Today’s NEWS FEED

News Feed

ก.ล.ต. ทำอะไรกับ “ทุนเทา” โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

99


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(22 ธันวาคม 2568)----------“ทุนเทา” น่าจะเรียกได้ว่าเป็น “ปัญหาเชิงซ้อน” เพราะมีหลายมิติทับซ้อนกันอยู่ ตั้งแต่บัญชีม้า การหลอกลวงประชาชน ธุรกิจผิดกฎหมาย เงินสีเทา และการฟอกเงิน ซึ่งนับวันจะยิ่งมีความซับซ้อนและแยบยลมากขึ้น ดังนั้นการมองปัญหาทุนเทาแบบแยกส่วนและการจัดการแบบต่างคนต่างทำ คงไม่สามารถขุดรากถอนโคนไปถึงต้นตอปัญหาได้ ต้องมองอย่างรอบด้านและแก้ปัญหาทุกจุดไปพร้อม ๆ กัน

 

ก.ล.ต. ได้เห็นปัญหาและขับเคลื่อนอย่างเต็มกำลังมาตลอดและต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ก.ล.ต. ทำงาน “เชิงรุก” ทั้งการป้องกัน ป้องปราม และปิดกั้น โดยให้ความสำคัญกับปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ร่วมทั้งการสกัดกั้นไม่ให้ทุนเทาใช้ตลาดหุ้นและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นแหล่งสนับสนุนธุรกิจผิดกฎหมาย และการฟอกเงิน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ช่องทางผ่านผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง การเข้ามาครอบงำกิจการโดยอาศัย “นอมินี” หรือเปิดบริษัทบังหน้า หรือซ่อนตัวอยู่ภายใต้โครงสร้างผู้ถือหุ้นที่ซับซ้อน รวมทั้งยกระดับความร่วมมือหน่วยงานภาครัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อสอดรับกับแนวนโยบายในการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งเป็น “วาระแห่งชาติ”

 

• สกัดกั้นเส้นทางเดินของทุนเทา

 

เนื่องจากผู้ประกอบธุรกิจตัวกลาง ทั้งผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (บล.) และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นผู้มีบทบาทสำคัญและเป็นตัวกลางที่ให้บริการลงทุนในผลิตภัณฑ์การลงทุนต่าง ๆ ก.ล.ต. จึงให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลตัวกลางดังกล่าวเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ผู้ลงทุน และป้องกันไม่ให้ธุรกิจหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลถูกใช้เป็นช่องทางการกระทำผิด จึงมีกฎเกณฑ์ที่กำหนดให้ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องทำกระบวนการทำความรู้จักตัวตนของลูกค้า (KYC) และการตรวจสอบเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับลูกค้า (CDD) และหากลูกค้าปฏิเสธการให้ข้อมูล มีข้อมูลไม่เพียงพอ ไม่เป็นปัจจุบันจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ ผู้ประกอบธุรกิจฯ ต้อง “ปฏิเสธการให้บริการ” หรือในกรณีสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการจัดกลุ่มลูกค้าตามความเสี่ยงเพื่อจำกัดวงเงินในการถอนทรัพย์สินต่อวันอยู่แล้ว

ในปี 2568 ได้มีการยกระดับการดำเนินการโดย ก.ล.ต. ร่วมกับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (TDO) ได้จัดทำมาตรการและออกมาตรฐานการป้องกันและจัดการบัญชีม้าของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล หรือ Industry Standards ที่เทียบเคียงได้กับการจัดการบัญชีม้าของภาคธนาคาร เช่น หากพบเหตุอันควรสงสัยว่าลูกค้าอาจเป็น “บัญชีม้า” ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องระงับการให้บริการ หรือดำเนินการตรวจสอบเชิงลึก (Enhanced Due Diligence: EDD) โดยทันที (ณ สิ้นเดือน พ.ย. 68 ได้ระงับบัญชีม้าไปแล้ว 45,476 บัญชี) รวมถึงออกหลักเกณฑ์กำหนดมาตรฐานและมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมรับผิดชอบความเสียหาย (shared responsibility) หากละเลยไม่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนดจนเป็นเหตุให้ลูกค้าได้รับความเสียหายตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 รวมทั้งเพื่อเป็นการตัดวงจรเส้นทางเดินของทุนเทาที่อาศัยช่องทางของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศจึงมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อปิดกั้น website/application ของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่ชักชวน
ผู้ลงทุนไทยไปใช้บริการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น (ไม่ต้องยื่นคำขอต่อศาล)

 


และแม้ว่าที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้มีการตรวจสอบ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยมีทั้งเข้าตรวจตามรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่เมื่อปรากฏเหตุและหรือเป็นข่าวสาธารณะ และพิจารณาแล้วเห็นว่า อาจมีประเด็นเรื่องการปฏิบัติตามกฎหมายหลักทรัพย์ หรือกฎหมายสินทรัพย์ดิจิทัล ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ประสานกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง ขอทราบข้อมูลและคำชี้แจง เพื่อนำไปสู่การดำเนินการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ขณะนี้ ก.ล.ต. จึงอยู่ระหว่างการตรวจสอบ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และพร้อมบังคับใช้กฎหมายหากมีการฝ่าฝืนเกี่ยวกับมาตรฐานในการทำ KYC และ CDD ด้วย นอกจากนี้ จะมีการสื่อสารความคาดหวังร่วมกับ ปปง ต่อ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เกี่ยวกับการทำ KYC และ CDD โดยกรณีที่เป็นลูกค้าในกลุ่ม “ต้องจับตามองเป็นพิเศษ” หรือมีพฤติกรรมต้องสงสัย ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการทําความรู้จักตัวตนของลูกค้า (enhanced KYC/CDD) ด้วยเพื่อให้แน่ใจว่า เป็น “ลูกค้าตัวจริง” รวมทั้งเน้นย้ำหน้าที่ของ บล. และผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องการติดตามธุรกรรมและรายงานธุรกรรมที่น่าสงสัย (Suspicious Transaction Report) ให้ ปปง. ตามกฎหมายฟอกเงิน

 

• ยกระดับยับยั้งทุนเทาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล


แม้ว่าปัจจุบัน ก.ล.ต. กำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลต้องจัดทำรายงานธุรกรรมของลูกค้าอย่างครอบคลุมทั้งธุรกรรมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Trading) ธุรกรรมการฝาก–ถอนเงินบาท ผ่านบัญชีธนาคารหรือช่องทางการชำระเงิน และธุรกรรมการฝาก–ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (wallet) หรือการโอนระหว่างกระเป๋าเงินของลูกค้า โดยข้อมูลดังกล่าวต้องถูกบันทึกและตรวจสอบผ่านระบบ e-Reporting ที่พัฒนาโดย ก.ล.ต. ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างข้อมูลกลางที่มีมาตรฐานเดียวกัน ช่วยให้สามารถกำกับดูแล ติดตาม ตรวจสอบ และเชื่อมโยงข้อมูลผู้ทำธุรกรรมกับรายละเอียดการทำธุรกรรมได้ แต่ด้วยบริบทในปัจจุบัน ก.ล.ต. ยังมีแนวคิดที่จะปรับปรุงการรายงานข้อมูลของลูกค้าให้สอดคล้องกับ แนวทางการกำกับการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของกระทรวง DE เช่น การมีข้อมูล location และ destination ของการทำธุรกรรม ซึ่งจะช่วยทำให้รู้พื้นที่ต้องสงสัยที่มีธุรกรรมหรือเพื่อติดตามเส้นทางธุรกรรม เป็นต้น


ก.ล.ต. ยังได้มีการหารือกับ ปปง. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินมาโดยตลอดเพื่อเร่งผลักดันและพร้อมสนับสนุน ปปง. ในการออกเกณฑ์ Travel Rule เพื่อกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลสามารถติดตามตรวจสอบเส้นทางเงินได้เช่นเดียวกับสถาบันการเงินประเภทอื่น ในการทำธุรกรรมโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ ก.ล.ต. เชื่อว่า เกณฑ์ Travel Rule ที่ออกตามกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินจะเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดย ก.ล.ต. พร้อมกำหนดหน้าที่ให้ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลปฏิบัติตามเกณฑ์ Travel Rule และต้องให้ความร่วมมือกับ ปปง. อย่างเต็มที่ เมื่อ ปปง. มีการติดตาม ยึดอายัด และนำสินทรัพย์มาคืนให้ผู้เสียหาย


