ภาวะตลาด SET Index วานนี้ปิดลดลง -10.26 จุด ที่ 1298.60 มูลค่าซื้อขาย 4.1 หมื่นลบ. โดยมีแรงขายในกลุ่มธนาคาร (ยกเว้น KTB) พลังงาน ปิโตรเคมี รวมถึงหุ้นใหญ่ อย่าง GULF, AOT, PTTGC, THAI ฯลฯ กดตลาดลง เนื่องจากตลาดสะท้อนมาตรการกระตุ้นของรัฐบาลไปแล้วพอควร และยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามาเพิ่ม นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -532 ลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -889 ลบ. พอร์ตบล.ขายสุทธิ 1.0 พันลบ. รายย่อยยังคงซื้อสุทธิ +2.5 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: วันนี้ (5 พ.ย.) ศาลฎีกาสหรัฐนัดไต่สวนคดี “มาตรการภาษีทรัมป์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่” อย่างไรก็ดี ถ้าศาลตัดสินให้ยกเลิกมาตรการภาษีดังกล่าว รัฐบาลก็จะเปลี่ยนไปใช้อำนาจตามกฎหมายภาษีอื่นๆ เพื่อให้ภาษีศุลกากรยังคงมีผลบังคับใช้กับประเทศต่างๆต่อไป ด้านชัตดาวน์ของสหรัฐก็แตะสถิติเดิม 35 วันแล้ว และมีแนวโน้มจะทำสถิติใหม่ หลังเดโมแครต-รีพับลิกันยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลง
• สหรัฐ: จับตาตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ในวันนี้ (5 พ.ย.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของเฟดในเดือนธ.ค.25
• ดัชนี ตลาดหุ้นสหรัฐพักฐาน นำโดยกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ และกังวลภาวะฟองสบู่ในหุ้นเทคโนโลยี ราคาน้ำมันดิบ WTI & Brent ลดลงเป็น 60-64 ดอลลาร์/บาร์เรล จากภาคผลิตเดือนต.ค.ของหลายประเทศชะลอตัวลง และกังวลภาวะอุปทานล้น สัญญาทองคำรีบาวด์ ร่วง -53.50 US$ สู่ 3,960.50 US$/ออนซ์ จากดัชนีค่าเงินดอลลาร์แข็งขึ้น
• ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเป็น 100.156 เงินบาทอ่อนเป็น 32.58 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี ถอยมาที่ 4.06% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 110.85 ดัชนี Baltic Dry Index เพิ่มเล็กน้อยเป็น 1,958

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• รัฐบาลเปิดโครงการ "สุขกาย สบายกระเป๋า" เพิ่มทางเลือกซื้อยานอกรพ.เอกชน คาดประชาชนประหยัดรายจ่ายราว 3.2 หมื่นลบ. สำหรับผลกระทบต่อร.พ.เอกชนอาจจะมีบ้าง แต่ไม่ถึงกับรุนแรง เนื่องจากผู้ป่วยที่มีประกันส่วนใหญ่ ต้องการใช้ยาจากร.พ. รวมถึงมีความต้องการใช้บริการและยาเฉพาะทางจากร.พ.สำหรับโรคร้ายแรง

กลยุทธ์ : อยู่ในช่วงการพักฐาน ถ้าหลุดแนวรับ & ฟิวเตอร์ที่ 1290 ควรลดพอร์ตตาม ดัชนี หลุดแนวจิตวิทยาที่ 1300 แล้ว แต่ยังไม่ต่ำกว่าแนวรับและแนวฟิวเตอร์ที่ 1290 แต่หากหลุดแนวนี้ จะมีแนวรับถัดไป 1275-1270, 1265-1260 ส่วนการเด้ง ให้ แนวต้านไว้ที่ 1300-1310, 1320, 1330 ตามลำดับ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : WHAIR – เป็นกองทุนที่สินทรัพย์มีอายุ leasehold ยาวที่ 30 ปี +30 ปี สินทรัพย์เป็นโรงงานให้เช่าและคลังสินค้า ซึ่งมีอัตราการเช่า (OR) สูงที่ 97% ใน 2Q25 เนื่องจากมีความต้องการเช่าจากลูกค้าชาวจีนมากขึ้น (ลูกค้าจีนคิดเป็น 41% ของทั้งหมดใน 2Q25) รวมทั้งสามารถต่อสัญญาเช่าและหาลูกค้าใหม่เข้ามาทดแทนสัญญาเช่าเดิมที่หมดอายุได้ดี เราคาดว่า OR เฉลี่ยของปี 25F/26F จะอยู่ที่ 93%/90% กองทุนได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยขาลง จากมีหนี้สินสิ้น 2Q25 อยู่ที่ 4.8 พันล้านบาท แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 6.10 บาท คาด DY ปี 25F-26F ไว้ที่ 9% ต่อปี , IRR กองทุนอยู่ที่ 9%

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829