Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.บัวหลวง : รอบด้านตลาดหุ้น

102

 

ภาพตลาดและแนวโน้ม Market wrap & Outlook

Earnings Insight สรุปงบไตรมาส 3 | คัดหุ้นผู้นำคุณภาพก่อนรอบฟื้นตัวปีหน้า
Key findings:
กำไรสุทธิไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 30% YoY แต่ลดลง 24% QoQ (สูงกว่าตลาดคาด 6.8%)
รายได้จากบริการมือถือ–อินเทอร์เน็ต/การรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นของ GULF เป็นแรงส่งสำคัญ แม้ยังโดนกดดันจากกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกจากกลุ่มพลังงานต้นน้ำ กลุ่มปิโตรฯ ที่ยังคงขาดทุน และราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลง รวมถึงความต้องการอสังหาฯ ยังอ่อนแอจากปีก่อน
หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักออกมาเพิ่มขึ้น 1% YoY (แต่ลดลง 7% QoQ) ตามคาด
กลุ่มที่กำไรหลักออกมาเติบโต YoY นำโดย
กลุ่มสื่อสาร (รายได้จากบริการมือถือ–อินเทอร์เน็ตเติบโตต่อ)
กลุ่มพลังงาน/โรงไฟฟ้า (ค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น, GULF คาดโตต่อเนื่องหนุนจากรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จาก ADVANC กำไรจากธุรกิจโรงไฟฟ้าต่างประเทศขยายตัว ในขณะที่ราคาพลังงานที่ลดลงกดดันกำไรกลุ่มพลังงานต้นน้ำ),
กลุ่มธนาคาร (กำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลงและการตั้งสำรองcredit cost ที่ลดลง)
กลุ่มค้าปลีก (กลุ่มค้าปลีกสินค้า IT ยังโตดียอดขายสินค้าจาก Apple และห้างสรรพสินค้าที่อิงรายได้ผู้เช่ารายได้ผู้เช่ายังโต, ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ CPALL ยังโตจากอัตรากำไร-สัดส่วนอาหารพร้อมทาน/เครื่องดื่มเพิ่มขึ้น, ขณะที่การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นสำหรับ Lotus’s กดดันกำไร CPAXT แม้ธุรกิจค้าส่ง Makro ยังโตดี, สำหรับกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างยอดขายสาขาเดิมยังคงหดตัว)
กลุ่มที่กำไรหลักออกมาลดลง YoY/ยังขาดทุน นำโดย
กลุ่มอาหาร (กลุ่มเนื้อสัตว์ถูกกดดันจากราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลงกดดันอัตรากำไรสุทธิ กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง โดนกดดันจากยอดส่งออก)
กลุ่มอสังหาฯ (ยอดจองซื้อรวมในไตรมาส 3 หดตัวเล็กน้อย 1%YoY หลักๆ จากแนวราบ ขณะที่ยอดจองกลุ่มคอนโดฟื้นตัวเล็กน้อย YoY)
กลุ่มปิโตรฯ ยังขาดทุน (กดดันจากส่วนต่างปิโตรฯ)
แม้สัดส่วนจำนวนหุ้นที่กำไรสูงกว่าคาดเทียบต่ำคาด (Beat-to-miss ratio) เพิ่มขึ้น สะท้อนกำไรฟื้นแบบกระจายตัวมากขึ้น ความคาดหวังตลาดไม่สูงแต่ประมาณการกำไรตลาดยังถูกปรับลงต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มการแพทย์ กลุ่มการเงิน กลุ่มพลังงาน/ปิโตรฯ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์

 


“ยังคงมุมมองเชิงบวกแบบระมัดระวัง (cautiously optimistic)”
หุ้นผู้นำคุณภาพ (Early flyers) ที่
1) กำไร/รายได้ไตรมาส 3 ไม่ต่ำคาด
2) รายได้ไตรมาส 3 ไม่หดตัวแรง
3) กำไรไตรมาส 4 คาดโตเด่น และจะเป็นผู้นำการเติบโตในปีหน้า หนุนจากรายได้ + ROE ขยายตัวเด่น
4) ไม่เห็นการปรับกำไรลงแรง 3 เดือนที่ผ่านมา
5) มีปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัวชัดเจน ได้แก่ CPN WHAUP CENTEL



