หวัง SANNA โปรยเงินช่วงตลาดเงียบ
HORIZON MARKET VIEW
• ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาดีดตัว ด้วยแรงซื้อหลังการปรับฐานจากความกังวลฟองสบู่ AI และความคาดหวังว่าจะเห็น FED ลดดอกเบี้ยในปีหน้า 2 ครั้ง(มากกว่า DOT PLOT คาด 1 ครั้ง) จากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดชะลอตัวลง นอกจากนี้ในแง่มุมสถิติของปรากฏการณ์ “SANTA CLAUS RALLY” มักหนุนดัชนี S&P 500ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย +1.3% (มีโอกาสเกิดขึ้น 75% ตั้งแต่ปี 1928)
• ส่วนผลการประชุม BOJ มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75% ตามคาด โดยมีแรงหนุนจากการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่ง และความเสี่ยงจากภาษีสหรัฐที่ลดลงพร้อมย้ำว่าจะปรับดอกเบี้ยตามสภาพเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ สะท้อนถึงความไม่ชัดเจนต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต ด้วยท่าทีของผู้ว่าการ BOJ ไม่แข็งกร้าวพอ ทำให้ตลาดเกิดความผิดหวัง และค่าเงินเยนกลับอ่อนทะลุ 157.10 ต่อดอลลาร์
REGION RADAR
• สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ยุคขยายพลังงานนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุด ภายใต้รัฐบาลของ DONALD TRUMP ได้มีการตั้งเป้าในการขยายพลังงานนิวเคลียร์สู่ระดับ 400 GIGAWATTS ภายในปี 2050 ซึ่งมากกว่ารัฐบาลสมัย BIDEN ที่ตั้งเป้าขยายพลังงานนิวเคลียร์สู่ระดับ 300GIGAWATTS
• จากแนวโน้มการขยายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มากขึ้นส่งผลให้ความต้องการใช้ยูเรเนียมสูงขึ้นตาม ขณะที่ด้าน SUPPLY ของยูเรเนียมยังคงขาดแคลนไปจนถึงปี 2045 แนะนำเก็งกำไร GLOBAL XURANIUM ETF (URA US) และ CAMECO CORP (CCJ US
THAI FOCUS
• ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ทำให้นายกฯมาเลเซีย (อันวาร์) เร่งจัดประชุมอาเซียนนัดพิเศษ 22 ธ.ค. 68 เพื่อผลักดันให้เกิด "การหยุดยิง"และกลับสู่โต๊ะเจรจาซึ่งต้องติตตามว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร
• หากสถานการณ์ ผ่อนคลายลง จะเป็นบวกต่อหุ้นไทยที่มีธุรกิจในกัมพูชา โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้สูง : CBG, OR, MAJOR,SCCC และกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้ต่ำ : OSP, BCH, BDMS, BGRIM,CPALL, CPAXT, BJC, SCC, CPFเป็นต้น
SYNAPSE STRATEGY
• สัปดาห์นี้มูลค่าซื้อขายอาจเบาบาง เพราะเป็นช่วงต่างชาติใกล้หยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งปกติไทยมูลค่าซื้อขายจะอยู่บริเวณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท แต่คาดหวังการเกิด SANTA RALLY เพราะปกติหุ้นโลกมักขึ้นได้ดีในช่วงท้ายปี และไทยปกติจะขึ้นได้ราว 2% –3%
• กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรสั้นๆ ช่วงโค้งท้ายของปี ด้วยหุ้นอิงเทคฯASML01, CCJ US และหุ้นที่ FUND FLOW เข้าเยอะสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา INDIA01 และหุ้นไทยชอบ PLANB, ERW, TIDLOR
