วันพุธที่ผ่านมาระหว่างวันดัชนีเคลื่อนไหว sideway +,- ราว 5 จุด มีแรงซื้อในหุ้น AOT จากประเด็นความคืบหน้าแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี 5 สนามบินกับคิงเพาเวอร์ รวมถึงแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร มีแรงขายในหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ไอซีที เป็นต้น โดยกระทรวงพาณิชย์ รายงาน CPI เดือน พ.ย. 68-0.49%YoY จากตลาดคาด-0.6 ถึง -0.7% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,274.82 จุด -2.76 จุด -0.22% มูลค่าการซื้อขาย36,324 ลบ.Program Trading +119.70 ลบ. ต่างชาติ +228.70 ลบ. TFEX -3,389 สัญญา ตราสารหนี้-923 ลบ.
ปัจจัยบวก
+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 408.44 จุด หรือ +0.86% เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 31 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่58.95 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรัสเซียและสหรัฐฯ ไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครนอย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวกเนื่องจากสต็อกน้ ามันดิบและน้ ามันเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ ามันล้นตลาด
+ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ลดลง32,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 47,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. โดยธุรกิจขนาดเล็กได้รับผลกระทบมากที่สุด
+ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 89% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย0.25% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่ให้น้ำหนัก 87%
+ ISM เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ52.6 ในเดือนพ.ย. สูงสุดในรอบ 9 เดือน จากระดับ 52.4 ในเดือนต.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.0
ปัจจัยลบ
- รัสเซียและสหรัฐฯ ยังไม่สามารถประนีประนอมกันได้เกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามในยูเครน ภายหลังการหารือนาน 5 ชั่วโมงระหว่างประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกับคณะผู้แทนระดับสูงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ
- กกร.ชี้น้ำท่วมทุบเศรษฐกิจไทยท าสูญรายได้ 1.2 แสนล้านบาทคาดปี 69 GDP ขยายตัว 1.6-2.0% ได้รับผลกระทบจาก ศก.จีนยังไม่โต-มาตรการภาษีของสหรัฐไม่นิ่ง การแข่งขันสินค้านำเข้ามากขึ้น ฉุดภาคการผลิต การจ้างงาน และกำลังซื้อในประเทศตก
- สนค. เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย หรือเงินเฟ้อเดือน พ.ย.68 เท่ากับ 100.15 เมื่อเทียบกับเดือน พ.ย.2567ลดลง 0.49% เป็นการลดลงต่อเนื่องเดือนที่ 8 โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ทั้งค่ากระแสไฟฟ้าครัวเรือนและน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับลดลงตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลก ส่งผลให้เงินเฟ้อ 11 เดือนของปี 68 (ม.ค.-พ.ย.) ลดลง0.12%
แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้มียังแกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ ให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟด จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่ปัจจัยในประเทศคาดว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบาง เนื่องจากติดวันหลุดคาบเกี่ยว มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,270-1,280 จุด
กลยุทธ์การลงทุน
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
- จัดตั้ง JV AMC : BAM KBANK CHAYO JMT
- สินค้าส่งออกเดือน ต.ค. ที่ยังเติบโต : GFPT TFG ITC AAI
- คาดการณ์หุ้นเข้าค านวณ SET50-SET100 รอบ 1H26 : SET50 เข้า ITC SAWAD ออก BCP VGI SET100 เข้า GFPT PTG ออก MBK WHAUP