วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงขายกดดันหลักมาจากหุ้น DELTAซึ่งกดดันดัชนีราว -10 จุด ตามด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน และค้าปลีก เป็นปัจจัยกดดันเพิ่มเติมขณะที่วันนี้นักลงทุนจับตาการประชุม กนง. ครั้งสุดท้ายของปี 2568 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,260.68 จุด -12.72 จุด -1.00% มูลค่าการซื้อขาย 30,835.38 ลบ. Program Trading -548.33 ลบ.ต่างชาติ-344.29 ลบ. TFEX -28,280 สัญญา ตราสารหนี้-2,740.30 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้น64,000 ตำแหน่ง สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 50,000 ตำแหน่ง หลังจากลดลง105,000 ตeแหน่งในเดือนต.ค. แต่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.5%
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 75.6% ต่อคาดการณ์ที่ว่าFED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมเดือน ม.ค.2569 และให้น้ำหนัก24.4% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.25-3.50%
+ ธปท.เข้ามากำกับดูแลธุรกิจให้เช่าซื้อ และการให้เช่าแบบลีสซิ่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดสินเชื่อรายย่อย ที่มีขนาดใหญ่และเกี่ยวข้องกับประชาชนในวงกว้าง
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 302.30 จุด หรือ -0.62% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดลดลงเช่นกันโดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเฮลธ์แคร์ ขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยล่าสุด ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและยอดค้าปลีกเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในปีหน้า
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 2.73% ปิดที่ 55.27 ดอลลาร์/บาร์เรลขณะที่สัญญาน้ำมันเบรนท์ร่วงหลุดจากระดับ 60 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนโดยตลาดยังคงถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ ามันล้นตลาด รวมทั้งความเป็นไปได้ที่จะมีการทำข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ซึ่งจะทำให้รัสเซียได้รับการผ่อนคลายมาตรการคว่ าบาตรและสามารถส่งออกน้ำมันเข้าสู่ตลาด
- ยอดค้าปลีกของสหรัฐฯทรงตัวในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าข้อมูลอาจคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงเนื่องจากการเก็บข้อมูลที่ล่าช้าอันจากการปิดหน่วยงานรัฐบาล
- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มรายชื่อประเทศที่อยู่ภายใต้มาตรการจ ากัดการเดินทางเข้าประเทศแบบทั้งหมดหรือบางส่วน ครอบคลุมราว 40 ประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569
- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนธ.ค. ต่ำสุดในรอบ 6 เดือน จากระดับ 54.2 ในเดือนพ.ย. ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการจ้างงานและค าสั่งซื้อใหม่ แต่ดัชนี PMI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้การขยายตัวของภาคธุรกิจสหรัฐฯ
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยปี 69 จะโตแค่ 1.5%ต่ าสุดในรอบ 3 ทศวรรษ ชะลอตัวลงจาก 2% ในปี 68 มีแรงกดดันหลักมาจากปัจจัยภายนอกได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกสงครามการค้า และการแข่งขันรุนแรงจากต่างประเทศ
- ธปท.เป็นห่วงค่าเงินบาทไทยแข็งค่าเร็ว ตั้งแต่ต้น ธ.ค.68 แข็งค่าขึ้นแล้ว 2.5% จากแรงกดดันหลายเรื่องทั้งดอลลาร์อ่อนค่า และปัจจัยภายใน
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ออกข้าง โดยขณะที่นักลงทุนประเมินข้อมูลเศรษฐกิจเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในปีหน้า ขณะที่ในประเทศยังติดตามการประชุม กนง. ในวันนี้อย่างใกล้ชิดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,250-1,270 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้นเข้าคำนวณ SET50-SET100 รอบ 1H26 : SET50 เข้า CENTEL SAWAD ออก BCP VGI SET100 เข้า GFPT PTGSTECON ออก ITC MBK WHAUP
- โครงการ TISA : PTTEP TISCO HMPRO SCB KBANK KKP
- FTSE Rebalance (ใช้ราคาปิด 19 ธ.ค.) : FTSE SET Large-Cap Index เข้า THAI ออก AWC FTSE SET Mid-CapIndex เข้า AWC SCCC ออก PTL PSL PSH SNNP STECON TQM