สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(3 ธันวาคม 2568)---------สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ PRIME จำนวน 4 รุ่น ใช้สิทธิในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ศึกษาข้อมูล ซักถามผู้ออกหุ้นกู้หรือผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนและเพียงพอต่อการตัดสินใจลงมติ ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568

ตามที่บริษัท ไพร์ม โรด เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (PRIME) ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้ PRIME253A PRIME253B PRIME25DA และ PRIME25DB จะจัดให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2568 ในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 เวลา 14.00 น. ด้วยวิธีการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-meeting) โดยมีเรื่องเพื่อพิจารณาอนุมัติ ดังนี้
(1) อนุมัติให้ผ่อนผันเหตุผิดนัดและให้ยกเลิกการเรียกให้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดนพลัน (call default) รวมถึงพิจารณาอนุมัติให้ยกเลิกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเหตุผิดนัด หุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่น ดังนี้
(ก) ผ่อนผันให้การที่บริษัทไม่ได้ชำระเงินต้นหุ้นกู้บางส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย ณ วันออกหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ยในวันถึงกำหนดชำระ ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ
(ข) ยกเลิกการที่ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เรียกให้หุ้นกู้ถึงกำหนดชำระโดยพลัน (call default) ตามหนังสือของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ รวมถึงให้ยกเลิกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเหตุผิดนัดดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการยกเลิกการเรียกให้ชำระดอกเบี้ยผิดนัด ตามหนังสือของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้
(ค) ผ่อนผันให้การที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้ไม่ว่าในมูลหนี้ใด ๆ เป็นจำนวนเงินรวมกันเกินกว่า 300 ล้านบาท ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ
(ง) ผ่อนผันให้การที่บริษัทไม่ได้ชำระเงินต้นหุ้นกู้ PRIME253A PRIME253B PRIME25DA และ PRIME25DB บางส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย ณ วันออกหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ยในวันถึงกำหนดชำระ และ/หรือการที่บริษัทเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2568 เพื่อปรับเงื่อนไขการชำระหนี้หุ้นกู้ โดยมีมูลหนี้รวมกันเป็นจำนวนเงินเกินกว่า 300 ล้านบาท ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ
(2) เปลี่ยนแปลงกำหนดชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าที่ตราไว้ต่อหน่วย ณ วันออกหุ้นกู้
- รุ่น PRIME253A และ PRIME253B จากเดิม วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เป็น 27 กุมภาพันธ์ 2569
- รุ่น PRIME25DA จากเดิม วันที่ 2 ธันวาคม 2568 เป็น 27 กุมภาพันธ์ 2569
- รุ่น PRIME25DB จากเดิม วันที่ 8 ธันวาคม 2568 เป็น 27 กุมภาพันธ์ 2569
โดยบริษัทจะให้ผลตอบแทนพิเศษในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับช่วงเวลาที่ได้ขอเลื่อนกำหนดชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วนออกไป
(3) แก้ไขข้อกำหนดสิทธิ หุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่น โดยขอยกเลิกการชำระค่าธรรมเนียมการใช้สิทธิชำระคืนหนี้หุ้นกู้ก่อนกำหนด
(4) แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดสิทธิ หุ้นกู้ทั้ง 4 รุ่น โดยเพิ่มหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ในการนำเงินประกันที่ GREENYELLOW CHSPP Pte Ltd. ซึ่งเป็นผู้ซื้อโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ได้วางหนังสือค้ำประกันโดยธนาคาร (bank guarantee) จำนวนวงเงินประกัน 102.97 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา มาชำระคืนหนี้หุ้นกู้ให้แก่ผู้ถือหุ้นกู้ โดยเฉลี่ยชำระคืนตามสัดส่วนของมูลค่าหนี้หุ้นกู้คงค้างของหุ้นกู้แต่ละรุ่น ในกรณีที่บริษัทได้รับเงินประกันดังกล่าวจากการที่ผู้ซื้อไม่ชำระเงินค่าซื้อขายงวดแรกในวันปิดการซื้อขาย
(5) อนุมัติการดำเนินการดังต่อไปนี้ (เฉพาะรุ่น PRIME253A)
(ก) พักชำระดอกเบี้ยประจำงวดวันที่ 10 ธันวาคม 2568 บางส่วน ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อปี โดยให้นำดอกเบี้ยที่พักชำระดังกล่าวไปรวมชำระพร้อมกับการชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วน ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2569 หรือวันที่บริษัทใช้สิทธิชำระคืนเงินต้นหุ้นกู้บางส่วนก่อนวันครบกำหนดชำระ (ไม่ว่าทั้งจำนวนหรือบางส่วน) (ถ้ามี) และสำหรับดอกเบี้ยส่วนที่เหลือ บริษัทจะชำระในวันกำหนดชำระดอกเบี้ยในวันที่ 10 ธันวาคม 2568 ตามกำหนดเดิม ทั้งนี้ บริษัทจะให้ผลตอบแทนในอัตราร้อยละ 2 ต่อปี สำหรับดอกเบี้ยส่วนที่พักชำระดังกล่าว
(ข) ผ่อนผันให้การที่บริษัทไม่สามารถชำระดอกเบี้ยประจำงวดวันที่ 10 ธันวาคม 2568 บางส่วน ในวันถึงกำหนดชำระ ไม่ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดตามข้อกำหนดสิทธิ และรวมถึงให้ยกเลิกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้เกี่ยวกับเหตุผิดนัดดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงการยกเลิกการเรียกให้ชำระดอกเบี้ยผิดนัด ตามหนังสือของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ (ถ้ามี)

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ประโยชน์ และผลกระทบที่ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับจากการมีมติอนุมัติ หรือไม่อนุมัติ ให้ชัดเจนในแต่ละทางเลือก พร้อมเหตุผลประกอบโดยมีความเห็นของผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ประกอบด้วย ก.ล.ต. จึงขอให้ผู้ถือหุ้นกู้ศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบ และใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นกู้ในการรักษาประโยชน์ของตนเอง พร้อมทั้งสอบถามข้อมูลต่าง ๆ จากผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อให้มีข้อมูลครบถ้วนประกอบการตัดสินใจออกเสียงในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ด้วย