นอกจากนี้ ก.ล.ต. และกระทรวง DE ได้มีการหารือร่วมกันและอยู่ระหว่างเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจสอบธุรกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล (forensic tool) ของ ก.ล.ต. เองด้วย


• สกัดทุนเทาครอบงำกิจการ


สำหรับบริษัทจดทะเบียน ปัจจุบันกฎหมายและกฎเกณฑ์กำหนดให้ต้องเปิดเผยโครงสร้างการถือหุ้นอย่างชัดเจน และเปิดเผยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 10 รายแรก รวมทั้งเปิดเผย “กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่มีอิทธิพลในการกําหนดนโยบายและการจัดการ” ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนตรวจสอบได้ว่า ใครเป็น “เจ้าของตัวจริง” (Ultimate Beneficial Owner : UBO) นอกจากนี้ ผู้ถือหุ้นยังมีหน้าที่รายงานการถือหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่ง ก.ล.ต. มีการตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้ถือหุ้น กรรมการและผู้บริหารอย่างเข้มข้นและดำเนินการตามกฎหมายเมื่อพบการกระทำผิด


อย่างไรก็ดี เมื่อ ก.ล.ต. พบประเด็นที่ต้องตรวจสอบเชิงลึกกรณีที่อาจฝ่าฝืนหน้าที่รายงานการถือหุ้น และการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ซึ่งแม้ว่ากระบวนการบังคับใช้กฎหมายเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและต้องดำเนินการในทางลับเพื่อมิให้กระทบกับพยานหลักฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลที่จำเป็นอยู่ในหน่วยงานทั้งในและต่างประเทศ แต่ ก.ล.ต. ดำเนินการอย่างเต็มที่ในการใช้กลไกที่มีอยู่เพื่อหารือและทำการขอข้อมูลเพื่อนำมาขยายผลการตรวจสอบรายงานการถือหุ้นและการครอบงำกิจการ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้ ก.ล.ต. มีการเร่งหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด


นอกจากนี้ ด้วยบริบทปัจจุบันที่มีการจัดโครงสร้างผู้ถือหุ้นที่ซับซ้อนขึ้นทั้งใน ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล และบริษัทจดทะเบียน ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์และ
ผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการสกัดกั้นเงินเทาถูกครอบงำโดยกลุ่มทุนเทา ก.ล.ต. จะเสนอแก้ไขประกาศกระทรวงการคลัง โดยปรับนิยามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของผู้ประกอบธุรกิจฯ ให้ครอบคลุมถึง “บุคคลผู้มีอำนาจควบคุมเหนือผู้ประกอบธุรกิจหรือหุ้นของผู้ประกอบธุรกิจ” เพื่อให้รู้ว่า ใครเป็นเจ้าของตัวจริงได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าผู้ประกอบธุรกิจฯ รายนั้นจะมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นซับซ้อนแค่ไหนก็ตาม จากปัจจุบันที่มีการกำหนดให้เปิดเผยผู้ถือหุ้นที่มีสัดส่วนการถือหุ้นเกิน 10% (ทั้งทางตรงและทางอ้อม) และในกรณีบริษัทจดทะเบียน แม้ ก.ล.ต. พิจารณา UBO ได้ตามกฎหมายหลักทรัพย์ในเรื่องการครอบงำกิจการอยู่แล้ว แต่ ก.ล.ต. พร้อมสนับสนุนและร่วมมือกับ ปปง. ในการเสนอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในส่วนของการรายงานข้อมูลผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงด้วย