สรุปภาพตลาดวานนี้
หุ้นไทยย่อวานนี้ เหมือนตลาดโลก แต่ยังอยู่ในโซนแนวรับ โดย DELTA กดดันหลัก ร่วมกับกลุ่มปิโตรฯ โรงกลั่น (ขายทำกำไร) คอมเมิร์ช และพลังงาน ขณะที่ด้านพวก ชัดเจนว่ามาพักเงิน หนุนกลุ่มไอซีที หุ้นปันผล-พลังงาน บวกเบาๆ

แนวโน้มตลาดวันนี้
หุ้นไทย(ยังคง)เก็บคองอเข่า รับมือหุ้นโลกผันผวน
คงคาดหุ้นไทยเริ่มตั้งหลักได้-ไม่หลุดต่ำกว่าโซน 1260/1270 จุด (Warning sign: คือการหลุด 1250 จุด จะเกิดแรงเร่งขายแบบ Panic sell) โดยเรายังติดตามแนวทางสำหรับการฟื้นตัวของตลาดหุ้นไทยผ่าน 1.) อิทธิพลความผันผวนของสินทรัพย์ทั่วโลกต่อตลาดหุ้นไทย ควรเริ่มลดลง 2.) แรงขายหุ้นไทยต้องบรรเทาเบาลงพร้อมวอลุ่มที่หดและ มีการหมุนกลุ่มขึ้นมาเล่นสลับไม่ใช่ลงกระจายกลุ่ม 3.) หุ้นที่โดนเทขายหนักเพราะงบไตรมาส 3 แย่ ควรยืนได้แล้ว เช่น กลุ่มปิโตรเคมี ค้าปลีก
กลยุทธ์คงคำแนะนำ ถือเงินสด และหุ้น 50/50 (สามารถอิงตามพอร์ตจำลองกลยุทธ์: นักลงทุนควรถือเงินสด 50% เพื่อรอช้อนซื้อหุ้นเมื่อมีสัญญาณซื้อ / และถือหุ้น 50% ตามพอร์ตกลยุทธ์ที่มีของเดิมไว้ก่อน)
โดยธีมการเลือกหุ้นเล่นรอบ จะเปลี่ยนไปเน้นที่ Catalysts (ปัจจัยหนุนราคาหุ้น) แทนการหาหุ้นตามผลการดำเนินงาน (ยกตัวอย่างหุ้นที่เรา ถือตามพอร์ตจำลอง AOT CENTEL TOP WHAUP CPF เป็นต้น)

กลยุทธ์การลงทุน กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้-“รอ” สะสมหุ้นเมื่อราคาย่อลง ไม่ไล่ราคา เน้นไปที่หุ้นผลตอบแทนเงินปันผลสูง, หุ้นที่มีการปรับเพิ่มประมาณการกำไร และ เพิ่มการเล่นหุ้นตามกระแสการเก็งกำไร

วิเคราะห์ทางเทคนิค
3 วันที่ผ่านมา SET Index ลงมาสู้ที่เส้น EMA 200 วัน ซึ่งตรงกับตำแหน่งตัวเลข Fibonacci retracement 23.6% โดย เทรดภายใต้คลื่นขาลง “Corrective wave C” ขณะที่ RSI ชี้ว่าโครงสร้างตลาดอ่อนแอ เนื่องจากเคลื่อนที่ต่ำกว่าเส้น signal line ประเมินแนวโน้ม SET จุดวัดใจแนวรับ 1,250 ห้ามหลุดเป็นอันขาด แนะรอสัญญาณยืนยัน หากสัปดาห์นี้ยืนได้ มีลุ้นการรีบาวด์กลับ หรือจบคลื่น “C”