HORIZON MARKET VIEW
ความกังวลกลับมาผ่อนคลายท้ายปี
ศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ กลับมาดีดตัว โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีหนุนดัชนี NASDAQ +1.3% และ S&P500 +0.9% (ลบการขาดทุนตลอดสัปดาห์) ด้วยแรงซื้อหลังการปรับฐานจากความกังวลฟองสบู่ AI และความคาดหวังว่าจะเห็น FED ลดดอกเบี้ยในปีหน้า2 ครั้ง (มากกว่า DOT PLOT คาด 1 ครั้ง) จากเงินเฟ้อสหรัฐฯ ล่าสุดชะลอตัวลง อีกทั้ง นักลงทุนรายย่อยซื้อ CALL OPTIONS ต่อเนื่อง 32 จาก 33 สัปดาห์นอกจากนี้ในแง่มุมสถิติของปรากฏการณ์ “SANTA CLAUS RALLY” (5 วันสุดท้ายของปี + 2 วันแรกของปีใหม่) มักหนุนดัชนีS&P 500ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย +1.3% (มีโอกาสเกิดขึ้น 75% ตั้งแต่ปี 1928)
ส่วนผลการประชุม BOJ มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.75% ตามคาด ทำจุดสูงสุดในรอบ 30 ปีโดยมีแรงหนุนจากการเติบโตของค่าจ้างที่แข็งแกร่ง และความเสี่ยงจากภาษีสหรัฐที่ลดลง พร้อมย้ำว่าจะปรับดอกเบี้ยตามสภาพเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ สะท้อนถึงความไม่ชัดเจนต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต ด้วยท่าทีของผู้ว่าการBOJไม่แข็งกร้าวพอ ทำให้ตลาดเกิดความผิดหวัง และค่าเงินเยนกลับอ่อนทะลุ 157.10 ต่อดอลลาร์ จาก 155.80ก่อนประกาศ
REGION RADAR
สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ยุคขยายพลังงานนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ที่สุด
ภายใต้รัฐบาลของ DONALD TRUMP ได้มีการตั้งเป้าในการขยายพลังงานนิวเคลียร์สู่ระดับ 400 GIGAWATTSภายในปี 2050 ซึ่งมากกว่ารัฐบาลสมัย BIDEN ที่ตั้งเป้าขยายพลังงานนิวเคลียร์สู่ระดับ 300 GIGAWATTSนอกจากนี้ จากความต้องการ DATA CENTER เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการเพิ่มเม็ดเงินลงทุนในด้าน CAPEX ของบริษัท BIG TECH ส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้านิวเคลียร์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากพลังงานนิวเคลียร์มีต้นทุนที่ถูกกว่าพลังงานสะอาดประเภทอื่น
SUPPLY ของยูเรเนียมยังคงขาดแคลนไปจนถึงปี 2045
จากแนวโน้มการขยายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มากขึ้นส่งผลให้ความต้องการใช้ยูเรเนียมสูงขึ้นตาม ขณะที่ด้านSUPPLY ของยูเรเนียมเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด และแนวโน้มในปี 2030 SUPPLY ของยูเรเนียมมีแนวโน้มที่จะลดลงส่งผลให้การขาดแคลนยูเรเนียมจะมีมากขึ้นหลังปี 2030-2045
ราคายูเรเนียมสัญญาระยะยาว (TERM PRICE) ทำจุดสูงสุดในรอบ 17 ปี จากอุปสงค์พลังงานนิวเคลียร์ที่กลับมาจากความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าในธุรกิจด้าน AI ที่ขาดแคลน
แนะนำเก็งกำไร GLOBAL X URANIUM ETF (URA US) และหุ้น CAMECO (CCJ US) โดย GLOBAL XURANIUM เป็น ETF ที่เน้นลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และเหมืองแร่ยูเรเนียม และ CAMECO ประกอบธุรกิจเหมืองแร่ยูเรเนียมที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ระดับ 14%
