Equality for All
SEAFCO : บมจ.ซีฟโก้
Turnaround สวยงาม : SEAFCO กลับมามีกำไรสุทธิแล้ว 2 ไตรมาส หลังขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาส (3Q24-1Q25) โดย 3Q25 มีกำไรสุทธิ 87 ลบ. เร่งตัวขึ้น +134.7% q-q และพลิกจากขาดทุนปีก่อน 11 ลบ. โดยกำไรสุทธิสูงสุดในรอบ 17 ไตรมาส รายได้ 478 ลบ. สูงสุดในรอบ 7 ไตรมาส ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น 26.8% สูงสุดในรอบ 20 ปี
แม้หักกำไรพิเศษจากการขายเครื่องจักร 11.2 ลบ.ออก กำไรปกติ 73 ลบ. ก็ยังเติบโตถึง +70.5% q-q และพลิกจากขาดทุน 10 ลบ. ในปีก่อน
โครงสร้างภายในดีขึ้นมาก : ดังนี้ (1) สัดส่วนรายได้งานรับเฉพาะค่าแรงเพิ่มจาก 22.0% ใน 1Q23 เป็น 66.0% ใน 3Q25 ช่วยลดความเสี่ยงราคาวัสดุ แต่ได้อัตรากำไรขั้นต้นรวมที่สูงขึ้นจาก 1Q23 ที่เพียง 15.6% เป็น 21.5-26.8% ใน 2Q-3Q25 (2) เมื่อเดือน ม.ค. 2025 ได้งานกำแพงกันดินรถไฟฟ้าสายสีส้ม 6 สถานี ส่งให้งานในมือรวมพุ่งขึ้นแตะ 2.8 พัน ลบ. โดยกลุ่มงานรถไฟฟ้าฯจะทยอยส่งมอบไปถึง 3Q26 และยังทำให้งานภาครัฐเพิ่มสัดส่วนเป็น 71.2% จากจุดต่ำสุด 11.2% ใน 2Q24 ความเสี่ยงผิดนัดชำระของผู้ว่าจ้างจึงลดลงมาก
แนวโน้มปี 2025-26 สดใส : ในงาน Opportunity day 3Q25 ผบห.เผยปริมาณเทคอนกรีตเดือน ต.ค. ที่ 1,244 ลบ.ม./ วัน สูงกว่าค่าเฉลี่ย 3Q25 ราว 12.4% และมั่นใจว่าจะยืนระดับนี้ได้ ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ในระดับเต็มและเหมาะสมกับสถานการณ์กำลังพลแล้ว จึงไม่มีแผนเพิ่มกำลังการผลิตแต่อย่างใด
จากข้อมูลเหล่านี้ เราคาดกำไรปกตินี้ 132 ลบ. พลิกจากขาดทุน 4 ลบ. ปีก่อน และคาดกำไรปกติปีหน้าจะเติบโต +23.5% y-y เป็น 163 ลบ.
ความเสี่ยง : การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐต้องมีต่อเนื่อง ส่วนภาคอสังหาฯ ควรต้องเริ่มฟื้นภายใน 2H26 เพื่อโอกาสในการได้งานต่อเนื่อง โดย ผบห.เผยผู้ว่าจ้างต่างๆอยู่ระหว่างเตรียมประมูลราว 1.5 หมื่น ลบ.
แนวคิดในการจัดทำประมาณการปี 2025-26 :
เราคาดรายได้รวมปี 2025 จะอยู่ที่ 1,472 ลบ. เร่งตัวขึ้น +15.6% y-y จากการเริ่มเข้าทำงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม อย่างไรก็ดีการส่งมอบงานที่จะเสร็จสิ้นราว 2H26 ทำให้เราประมาณการรายได้ในปี 2026 อย่างระมัดระวังที่ 1,431 ลบ. ลดลง -2.8% y-y
อัตรากำไรขั้นต้นปีหน้าคาดที่ 22.0% ยืนในระดับสูงได้ หลังพบว่าใน 2Q-3Q25 ยืนสูงถึง 21.5%-26.8% ซึ่งด้วย Backlog ในมือ ณ 3Q25 ที่ 2.2 พัน ลบ. โครงสร้างเป็นงานค่าแรง 73.5% และงานรัฐ 71.2% ทำให้เราเชื่อว่าอัตรากำไรจะยืนระดับสูงได้ทั้งปี 2026
คาดดอกเบี้ยจ่ายลดลง -73.3% y-y หลัง SEAFCO ได้คืนหุ้นกู้ 99 ลบ. (อัตราดอกเบี้ย 6%) ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ยังไม่มีแผนการลงทุนใหญ่ใดๆ
ราคาเหมาะสมปี 2026 ที่ 2.65 บาท/ หุ้น : เราเลือกใช้ P/E26E ของ SET ที่ 13.2x เป็น P/E เป้าหมาย เนื่องจาก P/E กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ 25.8x นั้น เรามองว่าสูงเกินไป และมีความกระจายตัวที่ผิดปกติ
ซึ่งแม้ SEAFCO จะมี Core EPS26E growth ที่สูง +23.5% y-y ซึ่งสูงกว่าตลาดฯมาก แต่เพื่อความอนุรักษ์นิยม ผสานกับจุดอ่อนของการเป็นหุ้นขนาดเล็ก เรามองว่า P/E เป้าหมายที่อิงกับดัชนี SET index นั้นมีความเหมาะสมแล้ว
ความเสี่ยง :
(-) ภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวเชื่องช้า จะส่งผลต่ออุปสงค์ในการก่อสร้างอาคารสูง ซึ่งทำให้ความต้องการงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ, กำแพงกันดิน) ฟื้นตัวช้าไปด้วย
(-) แรงงานขาดแคลน หลังจากเหตุความขัดแย้งไทย-กัมพูชา และปัญหาภายในของเมียนมาร์ ทำให้ตลาดแรงงานก่อสร้างตึงตัว อย่างไรก็ดี SEAFCO พอใจกับระดับปัจจุบันแล้ว ยังไม่ได้มีการขยายเครื่องจักร หรือรับงานเพิ่มเกินกำลัง
การประกอบธุรกิจ : ทำธุรกิจผู้รับเหมาด้านวิศวกรรมฐานราก ให้บริการก่อสร้าง เสาเข็มเจาะขนาดใหญ่(Bored pile) กำแพงกันดิน(Diaphragm wall) และ เสาเข็มทรงเหลี่ยม (Barrette Pile) จดทะเบียนในตลาดฯเมื่อ 3 ก.ย. 2004 ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 813 ลบ. พาร์ 0.50 บาท โดยมีหุ้นซื้อคืนอยู่ 23.2 ล้านหุ้น สิ้นสุดโครงการไปเมื่อ 20 ก.พ. 2025 ซึ่งคิดเป็นต้นทุนในการซื้อคืนที่ 2.15 บาท/ หุ้น
เทรดได้อีกหลายไตรมาส
“ เป็นหุ้นขนาดเล็กที่น่าสนใจ โดยปริมาณงานในมือที่หนาแน่น, อัตรากำไรที่สูงขึ้นมาก และความเสี่ยงต่ำ คาดกำไร 3 ไตรมาสข้างหน้าจะสดใส ขณะที่ความเสี่ยงทางการเงินลดต่ำลงมากหลังคืนหุ้นกู้ 99 ลบ. ไปแล้วเมื่อปลายเดือน ก.ย. ทำให้ Net IBD/E เหลือเพียง 0.1x จาก 0.3x และให้ปันผลได้ 4.0% ปีหน้า บน P/E26E ที่เพียง 9.9 เท่า ปัจจุบันราคาหุ้นยังไม่ได้ตอบสนองการ turnaround แต่อย่างใด ”
จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #14076
Jaroonpan.W@liberator.co.th