แผนการเทรด: เน้นเลือกหุ้นเป็นรายตัว “Selective buy”
Note: DELTA -1.8% impact ฉุด SET -3.8 จุด
ไฮไลท์หุ้น: แผนเทรด เมื่อ ADVANC & TRUE กดไม่ลง/ CBG ฟื้น...ท่ามกลางข่าวร้าย/ WHAUP ทะลุ EMA 200 วัน....ขาขึ้นยังไม่จบง่ายๆ BCH ขาลงเสี่ยงหลุด low / RCL: Ascending triangle & Seasonal pattern “ปิดสวย ตามแผน”


What to watch
ตลาดคาดหุ้นเพิ่มเข้าคำนวณดัชนี SET50 ม.ค.-มิ.ย.69: GLOBAL, ITC, SAWAD หุ้นออกได้แก่ BCP, KKP, VGI โดยคาดประกาศกลางเดือน ธ.ค.69 / ดัชนี SET100 คาดหุ้นเข้า BPP, CKP, SAPPE ส่วนหุ้นถูกถอด คาดได้แก่ JTS, MBK, WHAUP
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงสถานการณ์นักท่องเที่ยวช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา (10-16 พ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 689,431 คน ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้า 8,958 คน หรือ 1.28% คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 98,490 คน
ภาพรวมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 พ.ย. 68 มีจำนวนทั้งสิ้น 28,277,276 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วประมาณ 1,308,132 ล้านบาท
MSCI ประกาศทบทวนดัชนีรายไตรมาส MSCI Global Small Index หุ้นเข้ามี 1 ตัว คือ M ส่วนหุ้นออกมี 5 ตัว คือ AAV, CKP, JTS, QH, TPIPP โดยจะมีผลต่อราคาปิดของวันที่ 24 พ.ย.
รายงาน GDP ไทย 3Q25 +1.2% y-y โตต่ำกว่าตลาดคาดที่ 1.3-1.7%
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย กสทช. เตรียมเสนอโครงการ "เน็ตคนละครึ่ง" เพื่อช่วยเหลือและส่งเสริมการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนกลุ่มรายได้น้อย โดยเฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กว่า 14 ล้านคนทั่วประเทศ โดยใช้งบประมาณสนับสนุนจากกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ

หุ้นแนะนำวันนี้
CPF ราคาหุ้นปรับฐาน 20% จากจุดสูงสุดของรอบ, ราคาเนื้อหมูเริ่มเห็นสัญญาณดีหลังจากคุมราคาขายได้-ไม่ให้ลงต่ำกว่าต้นทุน ด้านต้นทุนมีแนวโน้มลดลงจากการนำเข้าต้นทุนข้าวโพดและอาหารสัตว์ PE เหลือ 6 เท่า ต่ำสุดรอบ 20 ปี ผลตอบแทนเงินปันผลพุ่ง 4.6% สูงสุดรอบ 15 ปี
แนวรับ 21 ต้าน 22.5 Stop loss 20

 

 

 

รายงานพื้นฐานวันนี้

Thai Market Strategy
สรุปงบไตรมาส 3 พร้อมคัดหุ้นผู้นำคุณภาพก่อนรอบฟื้นตัวปีหน้า
สรุปกำไรสุทธิ 3Q25 เพิ่มขึ้น 30% YoY แต่ลดลง 24% QoQ (สูงกว่าตลาดคาด 6.8%) แรงหนุนหลักจาก รายได้จากบริการมือถือ อินเทอร์เน็ต การรับรู้ส่วนแบ่งรายได้และกำลังการผลิตใหม่ที่เพิ่มขึ้นของ GULF เป็นแรงส่งสำคัญ แม้ยังโดนกดดันจากกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจโลกจากกลุ่มพลังงานต้นน้ำ กลุ่มปิโตรฯ ที่ยังคงขาดทุน และราคาเนื้อสัตว์ที่ลดลง รวมถึงความต้องการอสังหาฯ ยังอ่อนแอจากปีก่อน หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักออกมาเพิ่มขึ้น 1% YoY (แต่ลดลง 7% QoQ) เป็นไปตามคาด

