Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.เมย์แบงก์ฯ เปิดกลยุทธ์ลงทุน SET พ.ย. เน้น Selective Play หุ้นมีปัจจัยหนุน 3 ตัวเต็ง AMATA, CPN, WHAUP

98

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 5 พฤศจิกายน 2568 )-------บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ออกบทวิเคราะห์ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยในเดือน พ.ย. ให้น้ำหนักกับปัจจัยเฉพาะตัวในช่วงของการรายงานผลประกอบการ 3Q68 ที่ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งมีผลต่อการปรับประมาณการกำไร ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศโดยเฉพาะการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สร้างบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายมากขึ้นแต่ตลาดก็ถือว่าตอบรับไปในระดับหนึ่งแล้ว สำหรับในประเทศ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นำโดย คนละครึ่งพลัส และ เที่ยวดีมีคืน จะช่วยหนุนกำลังซื้อและอุปสงค์ภายในประเทศช่วงปลายปี ขณะที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักตามช่วงเริ่มเข้าสู่ High Season แม้มีช่วงการไว้อาลัยแต่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจคาดว่าจะจำกัด

ประเมิน SET Index เดือน พ.ย. แกว่งตัวในกรอบ 1260-1340 จุด โดยยังคงให้น้ำหนักกับกลยุทธ์การลงทุนแบบ Selective Play เนื่องจากแรงขับเคลื่อนของตลาดในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมยังมีลักษณะผสมผสาน ทั้งปัจจัยบวกและลบขึ้นอยู่กับทิศทางผลประกอบการ 3Q68 และแนวโน้มในช่วงที่เหลือของปี-ปีหน้า แม้ปัจจัยจากต่างประเทศจะมีความชัดเจนและผ่อนคลายมากขึ้น แต่ตลาดได้ตอบรับเชิงบวกไปมากพอสมควรแล้ว จึงมองว่าการเลือกหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวยังเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมในระยะนี้ โดยเฉพาะหุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโตเด่น ได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น โครงการคนละครึ่งพลัส และ เราเที่ยวคนละครึ่ง รวมถึงหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคา มีแรงหนุนจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยเสริมโมเมนตัมให้หุ้นบางกลุ่มเคลื่อนไหวได้ดีกว่าตลาดในภาพรวมช่วงปลายปี


หุ้น Top Picks พฤศจิกายน
• AMATA (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 26.00 บาท) คาดว่ากำไรหลักจะเติบโตเฉลี่ย 16% (ปี 68–70) จาก Presales ที่ได้แรงหนุนจาก FDI ใน EEC และ Backlog ที่แข็งแกร่ง ราคาปัจจุบันอยู่ในเขต Deep Value (PER69 ที่ 5 เท่า) คาดมีการ Re-rating PER จากการเร่งตัวของ Presales และแนวโน้มกำไร
• CPN (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 64.00 บาท) คาดการณ์กำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.5 พันล้านบาท (+2%YoY) จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และ 4Q68 ที่ 4.9 พันล้านบาท (+15%YoY) จากฤดูกาลท่องเที่ยว ราคาหุ้นซื้อขายที่ PER ต่ำกว่ากลุ่มค้าปลีก สวนทางกับ SSSG และ ROE ที่ดีกว่าชัดเจน
• WHAUP (เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 5.30 บาท) คาดว่ากำไรหลักปี 2569 จะโต 22% และมี CAGR 13% (ปี 68–71) จากดีมานด์ Data Center และการฟื้นตัวของธุรกิจพลังงาน หุ้นซื้อขายที่ PER ต่ำเพียง 12.5 เท่า (เทียบกลุ่ม 18.3 เท่า) พร้อมผลตอบแทนปันผลสูง 6.4% ช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลง


Analyst
ธีรเศรษฐ์ พรหมพงษ์
Theerasate.p@maybank.com
ชาญชัย พันทาธนากิจ
Chanchai.p@maybank.com
ออมทรัพย์ โง้วศิริ
Aomsub.ngowsiri@maybank.com
บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย)
TEL : 02-658-5000

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

คัลแมกี By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ พลัน กรมอุตุฯ เตือนพายุ “คัลแมกี” จะพาดผ่านบริเวณตอนบนของไทยวันที่ 7-9 พ.ย. 2568 ....

IND ส่งต่อพลังใจให้มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยฯ

IND ส่งต่อพลังใจให้มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทยฯ

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้