วันอังคารที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงินสหรัฐ แรงขายหลักอยู่ในหุ้นกลุ่ม Big-Cap นำโดย พลังงาน ขนส่ง และค้าปลีก ขณะที่วันนี้นักลงทุนจับตาการไต่สวนของศาลฎีกาสหรัฐเกี่ยวกับคดีมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,298.60 จุด -10.26 จุด -0.78% มูลค่าการซื้อขาย 40,719.65 ลบ.Program Trading -1,739.31 ลบ. ต่างชาติ-867.73 ลบ. TFEX -254 สัญญา ตราสารหนี้+128.45 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ รัฐสภาสิงคโปร์ผ่านร่างกฎหมาย) เพื่อเพิ่มมาตรการลงโทษแก๊งสแกมเมอร์และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยผู้กระทำความผิดจะถูกเฆี่ยนตั้งแต่ 6 ครั้ง ถึง 24 ครั้งขึ้นอยู่กับความร้ายแรงของคดี ส่วนผู้ที่รับจ้างเปิดบัญชีม้า รวมถึงผู้ที่ให้ข้อมูลซิมการ์ดและข้อมูล Singpass จะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนสูงสุด 12 ครั้งตามดุลพินิจของศาล
+ เอสแอนด์พี โกลบอลเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 52.5 ในเดือนต.ค. จากระดับ 52.0 ในเดือนก.ย. โดยดัชนี PMI ปรับตัวสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัวของภาคการผลิตสหรัฐฯและเป็นการขยายตัวติดต่อกันเดือนที่ 3
+ ศาลฎีกาสหรัฐฯ มีกำหนดทำการไต่สวนในวันนี้ (5 พ.ย.) ต่อคดีที่ว่า มาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่หลังจากที่ศาลอุทธรณ์มีค าวินิจฉัยให้เพิกถอนมาตรการภาษีศุลกากรส่วนใหญ่ของเขาโดยระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย InternationalEmergency Economic Powers Act (IEEPA) ปี 2520
+ ครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) เสนอให้ประเทศไทยเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี ประจ าปี 2570-2574 (5 ปี) กรอบวงเงินงบประมาณ 3,997.86 ล้านบาท
+ ททท.ประเมินเทศกาลลอยกระทงปี 68 จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางกว่า1.91 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้หมุนเวียนในประเทศ 6,540 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 65% โดยเฉพาะภาคเหนือยังเป็นภูมิภาคยอดนิยมสูงสุด

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิด ลดลง 251.44 จุด หรือ -0.53% หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตือนว่าตลาดหุ้นอาจเข้าสู่ภาวะปรับฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป และอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 60.56 ดอลลาร์/บาร์เรลโดยตลาดถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในหลายประเทศ รวมทั้งการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังมองว่าการที่กลุ่มโอเปกพลัส ตัดสินใจระงับการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 อาจเป็นการส่งสัญญาณว่าโอเปกพลัสมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันล้นตลาด
- หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปิดทำการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์ ซึ่งเป็นผลจากการที่สภาคองเกรสไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยขณะนี้การชัตดาวน์กำลังเข้าใกล้สถิติที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีวันนี้มีโอกาสปรับตัวลงตามทิศทางตลาดโลก โดยมีแรงกดดันจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตือนว่าตลาดหุ้นอาจเข้าสู่ภาวะปรับฐาน และอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น ขณะที่ในประเทศยังขาดปัจจัยใหม่เข้ากระทบตลาดมองกรอบดัชนี 1,285-1,305 จุด

กลยุทธ์การลงทุน
- เงินบาทกลับมาอ่อนค่า : CPF TU ITC BTG TFG
- Direct PPA : GULF BGRIM GPSC EGCO RATCH
- ครม. อนุมัติมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว “เที่ยวดีมีคืน” : MINT ERW CENTEL AWC BA AAV
- สินค้าส่งออกเดือน ก.ย. เติบโต : KCE HANA DELTA CCET TFG GFPT