โดยกองทุนแรกที่แนะนำสำหรับฝั่งการเติบโตคือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Technology (ES-GTECH) ซึ่งมีนโยบายลงทุนในกองทุนหลัก Polar Capital Global Technology Fund ที่เน้นลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำทั่วโลก บริหารจัดการโดย Polar Capital Funds public limited company ซึ่งกองทุนนี้มีการลงทุนและจับจังหวะที่วัฏจักรดอกเบี้ยกำลังเข้าสู่ขาลง ซึ่งตามสถิติแล้วหุ้นกลุ่มเติบโตและเทคโนโลยีมักจะมีโอกาสทำผลตอบแทนได้ดี นอกจากนี้ เรายังเห็นแรงหนุนจากการเติบโตของเทคโนโลยี AI ที่กลับเข้ามาสะท้อนในผลประกอบการไตรมาสล่าสุดอย่างชัดเจน โดยหลายบริษัทเทคโนโลยีมียอดการใช้จ่ายด้าน AI และธุรกิจ Cloud ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับกองทุนมีการกระจายการลงทุนไปทั่วโลก ไม่ได้กระจุกตัวเพียงแค่ในสหรัฐฯ ทำให้สามารถคว้าโอกาสจาก Supply Chain ของเทคโนโลยีในเอเชียได้อีกด้วย ซึ่งเหมาะสำหรับการสะสมเพื่อรับโอกาสเติบโตในระยะยาว
ในส่วนของสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง หรือ Defensive เพื่อลดความผันผวนของพอร์ต แนะนำกองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Healthcare (ES-HEALTHCARE) ที่ลงทุนในกองทุนหลัก Janus Henderson Global Life Sciences Fund บริหารจัดการโดย Janus Capital Management LLC และ Janus Capital Funds plc ความน่าสนใจของกองทุนนี้อยู่ที่การบริหารจัดการโดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีพื้นฐานด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์ระดับปริญญาเอกโดยตรง ทำให้มีความได้เปรียบในการวิเคราะห์โอกาสความสำเร็จของนวัตกรรมยาและการรักษาใหม่ๆ ได้ลึกซึ้งกว่าตลาด
กองทุนสุดท้ายที่เราแนะนำเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไปยังภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูงคือ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Active Equity (ES-ASIA) ซึ่งเน้นลงทุนในหุ้นคุณภาพดีทั่วภูมิภาคเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น โดยลงทุนในกองทุนหลักกองทุน Schroder International Selection Fund -Emerging Asia Class A2 Acc USD บริหารจัดการโดย Schroder Investment Management (Europe) S.A