สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 4 ธันวาคม 2568 )-------นายพงศ์เทพ รัตนแสงสรวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน)PROS เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2568 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ได้มีมติอนุมัติการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท จำนวนร้อยละ 71.80 ในบริษัท พรอสเพอร์ ไทธรรม์ จำกัด (“PT”) จำนวนร้อยละ 25 ในบริษัท เพาเวอร์วิชเซ่น จำกัด (“PW”) และจำนวนร้อยละ 7.47 ในบริษัท โรงพยาบาลจักษุกรุงเทพ จำกัด (“BEH”) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของแต่ละบริษัทดังกล่าว (“ผู้ซื้อ”) ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท (“ธุรกรรมการขายหุ้นฯ) รวมถึงมีมติอนุมัติการมอบอำนาจให้แก่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้มีอำนาจ ในการพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกรรมการขายหุ้นฯ ตามที่จำเป็นและ สมควรภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง แต่ไม่จำกัดเพียง การเจรจาต่อรอง การเข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น และการจัดทำเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการดำเนินการใด ๆ เพื่อให้ธุรกรรมการขายหุ้นฯ เสร็จสมบูรณ์
ทั้งนี้ภายหลังธุรกรรมการขายหุ้นฯ เสร็จสิ้น จะส่งผลให้ PT PW และ BEH รวมทั้งหมด 3 บริษัท สิ้นสภาพการเป็น บริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วมของบริษัท (แล้วแต่กรณี)โดยบริษัทคาดว่าจะเข้าทำสัญญา ซื้อขายหุ้นกับผู้ซื้อที่เกี่ยวข้องและธุรกรรมดังกล่าวจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนธันวาคม 2568 ภายหลังจากที่เงื่อนไขบังคับ ก่อนทั้งหมดภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสมบูรณ์
มูลค่าของสินทรัพย์ที่จำหน่ายไปจะเป็นไปตามงบการเงินที่สอบทานแล้วของบริษัทฯ ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 โดยหุ้นใน PT มีมูลค่า 3,590,000 บาท หุ้นใน PW มีมูลค่า 1,000,000 บาท และหุ้นใน BEH มีมูลค่า 30,000,000 บาท
การเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นฯ เป็นการบริหารจัดการการลงทุนของบริษัทให้สอดรับกับสถานการณ์ของบริษัท และ ภาวะตลาด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจและช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัท เพื่อให้สามารถบริหารจัดการ กระแสเงินสดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงสามารถทำให้บริษัทสามารถชำระคืนหนี้เงินกู้ของบริษัทได้ภายในกำหนด
บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากธุรกรรมการขายหุ้นฯ ไปใช้เพื่อชำระคืนหนี้เงินกู้ของบริษัทและจะนำเงินส่วนที่เหลือ ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการตามแผนการจัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดชำระ โดยการเข้าทำธุรกรรมการขายหุ้นฯ นี้เป็นหนึ่งในแผนการจัดการดังกล่าว และบริษัทได้ติดตามและให้ความสำคัญในการดำเนินการตามแผนการจัดการกระแสเงินสดเพื่อจัดการหนี้สินที่จะถึงกำหนดช าระซึ่งประกอบด้วยการหาผู้ร่วมทุนและการจำหน่ายสินทรัพย์บางส่วน การติดตามลูกหนี้ค้างช าระจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท การเจรจา ขอสินเชื่อโครงการกับสถาบันการเงิน ควบคู่กับการด าเนินนโยบายบริหารสภาพคล่องทางการเงินอย่างเข้มงวดและรัดกุม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการบริหารจัดการทางการเงิน