Equality for All
AH : บมจ.อาปิโก ไฮเทค
3Q25 กำไร 212 ลบ. เพิ่ม +3% y-y +96% q-q : กำไรที่เพิ่มขึ้นทั้ง y-y และ q-q 2 ไตรมาสติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม รายได้รวม 6,116 ลบ. หด -6% y-y และ -6% q-q
ธุรกิจหลัก ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ (73% ของยอดขายรวม) แม้ยอดขายในมาเลเซียจะเพิ่มขึ้น +32% y-y และโปรตุเกส +15% y-y แต่จากยอดขายหลักในไทยยังลดลง -7% y-y ทำให้ยอดขายยังทำได้แค่ทรงตัว y-y
กลุ่มตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการ (27% ของยอดขายรวม) ยอดขายหด -20% y-y จากยอดขายรถยนต์ในมาเลเซียหดตัวแรง -29% y-y จากยอดขายรถฮอนด้าลดลงจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากแบรนด์รถยนต์จีน ขณะที่ยอดขายในไทยลดลง -2% y-y เช่นกัน
อัตรากำไรขั้นต้น ปรับขึ้นมาเป็น 9.2% จาก 7.4% ไตรมาสก่อน และ 8.8% ปีก่อน จากสัดส่วนยอดขายกลุ่มผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มขึ้น
ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร หดตัว -4% y-y และ -1% q-q จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เข้มงวด ขณะที่การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมลดลงตามยอดการผลิตรถยนต์ที่ลดลง แต่หากดอกเบี้ยจ่ายลดลงเช่นกัน -22% y-y จากภาระเงินกู้ที่ลดลง
สภาอุตสาหกรรมคาดปริมาณการผลิตรถยนต์ลดลง 1.4% y-y : สภาอุตสาหกรรม (FTI) คาดปริมาณการผลิตรถยนต์ปี 2025 ที่ 1.45 ล้านคัน หดตัว -1.4% y-y โดยจะเป็นการผลิตขายในประเทศ 5 แสนคัน และผลิตเพื่อส่งออกเหลือ 9.5 แสนคัน โดยยอดผลิตรถยนต์ 10 เดือนแรกของปี 2025 (ม.ค.-ต.ค.) อยู่ที่ 1.21 ล้านคัน ลดลง -2.8% คาดว่าเป้าหมายที่คาดไว้น่าจะทำได้ตามนั้น
ปรับประมาณการปี 2025 ขึ้น 10% จากเดิม : จากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่เข้มงวดและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตทำให้ต้นทุน และค่าใช้จ่ายลดลงทำให้เราปรับประมาณการกำไรขึ้น 10% จากเดิม แต่มีปรับลดยอดขายลงจากยอดขายที่น้อยกว่าคาด เราปรับยอดขายลงเหลือ 25,259 ลบ. หด -5% y-y แต่มีปรับอัตรากำไรขั้นต้นขึ้นจากเดิมเล็กน้อยเป็น 8.8% และปรับกำไรปกติเพิ่มเป็น 757 ลบ. +7%% y-y
แนวโน้มปี 2026 คาดฟื้นตัว y-y : สำหรับการดำเนินงานปี 2026 เราคาดจะกลับมาเติบโต y-y ได้ส่วนหนึ่งจากฐานที่ต่ำ อีกทั้งในปีหน้า AH จะได้ยอดขายจากสินค้าใหม่เข้ามาในช่วง 2Q26 ราว 200 ลบ. ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนการดำเนินงานอีกทาง เราคาดยอดขายเติบโตเพียง +3% y-y แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นคาดปรับขึ้นเป็น 9% เนื่องจากปีก่อนได้รับผลกระทบจากปัญหาการผลิตในโปรตุเกส และคาดกำไรปกติจะอยู่ที่ 818 ลบ. เติบโต +8% y-y
แม้ธุรกิจหลักอาจยังเติบโตไม่มาก แต่มีสัญญาณที่ดีขึ้นทำให้แนวโน้มการดำเนินงานคาดผ่านจุดต่ำสุดแล้ว เราปรับใช้ราคาเหมาะสมปีหน้าเป็น 16.10 บาท/ หุ้น น่าสนใจมากขึ้น
กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง
“ แม้ 4Q25 การดำเนินงานจะอ่อนลง q-q แต่ได้รับผลจากปัจจัยฤดูกาล แต่คาดแนวโน้มต่อจากนี้จะเห็นการฟื้นตัวขึ้นจากผ่านช่วงต่ำสุดแล้วในปีที่ผ่านมา อีกทั้งปีหน้าจะมีการผลิตชิ้นส่วนใหม่มาเติม
เรามองว่าราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจมากขึ้น ซื้อขายบน P/E26E เพียง 5.3x ผลตอบแทนเงินปันผลราว 6% ต่อปี และคาดจะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง เราจึงเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th