THAI FOCUS
ข้อตกลงหยุดยิงอาจเกิด ระหว่างไทย-กัมพูชา อาจช่วยพยุง SET ไปต่อได้บ้าง
หลังเกิดการปะทะกันระลอกใหม่บริเวณชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งรุนแรงกว่าครั้งก่อนๆ ทำให้หลายประเทศยื่นมือเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย ทั้งจีนได้ส่งนาย หวัง อี้ (WANG YI) รัฐมนตรีต่างประเทศจีนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและล่าสุดนายกฯมาเลเซีย “อันวาร์ อิยราฮิม” เร่งรัดให้ไทยและกัมพูชาหาทางออกอย่างสันตินั้น โดยจะมีการประชุมอาเซียนนัดพิเศษที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 22 ธ.ค.68 โดยเป้าหมายหลักของการประชุมครั้งนี้จะเน้นโน้มน้าวให้ทั้งไทยและกัมพูชายยุติการปะทะกันตามแนวชายแดน และหยุดยิง (CEASEFIRE) โดยเร็วที่สุด และเปลี่ยนจากสถานการณ์การสู้รบ/การปะทะ ให้กลับมาสู่โต๊ะเจรจา โดยใช้กลไกของอาเซียนเป็นตัวกลางดังนั้นต้องรอดูว่า รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองชาติจะยอมรับข้อเสนอหยุดยิงทันทีตามที่มาเลเซีย (เจ้าภาพ)เสนอหรือไม่ และอาเซียนจะมีกลไกโดยเป็น "ผู้สังเกตการณ์" (OBSERVER TEAM) ลงพื้นที่จริงเพื่อลดการเผชิญหน้าทางทหารได้สำเร็จหรือไม่
ดังนั้นหากประเด็นดังกล่าวผ่อนคลาย น่าจะหนุนให้หุ้นที่มีธุรกิจอยู่ในกัมพูชา สามารถปรับตัวขึ้นโดดเด่นได้ในช่วงนี้ อาทิ CBG OR MAJOR SCCC (กลุ่มที่มีสัดส่วนธุรกิจในกัมพูชาสูง) และ OSP BCH BDMS BGRIMCPALL CPAXT BJC SCC CPF (กลุ่มที่มีสัดส่วนธุรกิจในกัมพูชาต่ำ) เป็นต้น
ส่วนอีก 1 ประเด็นที่นักลงทุนน่าจับตามอง คือ การเลือกตั้ง 2569 ที่ใกล้เข้ามา ซึ่งสัปดาห์นี้จะมีการดีเบตระหว่างพรรคการเมืองของหลายสำนักข่าวที่จัดขึ้น ตั้งแต่ไทยรัฐฯ “ดีเบตอีกสักตั้ง” วันที่ 23 ธ.ค.68 และ THESTANDARD “NEW GAME NEW DEAL” ที่จะทำออกมาเป็นซีรี่ย์ซึ่งน่าจะทำให้หุ้นในกลุ่มที่รับกระแสเลือกตั้งกลับมาคึกคักอีกรอบ อาทิ หุ้นอิงประชานิยม : TIDLOR, SAWAD, MTC, CPALLและ หุ้นมีเดีย : PLANB
SYNAPSE STRATEGY
หวังซานต้า โปรยเงิน ช่วงโค้งท้ายของปี
สัปดาห์นี้มูลค่าซื้อขายอาจเบาบาง เพราะเป็นช่วงต่างชาติใกล้หยุดยาวเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งปกติไทยมูลค่าซื้อขายจะอยู่บริเวณ 2 หมื่นกว่าล้านบาท
แต่คาดหวังการเกิด SANTA RALLY เพราะปกติหุ้นโลกมักขึ้นได้ดีในช่วงท้ายปี และไทยปกติจะขึ้นได้ราว 2% –3% (ปล.มีเพียงปีที่ผ่านมาที่ -2.2% จากปัจจัย FED ส่งสัญญาณ HAWKISH เปลี่ยนจากลดดอกเบี้ย 6 ครั้งในปีหน้า เหลือ 2 ครั้ง)
กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรสั้นๆ ช่วงโค้งท้ายของปี ด้วยหุ้นอิงเทคฯ ASML01, CCJ US และหุ้นที่ FUND FLOW เข้าเยอะสุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา INDIA01 และหุ้นไทยชอบ PLANB, ERW, TIDLOR
Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์