Equality for All
IVL : บมจ. อินโดรามาเวนเจอร์ส
3Q25 คาดจะขาดทุน 1,379 ลบ. ได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคาหดตัว และยังมีปิดซ่อมโรงงาน : โดยคาดการดำเนินงานจะหดตัวแรง q-q อีกครั้งจาก 
ปริมาณขายรวม หดตัว 2-3% q-q อยู่ที่ 3.2 ล้านตัน และส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ CPET -14% q-q
หยุดซ่อมโรงงาน PO/MTBE ในสหรัฐตามแผนเป็นเวลา 75 วัน (ก.ย.-พ.ย.) ทำให้มีค่าใช้จ่ายพิเศษเกิดขึ้นราว 15 ล้านเหรียญ 
วันหยุดในยุโรป ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Fiber ราว 10 ล้านเหรียญ
ขาดทุนจากสต็อก ราว 17 ล้านเหรียญ 
ส่งผลให้ EBITDA ของกลุ่มหดตัวจาก 330 ล้านเหรียญใน 2Q25 เหลือเพียง 280 ล้านเหรียญ ทำให้การดำเนินงานคาดจะพลิกมาขาดทุนสุทธิ 1,379 ลบ. ขาดทุนเพิ่มขึ้นจาก -521 ลบ. ในไตรมาสก่อน และ กำไร 1,505 ลบ. ใน 3Q24
425 คาดขาดทุนลดลงแม้จะยังมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกิดขึ้นจากการปิดซ่อม : สำหรับแนวโน้ม 4Q25 เราคาดว่าการดำเนินงานปกติมีแนวโน้มดีขึ้นจากส่วนต่างราคาที่ดีขึ้น แต่คาดว่ายังมีค่าใช้จ่ายพิเศษในการปิดซ่อมโรงงานอีกราว 20 ล้านเหรียญเกิดขึ้น ทำให้เรามีแนวโน้มจะต้องปรับประมาณการผลการดำเนินงานปี 2025 ลงว่าทั้งปีจะขาดทุนต่อเนื่องเป็นการขาดทุน 3 ปีติดต่อกัน
การขึ้นภาษีนำเข้าในสหรัฐเป็นบวกมากกว่า : ผบห. ชี้แจงถึงภาษีนำเข้าของสหรัฐคาดไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานเนื่องจากสัดส่วนรายได้จากอเมริการาว 40% ของรายได้และส่วนใหญ่จะเป็นการผลิตเพื่อขายในประเทศ และ 50% ของ EBITDA ของ IVL จะมาจากทวีปดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวคาดจะส่งผลต่อการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป เนื่องจากการขายแบบ spot มีเพียง 10% ของยอดขายเท่านั้น ซึ่งอยู่ระหว่างเจรจาราคาใหม่ในปีหน้าซึ่งคาดจะมีส่วนเพิ่มราว 70-80 ล้านเหรียญในปีหน้าจากการตกลงราคากันใหม่
ส่วนประเด็น China Involution : แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะเป็นอย่างไร และเมื่อไหร่ แต่สิ่งที่ดีต่ออุตสาหกรรม คือ การพยายามลดกำลังการผลิตส่วนเกินด้วยการปิดโรงงานเก่าที่มีอยู่ในระบบเพื่อลดอุปทานล้นตลาดอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบันลง ซึ่งนโยบายการลดอุปทานนั้นสอดคล้องกับข่าวก่อนหน้าที่เกาหลีใต้จะลดกำลังการผลิตในอุตสาหกรรมเพื่อช่วยให้บริษัทต่างๆ มีการดำเนินงานที่ดีขึ้น 
เราคาดว่า หากทำได้จริงจะช่วยให้ผลการดำเนินงานบริษัทในกลุ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นเช่นกัน
 
ยังคงเหนื่อยต่อไป
 “ คาดงบ IVL ทิศทางคงคล้าย ๆ ในกลุ่มปิโตรฯ ด้วยกัน อีกทั้งมีรายการพิเศษที่เกิดขึ้น แต่คาดว่าผลทางลบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะคลี่คลายลงและจะเริ่มเห็นปัจจัยบวกจากการปรับราคาขายขึ้นในสหรัฐ 
กลยุทธ์การลงทุน ยังเน้นซื้อขายตามข่าวการลดอุปทานจากผู้ผลิตรายใหญ่ในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น และสัญญาณการฟื้นตัวของจีน รวมถึงแนวโน้มสเปรดที่ดีขึ้น ”
นารี อภิเศวตกานต์
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #17971
naree.a@liberator.co.th