วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway Down โดยในช่วงแรกดัชนีปรับตัวขึ้นสูงสุดราว +6 จุดจากความคาดหวังที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้ ขณะที่สถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชารอบใหม่ เป็นปัจจัยกดดันดัชนี แรงขายนำโดยหุ้น DELTA ซึ่งกดดันดัชนีราว -7 จุดตามด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคาร และขนส่ง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่1,261.39 จุด -12.38 จุด -0.97% มูลค่าการซื้อขาย 37,422.31 ลบ. Program Trading +22.25 ลบ.ต่างชาติ+1,023.68 ลบ. TFEX -2,920 สัญญา ตราสารหนี้+106.22 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก87.4% ที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่10 ธ.ค. และให้น้ำหนัก 12.6% ที่ FED จะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
+ แบบจ าลองคาดการณ์ GDPNow บ่งชี้ GDP สหรัฐฯ ขยายตัว 3.5%ใน 3Q68 จาก หดตัว 0.6% ใน 1Q68 และขยายตัว 3.8% 2Q68
+ รมว.คลังสหรัฐฯ กล่าวว่า ฤดูกาลจับจ่ายสินค้าในช่วงวันหยุดสิ้นปีกำลังดำเนินไปอย่างคึกคัก และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในช่วงสิ้นปี
+ ครม.เศรษฐกิจอนุมัติ โครงการบัญชีการออมการลงทุนส่วนบุคคล(Thailand Individual Saving Account :TISA) ให้เพิ่มวงเงินลดหย่อน
ภาษีตามการจ่ายจริงไม่เกิน 8 แสนบาท ใน จากเดิมไม่เกิน 5 แสนบาท
+ ครม.เศรษฐกิจอนุมัติ "Quick Big Win" ขยายเพดานลดหย่อนภาษีหมวดประกันและการลงทุนจากเดิม 5 แสนบาทเป็น 8 แสนบาท อนุมัติเปิดบัญชีออมยาว "TISA" ปี 69 ให้สิทธิประโยชน์กลุ่มรายได้น้อย-ปานกลาง หักลดหย่อนเพิ่ม 1.3 เท่า
+ กบง. มีมติเห็นชอบมาตรการเพื่อให้ราคาขายปลีกก๊าซหุงต้มสำหรับถังขนาด 15 กิโลกรัม ยังคงอยู่ที่ประมาณ 423 บาท มีผลบังคับใช้1 ม.ค.-31 มี.ค.69
ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 215.67 จุด หรือ -0.45% ถูกกดดันจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร ขณะที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนการประชุมของ FED
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ -2% ปิดที่58.88 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากอิรักกลับมาผลิตที่แหล่งน้ำมัน"West Qurna 2" ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งน้ ามันขนาดใหญ่มีสัดส่วนาว 0.5% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ผลิตน้ำมันได้ในปริมาณ460,000 บาร์เรลต่อวัน ขณะที่นักลงทุนประเมินข่าวการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนอาจทำให้รัสเซียส่งออกน้ ามันมากขึ้น
+/- OECD คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 68 จะเติบโต 2% ชะลอตัวเหลือ 1.5% ในปี 69 และ 2.6% ในปี 70 เมื่อผลกระทบจากภาษีการค้าเริ่มอยู่ตัวและการบริโภคในประเทศและส่งออกกลับมาแข็งแกร่ง
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสอ่อนตัวลงต่อจากความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาที่ทวีความรุนแรงขึ้น อีกทั้งดาวโจนส์ปรับตัวลงหลังอัตราผลตอบแทนพันธบตัรสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้เตรียมออกโครงการ TISA ซึ่งเป็นการสนับสนุนการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีได้ปีละ 800,000 บาทเป็นปัจจัยหนุนต่อดัชนี มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่1,250-1,270 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- จัดตั้ง JV AMC : BAM KBANK CHAYO JMT
- สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่ยังเติบโต : GFPT TFG ITC AAI
- คาดการณ์หุ้นเข้าคำนวณ SET50-SET100 รอบ 1H26 : SET50 เข้า ITC SAWAD ออก BCP VGI SET100 เข้า GFPTPTG ออก MBK WHAUP
- โครงการ TISA : PTTEP TISCO HMPRO SCB KBANK KKP