของบริษัทในอนาคต3) สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯและผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในระยะยาว 4) ช่วยกระจายความเสี่ยงของบริษัทฯ ที่ลงทุนในประเทศไทย ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากความผันผวนด้านเศรษฐกิจ ด้านการเมือง และด้านนโยบายของรัฐที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทน โดยการขยายการลงทุนไปยังประเทศญี่ปุ่น
ด้านแหล่งเงินทุนที่ใช้บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากการสนับสนุนสินเชื่อจากสถาบันการเงิน กระแสเงินสดของบริษัท และเงินที่ได้รับจากการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสําคัญแสดงสิทธิ
ขณะที่พิจารณาอนุมัติการแต่งตั้ง บริษัท ฟินเน็กซ์แอ๊ดไวเซอรี่จํากัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ เพื่อทําหน้าที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ทีเอสอีโอเวอร์ซีส์กรุ๊ป จํากัด
----จบ----