ภาวะตลาด SET Index วานนี้ แกว่งในกรอบแคบ รอดูผลประชุมและถ้อยแถลงประธานเฟด และรอผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนในปลายสัปดาห์นี้ประกอบกับราคาหุ้น DELTA เปลี่ยนแปลงไม่มาก ปิดตลาดดัชนี +1.36 จุดที่ 1315.64 มูลค่าซื้อขาย 3.3 หมื่นลบ. สำหรับหุ้นใหญ่ที่ปรับขึ้นเป็น AOT, ADVANC, TRUE, KTB, CRC ส่วนที่กดดันตลาด ได้แก่ GULF, CPALL, THAI, SCB, IVL เป็นต้น นักลงทุนสถาบันในปท.ขายสุทธิ -587 ลบ. ต่างชาติขายสุทธิ -830 ลบ. รายย่อยซื้อสุทธิ +2.3 พันลบ.

ปัจจัยต่างประเทศ
• สหรัฐ: เมื่อ 29 ต.ค.25 เฟดลดดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด....แต่พาวเวลกล่าวอย่างชัดเจนในระหว่างการแถลงข่าวว่ายังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในวันข้างหน้า แม้ว่าภาวะตลาดแรงงานอ่อนแอลง
• จับตาการพบกันในวันนี้ระหว่างประธานาธิบดีทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ซึ่งนับเป็นการพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกของทั้งสองผู้นำในสมัยที่สองของทรัมป์
• ตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดตาม: ผลประชุม BOJ (29-30 ต.ค.), ผลประชุม ECB (30 ต.ค.), รายงานจีดีพี 3Q25 ยูโรโซน, รายงานดัชนี PMI ภาคผลิต&บริการของจีน, รายงานดัชนี PCE สหรัฐ (31 ต.ค.)
• ดัชนี ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวน ปิดตลาดดัชนี ดาวโจนส์และ S&P500 ลดลง หลังปธ.เฟดระบุว่าการลดดอกเบี้ยเดือนธ.ค.ยังไม่แน่นอน แต่ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นจากกำไรหุ้นเทคฯที่แข็งแกร่ง ราคาน้ำมันดิบ WTI & Brent รีบาวด์เล็กน้อยเป็น 60-65 ดอลลาร์/บาร์เรล ติดตามผลประชุมกลุ่มโอเปกพลัสวันที่ 2 พ.ย.นี้ สัญญาทองคำร่วงเด้งขึ้น +17.6 US$ สู่ 4,000.7 US$/ออนซ์ โดยปิดตลาดก่อนการแถลงผลประชุมเฟด
• ดัชนีค่าเงิน US$ แข็งขึ้นเป็น 99.06 เงินบาทอ่อนสู่ 32.4 Bt/US$ ส่วน US bond yield 10 ปี เด้งขึ้นเป็น 4.07% ดัชนีราคาถ่านหิน (NC) ขยับขึ้นเป็น 109.9 ดัชนี Baltic Dry Index รีบาวด์เล็กน้อยเป็น 1,961

ปัจจัยในประเทศ & ข่าวหุ้นเด่น
• ไทย: BOI ยอดขอรับส่งเสริมลงทุน 9M25 โต 94% มูลค่าลงทุน 1.37 ล้านล้านบาท…บ่งชี้ว่าการลงทุนในบางอุตสาหกรรมยังแข็งแกร่ง เช่น ดิจิตอล (Data center), อิเลคทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า, ไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, ยานยนต์และชิ้นส่วน, เกษตรและอาหาร และปิโตรเคมี

กลยุทธ์ : ยังต้องระวังการแกว่งตัวจาก sell on fact ดัชนีได้ปรับขึ้นรับข่าวบวกเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟด มาตรการกระตุ้นศก.ของรัฐบาลไปแล้วพอควร ระยะสั้นมากจึงควรระวัง sell on fact ให้แนวรับไว้ที่ 1310-1300, 1290 ซึ่งหากหลุดแนวรับและฟิวเตอร์ที่ 1290 จะมีแนวรับถัดไป 1275-1270, 1265-1260 กรณีรีบาวด์มีแนวต้าน 1320-1330, 1345-1350 ตามลำดับ

หุ้นพื้นฐานแนะนำวันนี้ : KTB – ประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.43 บาท/หุ้น (DY: 1.6%)ขึ้นเครื่องหมาย XD 11 พ.ย.25 ถือเป็น positive surprise เพราะปกติจ่ายปีละ 1 ครั้ง ส่วนปันผล 2H25F คาดการณ์ไว้ที่ 1.17 บาท/หุ้น (DY: 4.4%) และทั้งปี 25F เท่ากับ 1.60 บาท/หุ้น ณ ราคาปัจจุบัน 26.75 บาท (DY: 6.0%) ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ สินเชื่อและ NIM ยังหดตัว แต่รายได้ non-NII ยังแข็งแกร่ง แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 29 บาท

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์: อาภาภรณ์ แสวงพรรค : arparporns@dbs.com : Tel 02 587 7829