สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 ธันวาคม 2568 )--------นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้จํากัด (มหาชน)  ACE เปิดเผยว่าบริษัท แอ๊บโซลูท คลีน เอ็นเนอร์จี้จํากัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอเรียนให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า ตามที่บริษัท อัลไลแอนซ์คลีน เพาเวอร์จํากัด (“ALCP”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยอ้อมที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100และเป็นผู้ดําเนินโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลศรีสะเกษ (“โครงการฯ”) โดยได้ทําสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการฯ กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (“PEA”) มีกําลังการผลิตเสนอขายตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA)8.0เมกะวัตต์และมีกําหนดวันจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์(SCOD) ภายในวันที่31ธันวาคม 2558 แต่ปรากฏว่ามีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นในระหว่างการพัฒนาโครงการฯ ทําให้ALCP ไม่อาจก่อสร้างโครงการฯ ที่สถานที่ตั้งตามสัญญาและไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าได้ตามกําหนด SCOD จึงได้ยื่นเรื่องต่อ PEA เพื่อขอเปลี่ยนสถานที่ตั้งโครงการฯและขอขยาย SCOD แต่ PEA ไม่อนุมัติให้เปลี่ยนสถานที่ตั้งโครงการฯไม่ขยายกําหนด SCOD และบอกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ALCP จึงยื่นเรื่องขอให้คณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาข้อพิพาทดังกล่าว ซึ่ง กกพ. พิจารณาแล้วมีคําวินิจฉัยว่าการดําเนินการของ PEA ชอบด้วยกฎหมายและข้อสัญญาแล้ว ALCP ไม่เห็นพ้องด้วยจึงใช้สิทธิยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้มีคําพิพากษายกเลิกการบอกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ขอให้แก้ไขสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในส่วนสถานที่ตั้งโครงการฯโดยเปลี่ยนจากสถานที่ตั้งเดิมเป็นสถานที่ตั้งแห่งใหม่และขอให้ขยาย SCOD หากไม่อาจดําเนินการตามคําขอดังกล่าวได้ก็ขอให้PEA จ่ายค่าเสียหายให้แก่ ALCP นั้น ปัจจุบัน ศาลปกครองสูงสุดมีคําพิพากษาแล้วจึงขอเรียนให้ทราบดังนี้

1. สรุปคําพิพากษา
เมื่อวันที่25เมษายน 2565 ศาลปกครองกลางมีคําพิพากษายกฟ้องและ ALCP ยื่นอุทธรณ์คําพิพากษาต่อศาลปกครองสูงสุด ต่อมาเมื่อวันที่24 พฤศจิกายน 2568 ศาลปกครองสูงสุดมีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง (ยกฟ้อง) คดีถึงที่สุดโดยคําพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดมีสาระสําคัญว่า การที่ PEA ไม่อนุมัติให้เปลี่ยนสถานที่ตั้งโครงการฯไม่อนุมัติให้ขยาย SCODและบอกเลิกสัญญาซื้อขายไฟฟ้า รวมทั้งคําวินิจฉัยของ กกพ. ที่มีคําวินิจฉัยเห็นด้วยกับการดําเนินการของ PEA ชอบด้วยกฎหมายและข้อสัญญาแล้วและ ALCP ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย

2. ผลกระทบของคําพิพากษาที่อาจมีต่อบริษัทฯและ/หรือ บริษัทย่อย
2.1 หลักประกันสัญญาซื้อขายไฟฟ้า
เนื่องจาก PEA ได้เคยมีหนังสือแจ้งให้ALCP รับคืนหนังสือค้ำประกันของธนาคารวงเงินค้ำประกัน 1,600,000 บาท ที่ALCP ได้วางไว้หลักประกันสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ดังนั้น ภายหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดได้มีคําพิพากษาแล้ว ALCP จึงได้ยื่นเรื่องขอคืนหลักประกันสัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของ PEA

2.2 ผลกระทบที่อาจมีต่องบการเงิน
การที่ศาลปกครองสูงสุดมีคําพิพากษายืนตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง (ยกฟ้อง) ทําให้การพัฒนาโครงการฯ ซึ่งเดิมได้ยุติลงเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ปีพ.ศ.2564เป็นต้นมาจําเป็นต้องยุติลงเป็นการถาวรโดยที่ ALCP ได้มีการชําระเงินค่าพัฒนาโครงการฯไปแล้วบางส่วน ในช่วงปีพ.ศ.2558-2564เป็นจํานวนรวม 278.12ล้านบาท ประกอบด้วย ค่าเครื่องจักรและอุปกรณ์ระหว่างติดตั้งตามสัญญาติดตั้งเครื่องจักรจํานวน 249.44ล้านบาท และค่าออกแบบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างจํานวน 28.68ล้านบาท

อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่15 กุมภาพันธ์พ.ศ.2567 ALCP ได้เข้าทําบันทึกข้อตกลงเพื่อยกเลิกสัญญาจัดหาและติดตั้งเครื่องจักรโรงไฟฟ้ากับผู้ขาย โดยที่ผู้ขายตกลงคืนเงินจํานวนดังกล่าวให้แก่ ALCP ซึ่งต่อมาผู้ขายได้คืนเงินจํานวน 249.44ล้านบาท ให้แก่ ALCPครบถ้วนแล้วในวันที่15 พฤศจิกายน พ.ศ.2567ในขณะที่ค่าออกแบบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างที่ ALCP ได้ชําระไป จํานวน 28.68ล้านบาท ALCP และบริษัทฯได้มีการตั้งค่าเผื่อการด้อยค่าสําหรับค่าออกแบบงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าดังกล่าวและรับรู้เป็นค่าใช้จ่ายแล้วทั้งจํานวน ในงบการเงินเฉพาะกิจการของ ALCP และงบการเงินรวมของบริษัทฯสําหรับปีสิ้นสุดวันที่31ธันวาคม2561 ดังนั้น นอกเหนือจากรายการทางบัญชีที่ได้มีการบันทึกและรับรู้ไปก่อนหน้านี้ตามที่ได้อธิบายข้างต้น บริษัทฯ คาดการณ์ว่าผลของคําพิพากษาดังกล่าวจะไม่ได้ส่งผลกระทบอื่นใดอีกที่มีนัยสําคัญต่องบการเงินของบริษัทฯและ/หรือ บริษัทย่อย