Today’s NEWS FEED

News Feed

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย แนวโน้มธุรกิจปุ๋ยเคมีไทย ปี 2569

91

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(19 พฤศจิกายน 2568)---------ในปี 2569 ยอดขายปุ๋ยเคมีของไทย คาดว่าจะอยู่ที่ 94,627 ล้านบาท หรือโต 0.5% ชะลอลงจากปี 2568 ที่โต 1.5% ตามความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีที่เพิ่มขึ้นไม่มาก และราคาขายปุ๋ยเคมีในประเทศที่ปรับลดลง ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลก


• ราคาขายปุ๋ยเคมีไทยในปี 2569 คาดว่าลดลง 1.5% จะช่วยหนุนความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีไทยให้โต 2.1% ไปอยู่ที่ 4.49 ล้านตัน ตามราคาสินค้าเกษตรรายการหลักที่อาจขยับขึ้นเล็กน้อยอย่างข้าวและปาล์มน้ำมัน จึงจูงใจให้เกษตรกรมีความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิต

 

ตลาดปุ๋ยเคมีแข่งขันสูงจากผู้เล่นมากราย โดยมีรายกลาง-ใหญ่ครองส่วนแบ่งตลาดเป็นหลัก

ปัจจุบันตลาดปุ๋ยเคมีแข่งขันสูงจากผู้เล่นจำนวนมากกว่า 685 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นรายเล็ก ซึ่งจะแข่งขันได้ยาก เนื่องจากมีการผลิตปุ๋ยเคมีที่คุณภาพไม่สม่ำเสมอ จึงเป็นข้อจำกัดในการเพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลต่อสัดส่วนจำนวนผู้เล่นลดลงจาก 90.1% ในปี 2564 เป็น 89.5% ในปี 2567 และยังสร้างสัดส่วนรายได้เพียง 7% ของรายได้ปุ๋ยเคมีทั้งหมด ขณะที่ผู้เล่นรายกลาง-ใหญ่จะได้เปรียบด้านต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ และยังมีกลยุทธ์ส่งเสริมการขายต่อเนื่อง จึงสามารถจำหน่ายปุ๋ยเคมีได้ตลอดทั้งปี ทำให้แม้จะมีสัดส่วนจำนวนผู้เล่นเพียง 10% แต่กลับมีสัดส่วนรายได้ถึง 93% ของรายได้ปุ๋ยเคมีทั้งหมด (รูปที่ 2)

 

อย่างไรก็ดี อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ของธุรกิจปุ๋ยเคมีอยู่ในระดับที่ไม่สูงนักเฉลี่ยที่ราว 15% เนื่องจากการแข่งขันรุนแรง และผู้ผลิตที่นำเข้าปุ๋ยเคมีต้องมีต้นทุนเพิ่มจากการปกป้องความเสี่ยงจากค่าเงินที่ผันผวนในบางช่วงเวลา นอกจากนี้ การที่ปุ๋ยเคมีเป็นสินค้าควบคุม ทำให้ราคาจำหน่ายในประเทศปรับขึ้นได้จำกัด

ยอดขายปุ๋ยเคมีของไทยในปี 2569 คาดอยู่ที่ 94,627 ล้านบาท

ในปี 2569 ยอดขายปุ๋ยเคมีไทย คาดว่าจะโตได้เพียงเล็กน้อยที่ 0.5% ชะลอลงจากปี 2568 ที่โต1.5% (รูปที่ 3) ตามความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีที่โตได้ไม่มาก และราคาขายปุ๋ยเคมีที่ปรับลดลง


ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีของไทยในปี 2569 คาดอยู่ที่ 4.49 ล้านตัน

ในปี 2569 ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีไทย คาดว่าจะเติบโตที่ 2.1% เทียบจากปี 2568 ที่หดตัว 1.9% (รูปที่ 4) ทั้งนี้ ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีของไทยในปี 2569 จะยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าความต้องการใช้ในระดับปกติ ที่อยู่ที่ 4.7 ล้านตัน ซึ่งคาดว่าความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีของไทยจากนี้ไปอาจเพิ่มขึ้นได้ไม่มาก จากปัจจัยลบด้านการเกษตรที่ไม่เอื้ออำนวยนักโดยเฉพาะในด้านราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงซบเซา

สำหรับปัจจัยสำคัญที่หนุนความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีของไทยในปี 2569 คือ ราคาสินค้าเกษตรในรายการสำคัญที่น่าจะขยับขึ้นได้เล็กน้อย จะจูงใจให้เกษตรกรมีความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีมากขึ้น เพื่อเพิ่มผลผลิต ทั้งนี้ ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีจะมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกับราคาสินค้าเกษตร (รูปที่ 5)

 

ทั้งนี้ ในปี 2569 คาดว่าราคาข้าวและปาล์มน้ำมันอาจปรับขึ้นได้เล็กน้อย (รูปที่ 6) ตามสภาพอากาศในช่วงครึ่งปีหลังที่อาจพลิกกลับมาเป็นปรากฏการณ์เอลนีโญ และเป็นไปตามราคาตลาดโลก นอกจากนี้ ข้าวและปาล์มน้ำมัน ยังเป็นพืชที่มีสัดส่วนการใช้ปุ๋ยเคมีรวมกันมากกว่า 54% ของปริมาณความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีในพืชเกษตรทั้งหมด (รูปที่ 7) จะช่วยหนุนให้ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีเพิ่มขึ้น

ราคาขายปุ๋ยเคมีของไทยในปี 2569 คาดลดลงอยู่ที่ 21,075 บาทต่อตัน

ในปี 2569 ราคาขายปุ๋ยเคมีในประเทศ คาดว่าจะปรับลดลง 1.5% (รูปที่ 8) เป็นไปตามราคาวัตถุดิบตั้งต้นสำคัญเพื่อผลิตปุ๋ยเคมีอย่างก๊าซธรรมชาติ ที่คาดว่าในปี 2569 ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะลดลงราว 10.7% ทั้งนี้ ไทยนำเข้าปุ๋ยเคมีเป็นหลัก ทำให้ราคานำเข้าปุ๋ยเคมีของไทยจะเป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาปุ๋ยเคมีในตลาดโลก (รูปที่ 9)

 

ความเสี่ยงของอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีไทยในระยะกลาง-ยาว
คาดว่า ความต้องการใช้ปุ๋ยเคมีไทยคงโตจำกัด ขณะที่ราคายังเสี่ยงไม่แน่นอนตามตลาดโลก


• แม้จะมีความต้องการบริโภคพืชอาหารรองรับตามเทรนด์ความมั่นคงด้านอาหาร แต่ประเทศผู้นำเข้าอาหารหลักได้หันมาผลิตอาหารเอง จะกดดันการใช้ปุ๋ยเคมีของไทยที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรหลักของโลก โดยประเทศที่บริโภคอาหารรายใหญ่ของโลกอย่างจีน ได้มีนโยบายผลิตอาหารเองมากขึ้นเพื่อลดการนำเข้า ผ่านแผนสร้างประเทศเกษตรกรรมเข้มแข็งภายในปี 2578 ที่จีนจะเพิ่มผลผลิตสินค้าเกษตรไปพร้อมกับพัฒนาเทคโนโลยีเกษตร ที่มีเป้าหมายเพิ่มผลผลิตข้าวและธัญพืชให้มากกว่า 700 ล้านตันต่อปีและจะเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกมาตรฐานสูงเป็น 72 ล้านเฮกตาร์ รวมถึงสหรัฐอเมริกาจะเพิ่มพื้นที่ปลูกข้าวโพด เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานทางเลือก

• ความต้องการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ของไทยเพิ่มขึ้น จะกระทบการใช้ปุ๋ยเคมี โดยไทยมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในปี 2567 อยู่ที่ 1.51 ล้านไร่ ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 8.4 เท่าจากปี 2560 อีกทั้งภาครัฐยังมีเป้าหมายในปี 2570 ที่จะมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ที่ 2 ล้านไร่ ส่งผลหนุนการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งนี้ จะสอดคล้องไปกับเทรนด์โลกที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งปุ๋ยเคมีโดยเฉพาะปุ๋ยไนโตรเจนจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 21.5% ของปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยทั้งหมดในภาคเกษตรโลก

• ต้นทุนการผลิตปุ๋ยเคมีผันผวนสูงตามราคาพลังงานโลก จากความไม่แน่นอนหลายด้านของโลก เช่น ประเด็นภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลก และภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น ที่ส่งผลต่ออุปทานและราคาก๊าซธรรมชาติ/ราคาน้ำมันดิบโลก จะกระทบต่อต้นทุนนำเข้าปุ๋ยเคมีของไทยให้มีความไม่แน่นอนสูง จึงกำหนดราคาขายในประเทศได้ยากและมีผลต่อการทำกำไร

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้