กลุ่มที่กำไรหลักออกมาเติบโต YoY นำโดย กลุ่มสื่อสาร กลุ่มพลังงาน/โรงไฟฟ้า กลุ่มธนาคาร กลุ่มค้าปลีก (กลุ่มค้าปลีกสินค้า, CPN, CPALL) ส่วนกลุ่มที่กำไรหลักออกมาลดลง YoY หรือยังขาดทุน นำโดยกลุ่มอาหาร (กลุ่มเนื้อสัตว์ถูกกดดันจากราคา, กลุ่มเครื่องดื่มชูกำลัง) กลุ่มอสังหาฯ กลุ่มปิโตรฯ

แม้สัดส่วนจำนวนหุ้นที่กำไรสูงกว่าคาดเทียบต่ำคาด (Beat-to-miss ratio) เพิ่มขึ้น สะท้อนกำไรฟื้นแบบกระจายตัวมากขึ้น ความคาดหวังตลาดไม่สูงแต่ประมาณการกำไรตลาดยังถูกปรับลงต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มเชื่อมโยงเศรษฐกิจในประเทศและเศรษฐกิจโลก ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มการแพทย์ กลุ่มการเงิน กลุ่มพลังงาน/ปิโตรฯ และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ แต่ “ยังคงมุมมองเชิงบวกแบบระมัดระวัง (cautiously optimistic)”

Strategist view: เน้นหุ้นผู้นำคุณภาพ (Early flyers) ที่ 1) กำไร/รายได้ 3Q25 ไม่ต่ำคาด, 2) รายได้ 3Q25 ไม่หดตัวแรง, 3) แนวโน้ม 4Q25 โตเด่น และจะเป็นผู้นำการเติบโตในปีหน้า หนุนจากรายได้ และ ROE ขยายตัว, 4) ไม่เห็นการปรับกำไรลงแรง 3 เดือนที่ผ่านมา และ 5) มีปัจจัยบวกหนุนการฟื้นตัวชัดเจน
หุ้นเด่นสุด ที่คัดมาจากเงื่อนไขดังกล่าว ได้แก่ CPN WHAUP CENTEL

 

 

Residential Property
การเปิดโครงการใหม่ยังช้า แต่ Take-up ดีขึ้น
การเปิดตัวโครงการใหม่ในเดือน ต.ค. อยู่ที่ 5,405 ยูนิต ลดลง 11% MoM จากการชะลอตัวของคอนโดและทาวน์เฮาส์ ขณะที่ บ้านเดี่ยวยังถือว่าทนแรงกดดันได้ดีที่สุด แม้อุปทานชะลอ แต่อัตราขาย (Take-up rate) ดีขึ้นเป็น 23% (+6% MoM) บ่งชี้ดีมานด์เฉพาะกลุ่มสำหรับโครงการที่ “วางตำแหน่งการขายได้ดี” โดยคอนโดโดดเด่นที่สุด มีอัตราขาย 35% สอดรับดีมานด์เมืองที่ยังแข็งแรงในบางทำเล บ้านเดี่ยวและทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่ 9% และ 17% ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี แม้เห็นสัญญาณตลาดเริ่มเสถียรขึ้น แต่ภาพรวมตลาดยังถือว่าเปราะบาง ยังไม่ฟื้นแบบวงกว้าง (Broad-based) โดยข้อมูล ต.ค. ชี้ว่าผู้ประกอบการเริ่มมีความระมัดระวังด้านออกซัพพลายใหม่ และดีมานด์บางกลุ่มตอบรับโครงการที่เลือกทำเลและราคาเหมาะสม แต่ข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง เช่น อนุมัติเครดิตเข้มงวด ความเชื่อมั่นผู้บริโภคอ่อน และการแข่งขันด้านโปรโมชัน ยังกดดันตลาดภาพรวม

