Thai Union Group (TU TB)
ยังไร้ปัจจัยหนุนกำไรที่ชัดเจน
คงคำแนะนำ “ถือ” ยอดขายซบเซา แต่ให้ผลตอบแทนเงินปันผล 5% 
เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” พร้อมปรับเพิ่มราคาเป้าหมายแบบ SOTP เป็น 13.40 บาท หลังปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักต่อหุ้น (core EPS) ปี 68-70 ขึ้น 3–7% เพื่อสะท้อนผลประกอบการ 3Q68 ที่ออกมาดีกว่าคาดและภาษีจ่ายที่ลดลง เราคาดว่ากำไรหลักปี 69 จะฟื้นตัว 5% จากค่าใช้จ่ายด้านการปรับโครงสร้างองค์กรและดอกเบี้ยที่ลดลง ขณะที่ยอดขายคาดว่าจะเติบโตเพียง 1% จากแนวโน้มอุปสงค์ที่ยังอ่อนแอ เรายังคงคำแนะนำ “ถือ” จากอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่น่าสนใจราว 5% ต่อปี ในช่วงปี 68-70 และมูลค่าหุ้นที่ไม่แพง โดยเทรดอยู่ที่ P/E ปี 69 ที่ 13 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี
กำไรสุทธิ 3Q68 ดีกว่าคาด จากกำไรอัตราแลกเปลี่ยน 
TU รายงานกำไรสุทธิ 3Q68 ที่ 1.304 พันล้านบาท (-7% YoY, +2.5% QoQ) ดีกว่าประมาณการของเราและ ตลาดคาด 6–10% สาเหตุหลักมาจากกำไรอัตราแลกเปลี่ยนที่สูงกว่าคาด อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่ดีกว่าคาด และส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้น หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรของบริษัทจะสูงกว่าประมาณการของเรา 3% ยอดขายลดลงเล็กน้อย 1% YoY (หรือเพิ่มขึ้น 2% หากคำนวณเป็นดอลลาร์สหรัฐ) จากผลกระทบของค่าเงินบาทที่แข็งค่า ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 3% QoQ จากปริมาณขายที่สูงขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ (ยกเว้นสินค้ามูลค่าเพิ่ม) GPM ลดลงเหลือ 19% (จาก 19.5% ใน 3Q67 และ 19.7% ใน 2Q68) ถูกกดดันจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่สูงขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น และสัดส่วนยอดขายสินค้ากลุ่มอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง (ambient) ที่มีมาร์จิ้นต่ำ บริษัทได้ปรับขึ้นราคาสินค้าบางรายการ โดยเฉพาะกลุ่มอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง เพื่อสะท้อนต้นทุนภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดสหรัฐฯ แต่การขึ้นราคายังไม่สามารถชดเชยต้นทุนที่สูงขึ้นได้ทั้งหมด
 
ผู้บริหารปรับลดเป้าหมายยอดขายปี 68 
ผู้บริหารได้ปรับลดเป้าหมายการเติบโตของยอดขายปี 68 ลงเป็น -2% ถึง -4% (จากเดิม -1% ถึง -2%) ใกล้เคียงกับประมาณการของเราที่ -4.7% โดยผู้บริหารคาดว่ายอดขายใน 4Q68 จะทรงตัว QoQ และลดลงเล็กน้อย YoY เราจึงคาดว่ากำไร 4Q68 จะไม่น่าตื่นเต้นนัก โดย 3Q68 น่าจะเป็นไตรมาสที่มีกำไรสูงสุดของปี 68
ปัจจัยบวกและความเสี่ยงที่ต้องติดตาม
อัพไซด์ ได้แก่ หากการเจรจาระหว่างไทย–สหรัฐฯ สามารถขยายรายการสินค้าที่ได้รับสิทธิภาษีนำเข้า 0% ให้ครอบคลุมถึงอาหารทะเลหรืออาหารสัตว์เลี้ยง จะเป็นผลบวกต่อ TU ขณะที่ดาวน์ไซด์ ได้แก่ การปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อสะท้อนต้นทุนภาษีนำเข้าที่สูงขึ้น อาจกระทบต่อความต้องการบริโภคอาหารทะเล ซึ่งสามารถถูกแทนที่ได้ด้วยแหล่งโปรตีนราคาถูกกว่า ทั้งนี้ TU มีแผนปรับขึ้นราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมอีกครั้งใน 1Q69 เพื่อชดเชยต้นทุนภาษีและวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น
 
Tanida Jirapornkasemsuk
tanida.jirapornkasemsuk@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1396