Today’s NEWS FEED

News Feed

HotNews : TICON เพิ่ม 2 ธุรกิจใหม่ดาต้าเซนเตอร์ - สมาร์ทโซลูชั่น ลั่นปีนี้ รายได้โต 15% ตามเป้า

2,318

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์  (10 กรกฏาคม 2561)   TICON เดินหน้าตามแผนโรดแมป 3 ปี เปิดเกมรุกขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Total Dimension ขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” หรือ “The leading provider of smart industrial platform” ดึงเทคโนโลยีขั้นสูงมาต่อยอดทุกธุรกิจเต็มรูปแบบ จัดทัพครั้งใหญ่รับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล เพิ่ม 2 กลุ่มธุรกิจใหม่ “กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Centre) และ “กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น” (Smart Solution) เสริมกลุ่มเดิมที่มี “กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” (Industrial Property) หวังทะยานสู่ผู้นำอันดับหนึ่งในระดับอาเซียนภายในปี 2563 มั่นใจรายได้ปีนี้โต 15% พร้อมประเมิน 2H/61 โตกว่า 1H/61 เหตุขายสินทรัพย์เข้ากองTREIT มูลค่า 3.5 พันลบ. เผยบอร์ดไฟเขียวแล้ว คาดสัดส่วนรายได้ธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ -สมาร์ทโซลูชั่น เติบโต 10-20% ภายใน 3 ปี

 

นายปณต สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “รูปแบบธุรกิจต่างๆ ทั่วโลกกำลังถูกดิจิทัล ดิสรัปชั่น (Digital Disruption) ซึ่งเกิดจากการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีมากขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยภาครัฐได้มีการสนับสนุนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ตลอดจนผลักดันให้ผู้ประกอบการและองค์กรชั้นนำหันมาใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาธุรกิจ ความร่วมมือแบบเอ็กซ์คลูซีฟกับจัสท์โคนับเป็นโอกาสสำคัญของไทคอนในการพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจของตนให้ดียิ่งขึ้นผ่านบริการต่างๆ ที่มีเทคโนโลยีเป็นองค์ประกอบสำคัญ โดยเชื่อมั่นว่าด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตลาดประเทศไทย ตลอดจนเครือข่ายธุรกิจขนาดใหญ่ของไทคอน จะส่งผลให้การร่วมทุนครั้งนี้สามารถเสริมแกร่งซึ่งกันและกัน และช่วยให้การเข้ามาดำเนินธุรกิจและขยายเครือข่ายของจัสท์โคในประเทศไทยเป็นไปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”

 

 

นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า "ไทคอนมีความก้าวหน้าอย่างมากในการนำสมาร์ทโซลูชั่นมาผสานเข้าสู่แพลตฟอร์มธุรกิจ ซึ่งถือเป็นการขยายธุรกิจตามแผนโรดแมป 3 ปี ที่จะขับเคลื่อนองค์กรในทุกมิติ ล่าสุดประกาศวิสัยทัศน์ใหม่ ก้าวสู่การเป็น “ผู้นำการให้บริการสมาร์ทแพลตฟอร์มด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” หรือ “The leading provider of smart industrial platform” โดยเน้นการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจเพื่อให้เกิดมูลค่าและประสิทธิภาพให้ธุรกิจทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเดิมที่เป็น “กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม” (Industrial Property) รวมถึงกลุ่มธุรกิจใหม่อย่าง “กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์” (Data Centre) และ “กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น” (Smart Solution) ซึ่งจะดำเนินงานควบคู่ไปกับแนวทางการจับมือกับพันธมิตรชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อผนึกศักยภาพและนำมาเสริมธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”สำหรับแนวทางในการนำเทคโนโลยีมาเสริมศักยภาพให้ทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจ มีดังนี้

  • กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม (Industrial Property) เดินหน้านำระบบออโตเมชั่น (Automation) เทคโนโลยีสมัยใหม่ และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยี มาพัฒนาพื้นที่ให้บริการให้สามารถรองรับ

 

  • กลุ่มอุตสาหกรรม New S-Curve ในยุค 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเพิ่มมูลค่าสินค้าและบริการ ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าและโรงงานอัจฉริยะ (Smart Logistics and Smart Factory) ทั้งยังอยู่ในรูปแบบของการพัฒนาโครงการอย่างยั่งยืน มุ่งสู่การเป็นอุตสาหกรรมสีเขียว

 

  • กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Centre) หลังจากได้ประกาศจับมือกับ “เอสทีที จีดีซี” (STT GDC) บริษัทชั้นนำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์จากสิงคโปร์ เพื่อรุกธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ในประเทศไทย ล่าสุดเตรียมแผนเดินหน้านำเทคโนโลยี ความรู้ ความเชี่ยวชาญของทั้งสององค์กรมาใช้พัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่แห่งแรกบนพื้นที่ยุทธศาสตร์ใจกลางกรุงเทพฯ ตั้งเป้าเป็นดาต้าเซ็นเตอร์ที่ทันสมัย และปลอดภัย มาตรฐานระดับสากล รองรับความต้องการของผู้ประกอบการขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

  • กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น (Smart Solution) ประเดิมด้วยการผนึกพันธมิตร จัสท์โค (JustCo) ผู้ให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซ (Co-working space) ระดับพรีเมี่ยมอันดับหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในสัดส่วนการลงทุน ไทคอน 51% จัสท์โค 49% ซึ่งจัสท์โคมีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านการวิเคราะห์ข้อมูล เทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน และการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าสมาชิก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของไทคอนในการนำเสนอโซลูชั่นที่ครบวงจรมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้า

 

 


ด้าน มร.คง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและประธานอำนวยการ จัสท์โค (JustCo) กล่าวว่า “ประเทศไทยนับเป็นตลาดที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจที่มีความพร้อมเหมาะแก่การลงทุน การร่วมมือกับไทคอนที่มีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นบริษัทเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ลิมิเต็ด ซึ่งอยู่ในกลุ่มทีซีซี จะทำให้เราสามารถเข้าถึงเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจในแวดวงพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่งที่สุด ที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับตลาดในประเทศไทย รวมถึงมีพื้นที่ยุทธศาสตร์ที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของเรา ซึ่งเมื่อนำมาผสานกับประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เทคโนโลยีเกี่ยวกับสถานที่ทำงาน (Workspace Technology) และการบริหารจัดการกลุ่มลูกค้าสมาชิก (Community Management) ความร่วมมือครั้งนี้จะเสริมส่งซึ่งกันและกัน และก่อตัวเป็นพลังทางธุรกิจครั้งใหม่ที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของพันธมิตรทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ หลังจากประสบความสำเร็จในการเปิดให้บริการโคเวิร์กกิ้งสเปซสาขาแรกของจัสท์โคในกรุงเทพฯ ไปแล้วที่ เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สาขาที่สองของเรากำลังจะเปิดตัวตามมาที่ แคปปิตอล ทาวเวอร์ ใน ออล ซีซั่นส์ เพลส ในเดือนกรกฎาคมนี้ เรามุ่งเน้นเปิดให้บริการในทำเลยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจ โดยทั้งสองแห่งอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสในระยะที่สามารถเดินถึงกันได้สะดวก เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าของเรา เราเชื่อมั่นในแนวทางของเราที่จะสร้างวงจรธุรกิจ (ecosystem) ซึ่งธุรกิจทุกขนาดสามารถเอื้อประโยชน์และเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กันและกันได้”

 

 

 

นายปณต กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมั่นใจว่ารายได้ปีนี้ จะเติบโต 15% จากปี 2560 มีรายได้ 2,410.56 ล้านบาท และคาดว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2561 จะเติบโตกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทฯได้มีการขายสินทรัพย์เข้ากอง TREIT มูลค่า 3,500 ล้านบาท โดยขณะนี้ทางที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติให้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการด้านธุรกรรมทางการเงินการที่บริษัทฯได้ขยาย 2 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ "กลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์" (Data center) และ "กลุ่มสมาร์ทโซลูชั่น" (Smart Solution) บริษัทฯคาดว่าจะสามารถทำให้สัดส่วนรายได้จาก 2 กลุ่มธุรกิจนี้เติบโต 10-20% ภายใน 3 ปี (2561-2563) โดยในกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ ขณะนี้บริษัทฯได้ตั้งเป้าว่าจะก่อตั้งในกรุงเทพมหานคร เพื่อที่จะสามารถเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังมองถึงความสะดวกสบายด้านการมาใช้งานทั้งพลังงานไฟฟ้า น้ำ และความปลอดภัยเป็นหลัก คาดว่าจะใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง 10-15 ไร่ และมีขนาดข้อมูลไม่ต่ำกว่า 1,000 rack ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างรอสรุปงบลงทุน และรายละเอียดด้านสถานที่คาดว่าจะสามารถให้รายละเอียดชัดเจนได้ประมาณช่วงไตรมาสที่3-4/2561สำหรับกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโซลูชั่น บริษัทฯได้วางเป้าหมายให้บริการพื้นที่co-working รวม 300,000 ตร.ฟุต ในอีก 2 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันที่จัสท์โคมีอยู่ 40,000 ตร.ฟุต ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตึกเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ โดยเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนพฤษภาคม และกำลังจะเปิดให้บริการอีก 1 แห่ง ที่ตึกแคปปิตอล ทาวเวอร์ ในออลซีซั่นส์ เพลส ในเดือนกรกฎาคมนี้ โดยมีพื้นที่ประมาณ 40,000 ตร.ฟุตอีกทั้งทางจัสท์โคยังเล็งขยายพื้นที่ให้บริการ co-working เพิ่มอีก 8-9 แห่งภายใน 2-3 ปีนี้นอกจากนี้การขยายธุรกิจเดิมของบริษัทฯ ซึ่งเป็นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ภายใน  3  ปี บริษัทฯได้วางงบลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อขยายคลังสินค้าและโรงงานเพิ่มเติม

 TICON 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

บทความล่าสุด

HotNews: IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด

IND เตรียมศึกษาธุรกิจใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาด ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ไว้ไม่ต่ำกว่า 15%

สถานบันเทิงครบวงจร By: แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ ยินดี สภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ลงมติ รายงานผลการศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร...

มัลติมีเดีย

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

QTCG กระแสตอบรับดี/เปิดพื้นฐานก่อนเทรดวันที่ 4 เม.ย. - สายตรงอินไซด์ - 29 มี.ค.67

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้