Fundamental view: เรายังให้ระมัดระวังกลุ่มอสังหาฯ แนวราบ กลุ่มกลาง–ล่าง และคอนโดแบบ Mass เนื่องจากกำลังซื้อเปราะบาง ส่วนโครงการระดับกลาง–บนที่เลือกทำเลดีจะยังทำผลงานได้ดีกว่าตลาด

 


Retails Sector
สินค้าไอที และห้างแบบรับค่าเช่า ยังแกร่งสุด
ภาพรวมกลุ่มค้าปลีกยังอ่อนแรงต่อเนื่อง โดยกำไรรวม 3Q25 ลดลง 3% YoY และ 9% QoQ (ต่ำกว่าคาด ทั้งเราและตลาด) จากแรงกดดันจากสินค้าจำเป็น โดยการแข่งขันที่รุนแรงใน Big-format และค่าธรรมเนียมขายออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น กระทบ BJC, CPAXT และ CRC กำไรหลักอ่อนกว่าคาด และตกแต่งบ้านฯ (HD&C) ก็อ่อนแอยืดเยื้อ ขณะที่สินค้า IT กลายเป็นกลุ่มที่โดดเด่นที่สุดใน 3Q25 และห้างฯ เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ 4Q25–2026

แนวโน้ม 4Q25 คาด SSS ของกลุ่มยังอ่อนแอ จาก Grocery -1%, HD&C -6–7% และห้างฯ -2% ขณะที่ CPN ยังมี Traffic ที่เติบโต +2% และ Makro ได้แรงหนุนจาก “คนละครึ่งพลัส” ทำให้ SSS +1–2% และ IT Retail ยังโดดเด่นที่สุดจาก iPhone 17 กลับมาปกติตั้งแต่ พ.ย. ทำให้เราคาดกำไรรวม 4Q25 ลดลงเพียง 1% YoY แต่ฟื้นแรง 31% QoQ ตามฤดูกาลและมาตรการกระตุ้น

Fundamental view: เรายังคงเลือก CPN เป็นผู้นำการฟื้นตัวของกลุ่มห้างฯ รับค่าเช่าแน่นอน และ COM7 เป็นตัวเด่นของ IT Retail ส่วนภาพรวมกลุ่ม เรายังให้น้ำหนักระมัดระวังในกลุ่ม สินค้าจำเป็น และ ตกแต่งบ้าน ที่ยังอ่อนแรงต่อเนื่อง

 


THAI
(Visit Note)
การบินไทย
แนวโน้ม 4Q25 และปี 2026 แข็งแกร่ง
THAI รายงานกำไรหลัก 3Q25 ที่ 5,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 307% YoY (ราคาน้ำมันลดลง, ค่าซ่อมแซมลดลง) อย่างไรก็ตามจำนวนผู้โดยสารลดลง (-1% YoY เป็น 3.90 ล้านคน), รายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วย (passenger yield) ลดลง (-8% YoY เป็น 2.61 บาท/คน-กม. เนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น), และรายได้จากพัสดุภัณฑ์เฉลี่ยต่อหน่วย (freight yield) ลดลง (-11% YoY เป็น 8.39 บาท/ตัน-กม.) ในขณะที่กำไรหลัก 3Q25 ลดลง 20% QoQ ตามทิศทางฤดูกาล
แนวโน้ม 4Q25 จากการประเมินเบื้องต้น มีแนวโน้มเติบโต QoQ ช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวไทย และการปรับกลยุทธ์การขาย (เน้นขายเป็น network) ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและ passenger yield สูงขึ้น อย่างไรก็ตามอาจมีการบันทึก impairment loss ของเครื่องบินเข้ามาในงบการเงิน 4Q25

ส่วนปี 2026 การเติบโตจะมาจากปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (ASK) เพิ่ม จากทยอยรับเครื่องใหม่ บนสมมติฐานที่สามารถรักษาความสามารถในการทำกำไรได้ และอาจมีอัพไซด์หากมีการเช่าเครื่องบินเพิ่มเติม (คาดเห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้) ในขณะที่คาดว่ารายได้จากผู้โดยสารเฉลี่ยต่อหน่วยจะทรงตัวใกล้เคียงกับปี 2025 ที่ราว 2.78 บาท/คน-กม.


