Market Wrap-Up
- SET วันที่ 29 ธ.ค.68 ปิด -5.22 จุด อยู่ที่ 1,254.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 23,709 ลบ. ต่างชาติขาย 608 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 2,082 ลบ. สถาบันซื้อ 483 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,208 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 61 ลบ.โดยมียอดซื้อ DELTA,PTT,BANPU,TRUE,AOT และยอดขายหุ้นCPALL,KBANK,BBL,SCB,PTTEP มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 775 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CNTECH01,KKP,EGCO โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 9,295 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 71,324 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 1,439 ลบ
Market View
- DJIA -0.51%, S&P500 -0.35%, Nasdaq -0.50% จากแรงชายกลุ่มเทค ฯ เช่น Nvidia -1.2%, Palantir Tech -2.4% และ Oracle -1.3% ขณะที่กลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับลดลงจากแรงขาย Tesla -3.3% และกลุ่มวัสดุ -0.96% จากแรงขายกลุ่มเหมืองโลหะมีค่าที่ปรับลดลงตามราคาทองคำ & โลหะเงิน ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ พลังงาน +0.95% ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ WTI +2% นักลงทุนยังว่าจะเกิดภาวะ Santa Claus Rally หรือไม่ ซึ่งจากสถิติในอดีต S&P500 มักปรับขึ้นเฉลี่ย +1.3% ในช่วง 5 วันสุดท้ายของปี และ 2 วันแรกของ ม.ค. คือปีนี้อยู่ในช่วง 24 ธ.ค. – 5 ม.ค.69 ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจค่ำวันนี้ติดตามดัชนีราคาบ้านสหรัฐ ต.ค. และ Fed Minutes 9 – 10 ธ.ค. เพื่อประเมินโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยในปีหน้า
- Stoxx600 ยุโรป +0.09 ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี, ค้าปลีก และกลุ่มอาหาร & เครื่องดื่ม ขณะที่กลุ่มกลาโหมและอากาศยานปรับลดลง นำโดย Leonardo -2%, Rheinmetall -1% หลัง ปธน.ทรัมป์ได้หารือกับ ปธน.เซเลนสกี่ของยูเครน ซึ่งมีแนวโน้มเชิงบวกต่อการทำข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ส่วนกลุ่มการเงินก็ถูกแรงขายทำกำไร หลังราคาหุ้นกลุ่มนี้ +65% YTD โดยได้ปัจจัยหนุนจากธุรกรรมควบควมกิจการ, ผ่อนคลายกฏข้อบังคับ และภาวะเศรษฐกิจของยูโรโซนที่ฟื้นตัว
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้นิเกอิ -0.44% ถูกกดดันจากค่าเงินเยนกลับมาแข็งค่าอยู่ที่ 156.26 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลลบต่อหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ขณะที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรญี่ปุ่นอายุ 30 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 3.435% ซึ่งเป็นผลบวกต่อกำไรของหุ้นกลุ่มธนาคารของญี่ปุ่น ส่วน Kospi เกาหลีใต้ +2.20% นำโดย SK Hynix +6.8% หลังตลาดหลักทรัพย์เกาหลีใต้ยกเลิกคำเตือนการลงทุนในวันนี้ หลังราคาหุ้น SK Hynix ปรับขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และยังได้แรงหนุนจากกลุ่มยานยนต์และกลุ่มป้องกันประเทศ ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.04% หลังกระทรวงการคลังจีนเผยจะขยายการลงทุนอย่างเจาะจงเป้าหมาย เช่น ภาคการผลิตขั้นสูง, นวัตกรรมทางเทคโนโลยี, การพัฒนาทุนมนุษย์ และโครงการแลกเปลี่ยนสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อกระตุ้นการบริโภค สัปดาห์นี้ติดตาม PMI ภาคการผลิต & บริการ จีน & ญีปุ่น ธ.ค.
