Today’s NEWS FEED

News Feed

InnovestX คาดวันนี้ SET "แกว่งพักตัว ขาดปัจจัยหนุนใหม่"

93

 

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 27 พฤศจิกายน 2568 )------- InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ออกบทวิเคราะห์ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 คาดตลาดแกว่ง Sideways พักตัว ตลาดขาดปัจจัยสนับสนุนใหม่ๆ โดยหุ้นกลุ่มเทคฯ ต่างประเทศที่ฟื้นตัวอาจหนุนตลาดหุ้นไทยได้ไม่มากนัก ขณะที่ปัจจัยในประเทศถูกกดดันจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ที่ยืดเยื้อกระทบ Sentiment ลงทุนในระยะสั้น ทางเทคนิคดัชนีถอยกลับมายืนบนเส้น 200 วันรอเลือกทาง หากไม่หลุดคาดรีบาวด์ได้ แต่หากหลุดมีโอกาสไหลลงต่อ แนวรับ 1250/1245 แนวต้าน 1275/1280


ประเด็นสำคัญ
• EIA เผยปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสำรองในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล ผิดจากที่ตลาดคาดจะลดลง เช่นเดียวกับสต็อกน้ำมันสำเร็จรูป อย่างดีเซลและเบนซินที่เพิ่มขึ้น 1.1 และ 2.5 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้
• กระทรวงการคลังกำลังเตรียมมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ มาตรการเร่งด่วนเฉพาะหน้าเป็นศูนย์กลางรับบริจาค, แผนฟื้นฟูหลังน้ำลด เช่น สินเชื่อฟื้นฟูและความช่วยเหลือทางการเงิน และ การใช้กลไกทางการคลังให้การสนับสนุนระยะยาว
• รมว. พลังงานเผยว่ากำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจาก Data Center ซึ่ง BOI ได้อนุมัติการสนับสนุนการลงทุนแล้วกว่า 6 แสนลบ. โดยจะเร่งแก้ไขปัญหาคอขวดด้านสายส่งใน EEC, เสริมความพร้อมในพื้นที่อื่น และผลักดันโครงการ Direct PPA
• นายกสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน เผยตัวเลขสะสมนักท่องเที่ยวจีนที่มาไทยอยู่ที่ราว 3.9 ล้านคน และปี 2568 คาดจะอยู่ที่เกือบ 5 ล้านคน ส่วนปี 2569 ตั้งเป้าอาจถึง 8 ล้านคนหลังผ่านจุดต่ำสุดปีนี้ไปแล้ว ปัจจัยหนุนจากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีน-ญี่ปุ่น และการเสด็จฯ เยือนจีนของในหลวง
• กยท. ประเมินพื้นที่สวนยางใน 9 จังหวัดภาคใต้เสียหายกว่า 1 ล้านไร่จากน้ำท่วม คิดเป็นผลผลิตราว 2.5 ล้านกก. แห้ง หรือมูลค่าราว 147 ลบ. และเตรียมมาตรการช่วยเหลือหลังน้ำลดโดยมีเงินทุนกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำรายละไม่เกิน 50,000 บาท

 

กลยุทธ์การลงทุน
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1240-1300 จุด หลังตลาดยังขาดปัจจัยชี้นำใหม่ โดยปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความคืบหน้าการเจรจาภาษีไทย-สหรัฐฯ, ดุลการค้า ต.ค., ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ต.ค. และ ครม. เศรษฐกิจพิจารณามาตรการช่วยเหลือสภาพคล่องผู้ประกอบการ SMEs และมาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ดัชนี PCE และ PPI ก.ย., GDP 3Q68 (รายงานครั้งที่ 2) ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”


แนวรับ – แนวต้าน : 1250/1245 – 1275/1280

 

ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
ช่วงสั้นมอง SET เคลื่อนไหวในกรอบหลังขาดปัจจัยหนุนใหม่ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ซึ่งผลการดำเนินงานสามารถต้านทานความผันผวนภายนอก โดยเราคาด 4Q68 กำไรยังเติบโตดี YoY และแนะนำ Outperform จากแนวโน้มธุรกิจดี แนะนำ ADVANC BDMS GULF BEM BGRIM PTT
2. หุ้นปันผลคุณภาพดีซึ่งมี SET ESG Ratings A-AAA เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตระยะสั้น โดยคาดจะมีเงินปันผลจ่ายจากกำไรปี 2568 หลังหักเงินปันผลจ่ายระหว่างกาลแล้ว ซึ่งให้ Div. Yield เกิน 5% และเราแนะนำ Outperform ได้แก่ BAM WHA KTB AP SIRI TOP BLA
3. หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง เราคาด กนง. จะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายปีนี้อีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. และปีหน้า 2 ครั้งในช่วง 1H69 อาทิ หุ้นที่จะมีต้นทุนการเงินลดลง เพราะมีภาระหนี้สินซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวสูง แนะนำ CENTEL GPSC TRUE และหุ้นที่จะมีต้นทุนการดำเนินการลดลง หรือ กำลังซื้อผู้บริโภคดีขึ้น แนะนำ AP MTC รวมทั้งหุ้นกลุ่ม REITs แนะนำ DIF FTREIT LHHOTEL
4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้และต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจาก ครม. เศรษฐกิจพิจารณามาตรการส่งเสริมการลงทุนเร่งด่วน (BOI Fast Pass) แนะนำ กลุ่มนิคมฯ (WHA AMATA) 2) หุ้นที่คาดได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของรัฐ แนะนำ กลุ่มท่องเที่ยว (CENTEL ERW) จากมาตรการเที่ยวดีมีคืน, กลุ่มไฟแนนซ์ (BAM MTC) จากมาตรการพักหนี้และให้สินเชื่อรายย่อย และ 3) หุ้นที่คาดนำเข้าคำนวณดัชนี SET50 ในรอบ 1H69 ซึ่งจะประกาศในช่วงกลาง ธ.ค. นี้ แนะนำ SAWAD ITC


Daily Top Picks
FTREIT: ราคาหุ้นมีโอกาสได้อานิสงส์บวกจากแนวโน้มเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาลง และความต้องการเช่าพื้นที่ยังอยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะใน EEC ทำให้คาดปี FY2569 กำไรของกองทรัสต์จะยังแข็งแกร่ง อีกทั้งยังมีแผนเข้าลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มอย่างน้อย 1.5 พันลบ. ซึ่งจะเป็น Upside ต่อประมาณการ ราคาเป้าหมาย 11.10 บาท

GPSC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาก๊าซฯ ที่ปรับลงและอัตราดอกเบี้ยที่มีโอกาสลดลง 4Q68 คาดกำไรจะทรงตัว QoQ และ YoY เนื่องจาก Ft ที่ลดลงแต่จะถูกชดเชยด้วยต้นทุนก๊าซฯ ที่คาดจะลดลง ส่วนการที่บริษัทกำลังพิจารณาลงทุน Data Center ในไทยและอินเดียจะเป็น Upside ในระยะถัดไป ราคาเป้าหมายระยะสั้น 36.50 บาท

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้