Earnings revision breath & Valuation: ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา Consensus ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2025 ของ THAI ขึ้น 23% มาอยู่ที่ 3.44 หมื่นล้านบาท และทำประมาณการกำไรปี 2026 ที่ 2.91 หมื่นล้านบาท (ลดลง 15% YoY) ปัจจุบัน THAI จะซื้อขายที่ PER ปี 2026 ที่ 7.9 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสายการบินในภูมิภาคเอเชียที่ 14.9 เท่าอยู่ 47% เรามองว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นได้ต่อไป

 


สรุปประเด็นจาก Quick take

IRPC
ไออาร์พีซี
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
แนวโน้มผลการดำเนินงานหลัก 4Q25 ปรับตัวดีขึ้น YoY & QoQ หนุนโดยค่าการกลั่นที่สูงขึ้น ถึงแม้ว่าส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ IRPC อยู่ระหว่างดำเนินงานตามแผนขายสินทรัพย์ที่เป็น non-core (คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปลายปีนี้ – 1H26)
View from fundamental: โครงสร้างต้นทุนการดำเนินงานที่สูงของ IRPC ส่งผลให้กำไรของบริษัทมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงของส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ สำหรับกลุ่มโรงกลั่น เราชอบ SPRC และ TOP มากกว่า

 


TFG
ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
บริษัทมองราคาหมูไทยจะฟื้นตัวต่อจาก 64 บาท ปัจจุบันไปถึง 70 บาท แต่จุดที่สมดุล มองที่ราคา 65 บาท และราคาหมูเวียดนาม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจนหลังจากพายุและน้ำท่วม ขณะที่ผลกระทบจากโรคระบาดทำให้ supply หาย บริษัทมีแผนขยายกำลังการผลิตเชือดหมูเพิ่ม supply 10% YoY ปีหน้าและจะขายเข้าร้านรีเทลของตัวเอง ตามการขยายสาขาอีก 235 สาขา เป็น 850 สาขา
View from fundamental: เราชอบกลยุทธ์การเติบโตของ TFG ในการขยายธุรกิจ livestock โดยมีธุรกิจรีเทลมารองรับ สนับสนุนการเติบโตในอีก 2-3 ปีข้างหน้า การลดลงของต้นทุนการเลี้ยงและการล็อคราคาของบริษัท ทำให้ความกังวลต่อมาร์จิ้นปีหน้าของเราน้อยกว่าที่คิดไว้ แม้ราคาเนื้อสัตว์จะลดลง เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร และเห็นอัพไซด์ต่อกำไรและราคาเป้าหมายที่ 5.4 บาท

SAT
สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี
มุมมองต่อการประชุมนักวิเคราะห์
ยอดขายกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ใน 4Q25 คาดลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล ในขณะที่ margin คาดคงระดับสูง แต่อาจลดลง YoY จากการปรับราคา material ให้ลูกค้า ยอดขายฝั่งชิ้นส่วนการเกษตรใน 4Q25 คาดลดลง YoY จากปัจจัยราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ประกอบกับสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา (<10% จากสัดส่วนยอดขายเครื่องจักรกลการเกษตร)
View from fundamental: เราประเมินกำไร 4Q25 ทรงตัว QoQ แต่ลดลง YoY จากปัจจัยกลุ่มรถกระบะที่ฟื้นช้าและกลุ่มชิ้นส่วนเครื่องจักรกลการเกษตรที่ยังถูกกดดัน ทั้งนี้ เราแนะนำwait and seeความชัดเจนของการฟื้นตัวรถกระบะและยอดจองรถในงาน Motor expo

 

วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
นภนต์ ใจแสน นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
ภูวดล ภูสอดเงิน, AISA นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

หุ้นอินไซด์ทอลค์ : NKT เปิดโรงพยาบาลนครธน2เดือนธันวาคมนี้ เติมรายได้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้