- SET วานนี้ -0.41% ปริมาณการซื้อขาย 43 หมื่น ลบ. พอร์ตโบรกขาย 2,082 ลบ. ต่างชาติขาย 608 ลบ. สถาบันซื้อ 483 ลบ. และรายย่อยซื้อ 2,208 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มขนส่ง นำโดย THAI -8.07% หลังข้อมูลผู้โดยสารในช่วง ต.ค. – พ.ย. 68 -4.9% อยู่ที่ 2.75 ล.คน ซึ่งอาจส่งผลให้กำไร THAI ในงวด Q4/68 ชะลอตัวแม้ว่าจะอยู่ในช่วง High Season กอปรกับศาลแพ่งสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามบอร์ดการบินไทยชุดใหม่เข้าปฏิบัตหน้า โดยยังต้องรอศาลนัดไต่สวนในวันที่ 6 ม.ค. 69 โดยภาพรวมยังไม่มีปัจจัยบวก / ลบใหม่ที่เข้ามากระทบดัชนี SET อย่างขัดเจน แต่ยังมีแรงขายปรับพอร์ตจากการ Roll Over สัญญา Futures ที่หมดอายุสัญญาใน ธ.ค. ส่วรประเด็นที่ต้องติดตามในช่วงหลังปีใหม่ คือ การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. ซึ่งจากสถิติดัชนี SET มักผันผวนในช่วง 1 เดือนก่อนการลงคะแนนเสียง แต่ในช่วง 3 เดือนหลังทราบผลการเลือกตั้งดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นเฉลี่ย +5.6%
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET ที่ 1,240 – 1,250 แนวต้าน 1,260 – 1,270 คาดดัชนีมีโอกาสทรงตัวก่อนช่วงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ และอยู่ระหว่างรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง แนะนำทยอยซื้อกลุ่มปลอดภัย & จ่ายปันผลสูง เช่น HMPRO, PTT, PTTEP, SCB, KTB, CPNREIT, WHART, BCH, LH
- MINT* (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 32.75 บาท) คาดกำไร 4Q68 โต YoY ตาม RevPar ที่ +YoY จาก 1) โรงแรม Anantara 5 แห่งที่ renovate กลับมาเปิดซึ่งคาดจะช่วยหนุน ADR ให้ดีขึ้น 2) ยอดเข้าพักมัลดีฟดีต่อเนื่อง, ยุโรปยังบวก SSSG ธุรกิจอาหารฟื้นตัว ส่วนปี 69 มีแผนตั้ง REIT 1.2-1.5 พันลบ.ใน 2Q-3Q69 และ IPO ธุรกิจอาหาร (กำลังรอรายละเอียด) ซึ่งจะช่วยลดหนี้และดอกเบี้ยจ่าย บริษัทคงเป้า 2025-2028 เติบโตรายได้ 7-9% และกำไร +15-20% consensus คาดกำไรปี 68 ที่ 8,978 ลบ.+16%YoY และปี 69 ที่ 10,055 ลบ.+12% YoY
- KCG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมายBloombergConsensus 11.00 บาท) กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 89 ลบ. (+16%YoY, -10%QoQ ) อ่อนตัว QoQ ตามฤดูกาล แต่ YoY ยังโตดีหนุนจากสินค้ากลุ่ม Dairy และกลุ่ม Food and Bakery Ingredient ขณะที่ในส่วนของต้นทุนค่าใช้จ่าย ได้ประโยชน์จาก Solar Roof รวมถึงการเปิดใช้งาน KCG Logistic Park ด้านการดำเนินงานในช่วงไตรมาส4 นี้ คาดว่าจะดีได้ต่อเนื่อง เข้าสู่ High Season และมีปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐฯ รวมถึงได้ประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิ KCG* ปี68 และ69 จะอยู่ที่ 455 ลบ.(+12%YoY) และ 514 ลบ.(+13%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(+) WTI ก.พ. +$1.34 อยู่ที่ $58.08 / บาร์เรล, Brent ก.พ. +$1.30 อยู่ที่ $61.94/บาร์เรล หลังยูเครนได้ใช้โดรนโจมตีบ้านพักของ ปธน.ปูติน ในแคว้นนอฟโกรอด ขณะที่กองกำลังพันธมิตรนำโดยซาอุ ฯ ได้โจมตีทางอากาศในเยเมน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันในตะวันออกกลาง
Gold Update(-) Comex Gold ก.พ.-$209.10 อยู่ที่ $4,343.60/ออนซ์ ถูกแรงขายทำกำไรหลังราคาทองคำในปีนี้ +65% YTD โดยทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และรอการเจรจาข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน
Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +94.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย +65.61 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโด +116.95 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -2.87 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าอยู่ที่ 31.61 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ลดลงอยู่ที่ 4.11 %
(0) ดัชนี BDI วานนี้ปิดในเทศกาลปีใหม่
(-) BitCoin เช้านี้ -1.22% อยู่ที่ 87,220 ดอลลาร์สหรัฐ
Economic Calendar
ในประเทศ
29 ธ.ค. กระทรวงการคลัง รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง
30 ธ.ค. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที่2 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทย
(ม.ค.)
ต่างประเทศ
31 ธ.ค. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ธ.ค.)
US รายงานการประชุมของ FOMC
US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
02 ม.ค. US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (ธ.ค.)
05 ม.ค. US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (ธ.ค.)
06 ม.ค. US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (ธ.ค.)
07 ม.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ธ.ค.)
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ธ.ค.)
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (พ.ย.)
09 ม.ค. US อัตราการว่างงาน (ธ.ค.)
US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ธ.ค.)
Theme Strategy
เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68
(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*
(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*
(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*
(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*
(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*
(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)
(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio December 2025: PYLON*, BDMS, ADVANC, AMATA, SHR*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th