HotNews: กังหันลม หนุนผลงานโค้ง2
GUNKUL ฟื้น

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 16 พฤษภาคม 2561)---------บิ๊ก GUNKUL มั่นใจQ2/61 ผลงานฟื้น หลังCOD โรงไฟฟ้าพลังงานลมครบ 3 แห่ง ดันรายได้โต เล็งลงทุนโซลาร์อีก 10 Mw ในมาเลเซีย จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตแล้ว 30 Mw คาดปลายเดือน พ.ค. นี้ ประกาศ Private PPA เพิ่มตั้งเป้าปีนี้ลุย 100 Mw เผยซื้อกิจการฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล หนุนรายได้งานก่อสร้างโตต่อเนื่อง คาดถึงจุดคุ้มทุนไม่เกิน 3 ปี

นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) GUNKUL เปิดเผยกับสำนักข่าวหุ้นอินไซด์ว่า คาดผลประกอบการไตรมาส2/61 จะฟื้นตัว จากไตรมาส1/61 ที่มีผลขาดทุน 109.11 ล้านบาท ซึ่งมีสาเหตุมาจาก การบันทึกผลค่าธรรมเนียมการยกเลิกสัญญาสิทธิซื้อขายเงินตราต่างประเทศและขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการนำเข้าอุปกรณ์เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้ากังหันลม 3 โครงการ ขนาด 170 เมกะวัตต์ ซึ่งบริษัทฯ ต้องนำเข้ากังหันลมทั้ง 3 ชุด ในรูปสกุลเงินตราต่างประเทศ ซึ่งในช่วงระยะเวลาดังกล่าวค่าขึ้นบาทแข็งค่าขึ้นค่อนข้างมากบริษัทฯ จึงได้รับกระทบ อย่างไรก็ตามผลขาดทุนที่เกิดขึ้น จะเกิดขึ้นเฉพาะในไตรมาสแรกซึ่งเป็นผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งบริษัทมีการบันทึกขาดทุนทางบัญชีไปในไตรมาสนี้เรียบร้อยแล้ว
" ผลประกอบการไตรมาส1/61 ซึ่งถ้าดูข้อมูลเพียงผิวเผินจะเห็นว่าบริษัทฯ มีผลประกอบการที่ขาดทุน 109 ล้านบาท โดยประเมินแต่ถ้าไปดูในรายละเอียดที่เราชี้แจงก็จะพบว่าในข้อร้ายมีข้อดี คือว่าถ้าดึงตัวผลกระทบจากการยกเลิกสัญญาสิทธิซื้อขายเงินตราต่างประเทศ 588 ล้านบาท และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นในงวดนี้อีก 57 ล้านบาท แต่ถ้าเราบวกกับเข้าไปแปลว่าไตรมาสนี้ เรามีกำไรประมาณ 535 ล้านบาท ซึ่งถ้าเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว เรามีกำไร 185 ล้านบาท " นายสมบูรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ ในด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส2/61 ยังมีปัจจัยสนับสนุน จากการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการโรงไฟฟ้ากังหันลมโครงการที่ 3 ซึ่งคาดว่าจะCOD ประมาณต้นเดือนมิถุนายน นี้ ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างเป็นสาระสำคัญจากรายได้ขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มรับซื้อไฟฟ้าตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีนี้เป็นต้นไป
" 3 ไตรมาสที่เหลือบริษัทเชื่อว่าโครงการกังหันลมจะทำรายได้ให้แก่บริษัทเป็นอย่างมาก เนื่องจาก โครงการลม ทั้ง 3 โครงการ COD 100% คาดว่ารายได้ 40%จะอยู่ในไตรมาสที่ 4 ทั้งหมด ซึ่งเมื่อปีที่แล้วโครงการลมโครงการเดียว บันทึกรายได้ประมาณเกือบ 300 ล้านบาท แต่ถ้า 3 โครงการอาจจะถึง 1 พันล้านบาท บริษัทเชื่อมั่นว่าตัวกำไรที่คาดว่าจะเกิดขึ้น คาดปลายปีนี้ไม่ขาดทุนแน่นอน " นายสมบูรณ์ กล่าว
อีกทั้งบริษัทฯ ยังได้ขยายธุรกิจงานก่อสร้างระบบไฟฟ้า โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดี เวลลอปเม้นท์ จำกัด (GPD) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GUNKUL เข้าซื้อกิจการ บริษัท ฟิวเจอร์ อีเล็คทริคอล คอนโทรล จำกัด (FEC) ในสัดส่วน 100%ด้วยมูลค่าลงทุน 650 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างระบบไฟฟ้า แบบเหนือดิน เคเบิ้ลใต้ดิน และสถานีไฟฟ้า ทำให้บริษัทสามารถรักษาระดับรายได้จากธุรกิจก่อสร้างได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปีก่อนมีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวประมาณ 2-3 พันล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันFEC มีงานในมืออยู่แล้ว 700 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าการเข้าไปลงทุนในFEC จะถึงจุดคุ้มทุนไม่เกิน 3 ปี
ส่วนการลงทุนในโครงการลงทุนโรงไฟฟ้า บริษัทฯ ได้เน้นขยายการลงทุนในต่างประเทศ โดยปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตรวม 207 เมกะวัตต์ โดย 2 โครงการแรกซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Sendai และ Kimitsu มีกำลังการผลิตรวม 65 เมกะวัตต์ คาดเปิดดำเนินการในไตรมาส4/61 ส่วนอีก 2 แห่งซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Utsunomiya และ Iwakuni มีกำลังการผลิตรวม 142 เมกะวัตต์ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ
นอกจากนี้ยังมีโรงไฟฟ้าอีก 1 แห่งในประเทศมาเลเซีย ขนาดกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ คาดปิดโปรเจ็คไฟแนนซ์ไม่เกินเดือน กันยายนนี้จากนั้นเริ่มก่อสร้าง อีกทั้งยังมีแผนจะลงทุนอีก 10 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วๆ นี้
"GUNKUL ปีนี้ จะมีความคืบหน้าในการ COD ไฟเยอะ ที่มีอยู่ 513 เมกะวัตต์ ปีนี้คาดว่าน่าจะถึง 200 เมกะวัตต์ที่จะ COD ในปีนี้ คือลม 2 แห่ง กับที่ญี่ปุ่น " นายสมบูรณ์ กล่าว
นายสมบูรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้เข้าไปลงทุนโซลาร์ Private PPA มากขึ้น โดยตั้งเป้า 100 เมกะวัตต์ในปีนี้ ซึ่งปลายเดือน พฤษภาคม นี้คาดว่าจะมีการประกาศ Privat PPA เข้ามาเพิ่มเติม โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563 คาดว่าสามารถทำได้ตามเป้าหมาย
" เรามีความเชื่อมั่นว่า โครงการลมทั้ง 3 โครงการ จะส่งมอบรายได้ให้เราค่อนข้างดี ชุดหนึ่งประมาณ 700 ล้านบาท ถ้ามาเต็ม 3 ชุด ควรจะเป็นรายได้ 2.1 พันล้านบาท ซึ่งได้ Adder 6.50 บาท ฉะนั้นตัว Bottom line ก็จะค่อนข้างดี แล้วก็ในส่วนของโซลาร์เราเริ่มขยายตลาดไปเอกชนมากขึ้น ปีนี้เราคาดการณ 100 เมกะวัตต์ อีกส่วนหนึ่งเชื่อว่างานรับเหมาก่อสร้างจะมีการเติบโตตามงบประมาณภาครัฐ โดยเฉพาะในEEC " นายสมบูรณ์ กล่าว

--จบ---