สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(15 พฤศจิกายน 2561)

CPF ตั้งเป้าอีก 5  ปีข้างหน้า โกยยอดขายมากกว่า 6 แสนล้านบาท กิจการในต่างประเทศ พุ่งเป็น 75%ของยอดขายรวม พร้อมเผย 9 เดือนแรกปี 2561โกยยอดขาย 398,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%  จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ระบุส่วนใหญ่มาจากกิจการในต่างประเทศ  โบรกฯ ชี้ กำไรปกติ 3Q61 ดีกว่าคาด มองแนวโน้ม Q4/61 และ ปี2562 ยังดี ให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 29 บาท แนะนำ "ซื้อ" 

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ “ซีพีเอฟ” รายงานผลการดำเนินงานสำหรับระยะเวลา 9 เดือนแรกปี 2561 ด้วยยอดขาย 398,261 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการเติบโตส่วนใหญ่มาจากกิจการในต่างประเทศ“ด้วยกลยุทธ์การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับองค์กร ซีพีเอฟได้มีการขยายการลงทุนไปยังประเทศที่มีศักยภาพในการเติบโตของธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนาและมีความต้องการพัฒนาการเลี้ยงสัตว์ให้ทันสมัยได้มาตรฐาน มาถึงวันนี้ได้มีการลงทุนทั้งสิ้นจำนวน 17 ประเทศ มีการขยายตัวของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ยอดขายจากกิจการในต่างประเทศนี้คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 67 ของยอดขายรวม และในรอบระยะเวลา 9 เดือนแรกของปีนี้มีการเติบโตร้อยละ 12 จากระยะเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยกิจการในประเทศเวียดนามมีการเติบโตสูงสุด” นายสุขสันต์ เจียมใจสว่างฤกษ์ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม และกรรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวถึงการเติบโตของยอดขายที่ผ่านมาในปีนี้ ผลการดำเนินงานของ 9 เดือนแรกปีนี้ บริษัทสามารถทำกำไรได้จำนวน 13,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 7 ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากราคาสุกรในประเทศเวียดนามและกัมพูชาที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา คาดว่าผลการดำเนินงานของปีนี้น่าจะเป็นไปตามเป้าหมาย และน่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องในปี 2562 จากการขยายตัวของธุรกิจในต่างประเทศบริษัทตระหนักถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ย และกำลังซื้อของผู้บริโภค จึงได้ให้ความสำคัญในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่มีอัตราลดลง และการจัดการบริหารด้านการเงินที่มีการออกและจำหน่ายหุ้นกู้ระยะยาวที่เพื่อให้มีต้นทุนดอกเบี้ยที่ต่ำลง

นายสุขวัฒน์ ด่านเสริมสุข ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจอาหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) กล่าวถึงโอกาสในการขยายธุรกิจอาหารว่า บริษัทได้จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาฯ ขึ้นเพื่อสรรสร้างสินค้าอาหารให้ตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในทุกระดับอายุ รวมไปถึงสินค้าอาหารเพื่อผู้ป่วยและผู้สูงวัย มองว่าการแข่งขันในธุรกิจอาหารพร้อมรับประทานมีความท้าทายขึ้น การมีนวัตกรรมในการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นต่างๆ จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจนายสุขสันต์ กล่าวถึงเป้าหมายยอดขายของซีพีเอฟว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า บริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายจำนวนมากกว่า 600,000 ล้านบาท โดยกิจการในต่างประเทศเป็นกิจการหลักในการผลักดันการเติบโตและมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเทศไทย โดยคาดว่า กิจการในต่างประเทศจะมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 75 ของยอดขายรวมด้วยวิสัยทัศน์ของซีพีเอฟสู่การเป็นครัวของโลกอย่างยั่งยืน มุ่งผลิตสินค้าคุณภาพ ปลอดภัย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ ยึดมั่นในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ดูแลและรับผิดชอบต่อสังคมรอบด้านบนพื้นฐานของการกำกับดูแลกิจการที่ดี ซึ่งได้รับการยอมรับด้านความยั่งยืนจากองค์กรทั้งในประเทศและระดับโลกในด้านต่างๆ อันรวมถึง การได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกหุ้นยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืน DJSI และ FTSE4Good ติดต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง นายสุขสันต์กล่าว

บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า CPF ประกาศกำไรสุทธิสำหรับ 3Q61 ที่ 4,912 ล้านบาท ลดลง 17%QoQ และทรงตัว YoY โดยการลดลงจากไตรมาสก่อนเนื่องจากรายการพิเศษ หากไม่นับรวมรายการพิเศษจะมีกำไรปกติ 3,621 ล้านบาท ดีขึ้น 61%QoQ และ 89%YoY สูงกว่ากำไรปกติที่เราคาดไว้ก่อนหน้า หลังจากทั้งยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าคาด โดยในไตรมาสนี้ยอดขายเติบโตได้ 4%QoQ และ 12%YoY ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก 12.2% ในไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 13.9% ปัจจัยหนุนหลักมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจหมูในหลายประเทศ เนื่องจากราคาหมูในหลายประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะราคาหมูในเวียดนามที่อยู่ที่เฉลี่ย 50,693 ดอง/กก. ดีขึ้น 20%QoQ และ 65%YoY นอกจากธุรกิจในเวียดนามแล้ว ธุรกิจในหลายประเทศก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน อาทิ กัมพูชา ตุรกี รัสเซีย และฟิลิปปินส์เราคาดว่าราคาหมูในไทยและเวียดนามจะยังอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2562 เนื่องจากปริมาณการเลี้ยงที่ลดลงในช่วงก่อนหน้าต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผลผลิตเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณการเลี้ยงไก่ในไทยอาจยังอยู่ในระดับสูง แต่ตลาดส่งออกไก่ที่กำลังขยายตัว ทั้งจากยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ทำให้ราคาไก่ในประเทศปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 4Q61 และปี 2562 จึงยังสดใส โดยคาดกำไรสุทธิปี 2561 ที่ 16,513 ล้านบาท เติบโต 8.2%YoY และกำไรสุทธิปี 2562 ที่ 19,112 ล้านบาท เติบโต 15.7%YoY

ประเมินราคาเป้าหมายปี 2561 ที่ 29 บาท อิง PBV 1.3 เท่า ราคาหุ้นปัจจุบันอาจยังไม่สะท้อนผลประกอบการ 3Q61 ที่ออกมาดีกว่าคาด จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"

บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ เปิดเผยว่า CPF รายงานกำไรปกติ 3Q18 ที่ 3.9 พันลบ. +31.0%YoY, 50.5% QoQ ดีกว่าคาด 9% เนื่องจากธุรกิจหมูในประเทศไทยและเวียดนามฟื้นตัว มีกำไรจากการขายเงินลงทุนใน CPALL ประมาณ 1.05 พันลบ. ทำให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 4,912 ลบ. ทรงตัวจากปีที่แล้วและ-16.7%QoQ เรายังคงประมาณการปี 2018 และคาดว่าใน 4Q18 จะเห็นแนวโน้มที่ดีตัวของธุรกิจสุกรในไทย ขณะที่ตลาดสุกรในเวียดนามจะยังคงอยู่ในช่วงระดับราคาที่สูง เราประเมินมูลค่า CPF โดยอิงวิธี (SOTP) ได้มูลค่าที่ 29 บาท เรามองว่า CPF นั้นปัจจุบันซื้อขายที่ 13 เท่าต่ำกว่าค่าPER เฉลี่ย 5ปีย้อนหลังที่ 18 เท่า (ใกล้เคียง -1SD) และจะดีตามธุรกิจสุกรใน 2H18 ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ"ประเมินมูลค่า CPF โดยอิงวิธี sum of the part (SOTP) ได้มูลค่าที่ 29 บาท เรามองว่า CPF นั้นได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว ปัจจุบันซื้อขายที่ 13 เท่าต่ำกว่าค่าPER เฉลี่ย 5ปีย้อนหลังที่ 18 เท่า (ใกล้เคียง -1SD) และจะดีตามธุรกิจสุกรใน 2H18 ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" 

CPF