สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (5 กันยายน 2561)

BKD มั่นใจปีนี้กำไรจากการดำเนินงานนิวไฮจากปีก่อน มีกำไรฯ 63 ลบ. เหตุรับงานมาร์จิ้นสูง แย้มอยู่ระหว่างรอผลประมูลงานโรงแรมภาคเอกชนมูลค่าราว 500 ลบ. คาดชัดเจน 2 เดือน เตรียมรับรู้รายได้จากโครงการในเมียร์มาร์ 1,000 ลบ./ปี ใน 3 ปี ระบุ 2 ปี ลุยงานใน สปป.ลาว

นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) หรือ BKD เปิดเผยว่า บริษัทฯมั่นใจในปีนี้ จะมีกำไรจากดำเนินงานโตกว่าปี 2560 ที่มีกำไรจากการดำเนินงาน 63 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการทำสถิติสูงสุดใหม่ เนื่องจากบริษัทฯเลือกรับงานที่มีอัตราการทำกำไรสูงหรือมาร์จิ้นสูง โดยบริษัทฯจะพยายามรักษาระดับมาร์จิ้นงานในประเทศให้อยู่ระดับ 15-20%อย่างไรก็ตามการที่บริษัทฯเลือกรับงานที่มีมาร์จิ้นสูงนั้น ทำให้ลดเป้ารายได้การเติบโตปีนี้เหลือเติบโต 10% จากที่เคยตั้งเป้าไว้ รายได้ปีนี้จะเติบโต 20% เทียบกับปี 2560 มีรายได้รวม 1,892.79 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมีมูลค่างานในมือ(Backlog) ที่รอรับรู้รายได้ประมาณ 2,000 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้ภายใน 2 ปี โดยในปีนี้จะสามารถรับรู้รายได้ 40%

นางนุชนารถกล่าวว่า บริษัทฯอยู่ระหว่างรอผลการประมูลงานของภาคเอกชน ซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรมและโรงพยาบาล มูลค่าราว 500 ล้านบาท คาดว่าจะได้รับความชัดเจนภายใน 2 เดือนนี้นอกจากนี้บริษัทฯได้รับงานตกแต่งโครงการลอยคำ มูลค่า 3,000 ล้านบาท ในเมียนมาร์ ซึ่งโครงการลอยคำ มีมูลค่าโครงการ ประมาณ8,000ล้านบาท โดยจะสามารถรับรู้รายได้เฉลี่ยปีละ 1,000 ล้านบาทตั้งแต่ปี 2562-2564 และจะทำให้บริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10% และภายในระยะเวลา 2 ปี หากมีโอกาส ก็จะเข้าลงทุนในสปป. ลาว

โดยจะเน้นในงานตบแต่งภายในโรงแรมสำหรับธุรกิจน้ำประปา ซึ่งบริษัทเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 40% ในบริษัท โกลด์ ชอร์ส หรือ GS ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการผลิตและจำหน่ายน้ำประปาส่งให้พื้นที่บางส่วนของจังหวัดภูเก็ต และบางส่วนของจังหวัดพังงาใช้งบลงทุนราว 600 ล้านบาท นั้น บริษัทฯคาดว่า ไตรมาส4/2561 จะสามารถจำหน่ายน้ำประปาเชิงพาณิชย์ได้ 6,000 ลูกบาศก์เมตร และในปี 2562 หากจำหน่ายน้ำประปาได้ตามแผน 24,000 ลูกบาศก์เมตร บริษัทฯคาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯราว 40 ล้านบาทต่อปีหลังจากที่บริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุน 300 ล้านบาท จากการขายหุ้น PP ให้แก่บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ซึ่งในอนาคตจะมีการร่วมกันทำงาน โดย บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U มีแผนจะก่อสร้างโรงเรียนนานาชาติในทำเลชานเมือง ซึ่งบริษัทฯมีโอกาสจะได้รับงานตกแต่งภายในด้วยประทุมพร ม่วงเอกรายงาน: ประทุมพร ม่วงเอก / เรียบเรียง: สุกัญญา ศิริรวง

BKD เซ็น MOU รับงานตกแต่ง โครงการลอยคำ
ในเมียนมา มูลค่างานกว่า 3 พันล้านลบ.

นางนุชนารถ รัตนสุวรรณชาติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก เดค-คอน จำกัด (มหาชน) BKD เปิดเผยว่า วันนี้ บริษัทฯ ได้มีการลงนามเซ็นสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจกับ และ Mr. Sai Ywet กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดมอนด์ โรส ไมน์นิ่ง จำกัด (Diamond Rose Mining Co., Ltd.) กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารโครงการลอยคำ เรสซิเดนเชียล คอมมูนิตี้ (Loi Kham Residential Community) ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเมืองตองจี เมืองหลวงของรัฐฉาน ประเทศเมียนมาร์ โดยมี บริษัท ลีโอ อินเตอร์เนชั่นแนล ดีไซด์กรุ๊ป (Leo International Design Group Co., Ltd.) เป็นผู้ออกแบบ นางนุชนารถ กล่าวว่า ความร่วมมือทางธุรกิจในครั้งนี้ บริษัทจะเข้าไปรับงานตกแต่งภายในและงานสถาปัตย์มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาทในโครงการลอยคำฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้เริ่มเข้าไปทำบ้านตัวอย่างแล้ว และคาดว่าสิ้นปีจะเริ่มเข้าไปดำเนินการเฟสแรก โดยโครงการดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี "การที่เราเข้าไปเป็นพันธมิตรรับงานตกแต่งในครั้งนี้ เพราะเรามั่นใจว่าระบบการจัดการของบริษัทที่ใช้ระบบ Prefabrication ในการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นการผลิตเตรียมที่โรงงานเพื่อนำไปติดตั้งหน้างาน ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนและคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็เห็นศักยภาพการเติบโตของการลงทุนและกำลังซื้อที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศเมียนมาร์ " นางนุชนารถกล่าว

ด้านนายชายยอด (Mr. Sai Ywet) กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไดมอนด์ โรส ไมน์นิ่ง จำกัด (Diamond Rose Mining Co., Ltd.) กล่าวว่าโครงการลอยคำฯ เป็นโครงการบ้านที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเพียงแห่งเดียวในทำเลที่ดีที่สุด มีการคัดสรรวัสดุและดูแลการก่อสร้างอย่างเข้มข้น มีการศึกษาตลาดและมั่นใจว่าตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน โครงการมีจำนวนกว่า 140 ยูนิต แบ่งออกเป็น 5 โซน รวมมูลค่าโครงการกว่า 8 พันล้านบาท โดยจะเริ่มเฟสแรกในต้นปี พ.ศ. 2562 ซึ่งเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบนในประเทศเมียนมาร์ "โคงการลอยคำ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาเพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และการเติบโตของการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งส่งผลดีต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศเมียนมาร์ ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และโครงการลอยคำ ยังได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี" นายชายยอด กล่าว

BKD