• ความร่วมมือและการบูรณาการข้อมูลร่วมกัน


ไม่เพียงแต่สกัดกั้นทุนเทาตลอดเส้นทางและสาวไปถึง “ผู้อยู่เบื้องหลัง” และ ก.ล.ต. ยังมีมาตรการป้องกันภัยหลอกลงทุนในเชิงรุก เพื่อลดช่องทางการหลอกลงทุนประชาชน โดยการประสานงานกับผู้ให้บริการแพลตฟอร์มในการปิดกั้นการหลอกลงทุน (สามารถปิดกั้นได้ภายใน 7 นาที – 48 ชั่วโมง) และเตรียมขยายความร่วมมือ เช่น การพัฒนาความร่วมมือเพื่อปิดกั้นบัญชีที่แอบอ้างหน่วยงานหรือผู้ประกอบธุรกิจในการหลอกลงทุนโดยไม่ต้องรอการแจ้งจากผู้เสียหาย และการตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนก่อนเผยแพร่บนแพลตฟอร์ม


นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับกระทรวง DE ปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสินทรัพย์ดิจิทัลต่างประเทศที่เข้าข่ายประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสกัดกั้นช่องทางการฟอกเงิน ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการฟอกเงินผ่าน P2P ได้ในการจัดการกับ “ทุนเทา” ที่อาศัยตลาดหุ้นและตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ก.ล.ต. ไม่สามารถทำได้โดยลำพัง ต้องอาศัย “ความร่วมมืออย่างใกล้ชิด” จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายหน่วยงาน เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวง DE ปปง. และ ธปท. รวมทั้งคณะทำงาน Connect the Dots ในการบูรณาการข้อมูล เชื่อมโยงภาพรวมธุรกรรมการเงินและสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินในเชิงลึก ทั้งเงินสด หุ้น สินทรัพย์ดิจิทัล และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมทั้งจะมีการขับเคลื่อนร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นเงินเทาต่อไปด้วย


นอกจากการประสานความร่วมมือในประเทศแล้ว ก.ล.ต. ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานกํากับดูแลตลาดทุนต่างประเทศ ในการขยายผลการตรวจสอบรายงานการถือหุ้นและการครอบงํากิจการ
แม้ว่าปัญหาทุนเทาจะไม่สามารถจัดการได้ภายในข้ามคืน และบางเรื่องอาจดูเหมือนไม่มีความคืบหน้า ล่าช้าไม่ทันใจ เป็นเพราะหลายเรื่องที่ “กำลังทำอยู่” ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้จนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ แต่ยืนยันได้ว่า ก.ล.ต. รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอาจริงกับปัญหาทุนเทาและกัดไม่ปล่อยแน่นอน

ท้ายที่สุดนี้ ก.ล.ต. อยากให้ความมั่นใจว่า ปัญหาทุนเทาที่เกิดขึ้นถึงแม้บั่นทอนความเชื่อมั่นในบางจุด แต่การเห็นปัญหาและมีความร่วมมือแก้ไขภายใต้การมีธรรมภิบาลของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ตลาดทุนไทยจึงไม่ได้เทาแบบที่กังวล และข้อเท็จจริงคือตลาดทุนไทยยังคงเป็นกลไกสำคัญของการระดมทุนและการออมที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดย ก.ล.ต. ยังคงเดินหน้าเต็มกำลังในการดูแลตลาดทุน เพื่อให้คุณมั่นใจ

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

PTG ผนึก "กาแฟพันธุ์ไทย-แอตลาส เอ็นเนอยี" ส่งต่อกำลังใจหนุนฮีโร่ทหารกล้า

PTG ผนึก "กาแฟพันธุ์ไทย-แอตลาส เอ็นเนอยี"ส่งต่อกำลังใจหนุนฮีโร่ทหารกล้า

SSP ปลื้ม! คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ระดับ "AA" 2 ปีซ้อน

SSP ปลื้ม! คว้า SET ESG Ratings ปี 68 ระดับ "AA" 2 ปีซ้อน

แบกทั้งตลาด By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เข้าสู่ช่วงโค้งท้ายของปี 2568 นับถอยหลังเข้าสู่วันคริสต์มาส หวังว่าลุงซานต้าฯ จะแจกของขวัญ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้