Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

73

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 3 ธ.ค.68 ปิด -2.76 จุด อยู่ที่ 1,274.82 จุด มูลค่าการซื้อขาย 36,324 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 172 ลบ. ต่างชาติซื้อ 229 บาท สถาบันซื้อ 224 ลบ. และรายย่อยขาย 625 ลบ.  NVDR มียอดขายสุทธิ 11 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น SCB,TISCO,PTT,SIRI,KKP และยอดขายหุ้น GULF,DELTA,ADVANC,BDMS,CPF มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,255 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ CHNXT5023, CNSEMI23, CNROBOAI23 โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,389 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 104,223 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 923 ลบ.

 Market View

  • DJIA วานนี้ +0.86%,S&P500 +0.30%,Nasdaq +0.17% นำโดยกลุ่มพลังงาน +1.83%, การเงิน +1.27% ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค -0.42%, เทคโนโลยี -0.32% หลัง ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน พ.ย. ลดลง 32,000 & คาดจะเพิ่มขึ้น 40,000 ตำแหน่ง โดยธุรกิจขนาดเล็กถูกผลกระทบมากสุด และ US PMI ภาคบริการ พ.ย. อยู่ที่ 54.1 & ต.ค. 54.8 ต่ำสุดนับตั้งแต่ มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ CME FedWatch ชี้มีโอกาส 87% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค. ขณะที่ราคาหุ้น Salesforce หลังปิดตลาด +1.86% รับข่าวกำไร Q3/68 ดีกว่าคาด และปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ในปีนี้ หลังอุปสงค์สินค้าในกลุ่ม AI ยังขยายตัวได้ดี ข้อมูลเศรษฐกิจวันนี้ติดตามจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์/ วันศุกร์ US PCE ก.ย. คาด 2.8% & ส.ค. 2.7% YoY และ ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐ พ.ย.
  • Stoxx600 ยุโรปวานนี้ +0.10% นำโดยกลุ่มค้าปลีก +3.5% หลัง Inditex ของสเปน +8.9% เจ้าของแบรนด์ Zara รายงานยอดขาย พ.ย. +10.6% ได้ปัจจัยหนุนจากยอดขายในช่วง Black Friday ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยี +1.3% และกลุ่มป้องกันประเทศ +2.3% หลังรัสเซียยังไม่เห็นชอบกับข้อเสนอในข้อตกลงสันติภาพรัสเซีย – ยูเครน ส่วนข้อมูล PMI ภาคบริการยูโรโซน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 53.6 เป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ พ.ค. 66
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.14% ได้แรงหนุนจากกลุ่มชิป & AI จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยใน ธ.ค. ขณะที่ Kospi เกาหลีใต้ +1.04% หลังรายงาน GDP เกาหลีใต้ Q3/68 +1.3% สูงกว่าคาดที่ +1.2% QoQ ได้ปัจจัยหนุนจากภาคส่งออกที่ขยายตัวได้ดี โดย IMF คาด GDP เกาหลีใต้ปีนี้ที่ +0.9% และปีหน้าคาด +1.8% YoY ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ -0.51%, ฮั่งเส็ง -1.28% หลังข้อมูล PMI ภาคบริการจีน พ.ย.ชะลอตัว
  • SET วานนี้ -0.22% ปริมาณการซื้อขาย 63 หมื่น ลบ. ต่างชาติซื้อ 229 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 172 ลบ. สถาบันซื้อ 224 ลบ. และรายย่อยขาย 625 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA -1.46% ถูกกดดันจากการเกณฑ์ Market Cap Weight ไม่เกิน 10% ของกองทุน Passive Fund ในช่วงปลายเดือนนี้  ขณะที่กลุ่ม Domestic Play เช่น ไอซีที, อาหาร และ รพ.ก็ปรับลดลง หลัง ก.พาณิชย์เผย CPI ไทย พ.ย. -0.49% แม้ว่าจะดีกว่าคาดที่ -0.6 % แต่คาด CPI ไทยปี 68 อยู่ที่ -0.15 ถึง -0.20% ซึ่งเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 5 ปี บ่งชี้อุปสงค์กำลังซื้อในประเทศที่ยังชะลอตัว ส่วนกลุ่มที่ช่วยหนุนดัชนี คือ ขนส่ง นำโดย AOT +4.97% หลัง กบร.อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าบริการ PSC ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศจาก 730 เป็น 1,120 บาท ซึ่งส่งผลบวกต่อกำไร AOT ปี 68 – 69 คาด +23% YoY ขณะที่กลุ่มธนาคาร +0.73% ยังได้ปัจจัยหนุนจากอัตราจ่ายเงินปันผลปีนี้เฉลี่ยสูงกว่า 6% และยังเป็นกลุ่มเป้าหมายการลงทุนของบัญชีการลงทุน ISA ที่สามารถใช้หักลดหย่อนภาษีได้ โดยภาพรวมนักลงทุนยังชะลอการลงทุนก่อนช่วงหยุดยาวปลายสัปดาห์ และยังผลการประชุมเฟดในวันที่ 10 ธ.ค. และ กนง.วันที่ 17 ธ.ค. คาดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 0.25% ลงมาอยู่ที่ 1.25% และปีหน้าคาดมีโอกาสลดลงอีก 1 ครั้งอยู่ที่ 1.0% ซึ่งเป็นปัจจัยช่วยหนุน Valuation ของดัชนี SET.   

   Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,265 – 1,270 แนวต้าน 1,285 – 1,290 คาดดัชนีได้แรงหนุนจากคาด กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ย และ ม.ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังภัยน้ำท่วม แนะนำทยอยซื้อ HMPRO,DOHOME,GLOBAL จากการซ่อมแซม/ AOT,AAV,ERW จาก ม.ฟื้นฟูภาคท่องเทียว/ SCB,TTB,KTB จ่ายเงินปันผลระดับสูง/ SAWAD,AP,SPALI,DIF,CPNREIT ได้ประโยชน์หาก กนง.ปรับลดดอกเบี้ย
  • AOT (เชิงกลยุทธ์ ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย 75 บาท)รับ sentiment บวกความชัดเจนในเรื่องการแก้สัญญาสัมปทานกับ KPD ซึ่งผลออกมาใกล้เคียงกับที่เราประเมินก่อนหน้า อย่างไรก็ตามเชื่อว่านักลงทุนได้ตอบรับกับประเด็นนี้ไปนานแล้ว ส่วนประเด็นบวกจริงๆ คือเรื่องการปรับเพิ่ม PSC Inter ที่ 390 บาท/คน ซึ่งผลออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด เราประเมินผลบวกจะช่วย offset ผลกระทบจากการแก้สัญญาสัมปทานกับ KPD ได้ทั้งหมด ประกอบกับเรามีการปรับสมมติฐานจำนวนผู้โดยสารในระยะยาวเพิ่มขึ้นจาก +2% ต่อปี เป็น +3% ต่อปี ส่งผลให้เราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 68/69-69/70 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 24% และ 55% กลายเป็น 2.1 หมื่นล้านบาท (+16%YoY) และ 2.8 หมื่นล้านบาท (+33%YoY) ทำให้กำไรกลับมาสูงกว่าช่วง pre-covid พร้อมปรับราคาเหมาะสมเพิ่มเป็น 43.75 บาท (เดิม 31 บาท) อิงวิธี DCF (แบ่งเป็นการปรับขึ้น PSC ราว 9 บาท และการปรับสมมติฐานการเติบโตของผู้โดยสารในระยาวราว 3.75 บาท) คิดเทียบกับมาเป็น Forward PER ที่ระดับ 29.5 เท่า

SHR*(ทะยอยซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 2.25 บาท) กำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 129 ลบ.(จาก 3Q67 ขาดทุน 53 ลบ., +431%QoQ) หนุนด้วย 1.โรงแรมที่กลับมาเปิดหลังตกแต่งใหม่เสร็จสิ้น โดยเฉพาะโรงแรม ทราย ลากูน่า 2.High Season ของโรงแรมใน UK และ 3.มาตรการ“เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ด้านการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/68 คาดว่าจะอยู่ในเกณฑ์ดีได้ต่อ โดยนักท่องเที่ยวเข้ามัลดีฟส์ช่วง ต.ค.68 +10%YoY/ พ.ย.68 +13%YoY ขณะที่โรงแรมในไทยเข้าสู่ High Season และมีปัจจัยบวกจากม. ภาครัฐฯ ทั้งนี้ ตลาดคาด Adj. Profit ปี68และ69 ของ SHR* ที่ 339 ลบ.(+111%YoY) และ 455 ลบ.(+34%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(+) WTI ม.ค.+$0.31 อยู่ที่ $58.95 / บาร์เรล, Brent ก.พ. +$0.22 อยู่ที่ $62.67/บาร์เรล หลังรัสเซียและสหรัฐยังไม่ตกลงกันเกี่ยวกับข้อตกลงสันติภาพในยูเครน ขณะที่ EIA เผยสต็อคน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 574,000 บาร์เรล สวนทางคาดจะลดลง 821,000 บาร์เรล

 

Gold Update(+) Comex Gold ก.พ.+$11.70 อยู่ที่ $4,232.50 /ออนซ์ หลัง ADP เผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ พ.ย. ลดลง 32,000 ตำแหน่ง ส่งผลให้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -9.88 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +7.17 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +4.23 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -21.28 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ทรงตัวอยู่ที่ 31.92 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.076 %

(+) ดัชนี BDI วานนี้ +245 อยู่ที่ 2,845

(+) BitCoin เช้านี้ +1.22% อยู่ที่ 93,357 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที1 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค

 

ต่างประเทศ

01 ธ.ค.     US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิต (พ.ย.)

                US ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (พ.ย.)

02 ธ.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (พ.ย.) 

US คำกล่าวของนายพาวเวลล์ (Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐ       

US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS (ก.ย.)

03 ธ.ค.     US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(พ.ย.)

US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ

US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (พ.ย.)

US ดัชนี PMI ภาคการบริการจากสถาบันไอเอสเอ็ม (ISM) (พ.ย.)

04 ธ.ค.     US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก

05 ธ.ค.     US ดัชนีราคาด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE Price Index) (ก.ย.)

                US ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (ก.ย.)               

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: WHAUP*, BDMS, ADVANC, AMATA, TOP

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

นานา ไรบีนา ถูกจับ คาบ้าน By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม เสพข่าวใหญ่ นานา ไรบีนา ถูกตำรวจบุกจับคาบ้านพัก เซ่นคดีฉ้อโกงปชช.-พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน หลังมีกลุ่มผู้เสีย....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : อัพเดทชีวิต WGE

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้