Delta Electronics (Thailand) (DELTA TB)
DELTA ซื้อขายที่พรีเมียมเมื่อเทียบกับกลุ่มหุ้น AI แม้มีอัตราการเติบโตต่ำกว่า
“ขาย” ราคาเป้าหมาย 109 บาท เนื่องจากมูลค่าสูงเกินจริง
เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” หุ้น DELTA แต่ปรับราคาเป้าหมายตามวิธี DDM ขึ้นเป็น 109 บาท (จากเดิม 63 บาท) หลังปรับประมาณการกำไรหลักปี 68*69 ขึ้น 17%/21% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่สูงกว่าคาด แม้เราคาดว่ากำไรหลักของ DELTA จะเติบโต 10% ในปี 68 และ 25% ในปี 69 แต่เรายังคงคำแนะนำ “ขาย” เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่สูงถึง PE ปี 69 ที่ 95 เท่า ซึ่งใกล้ระดับ +2SD ของค่าเฉลี่ย 5 ปี และสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งอยู่ที่ PE ปี 69 เพียง 29 เท่า ปัจจัยเสี่ยงที่อาจกระตุ้นการปรับลดมูลค่าคือการที่นักวิเคราะห์ในตลาดปรับลดประมาณการกำไรปี 69 ลง โดยเราประเมินว่ากำไรปี 69 ของเราต่ำกว่าตลาดคาดประมาณ 8%
ปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 68/69
เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรหลักปี 68/69 ขึ้น 17%/21% เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น ซึ่งได้แรงหนุนจากสัดส่วนผลิตภัณฑ์ AI ที่มากขึ้น และค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ที่ลดลง โดยคาดว่ากำไรหลักจะอยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท (+10% YoY) ในปี 68 และ 2.5 หมื่นล้านบาท (+25% YoY) ในปี 69 โดยการเติบโตในปี 69 จะได้แรงหนุนจากรายได้ของโรงงานใหม่ที่ Wellgrow 3 และ 4 ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องผลิตได้ภายใน 4Q68 รวมแล้วโรงงาน Wellgrow 3 และ 4 จะเพิ่มพื้นที่การผลิตของ DELTA ในประเทศไทยขึ้น 39%
คาดตลาดปรับลดคาดการณ์ปี 69
เรามองว่าตลาดมีแนวโน้มจะปรับลดประมาณการกำไรปี 69 เนื่องจากประมาณการ GPM ของนักวิเคราะห์สูงเกินจริง เราคาดว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลงต่อในปี 69 และค่าใช้จ่าย SG&A ที่ตลาดคาดไว้นั้นต่ำเกินไป เมื่อเทียบกับ ค่าธรรมเนียมลิขสิทธิ์ (royalty payments) ที่ DELTA ต้องจ่ายให้บริษัทแม่สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากโรงงาน Wellgrow 3 และ 4 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดีไซน์ของบริษัทแม่ นอกจากนี้ เรายังมองว่า มูลค่าหุ้น DELTA อยู่ในระดับพรีเมียมที่ไม่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับแนวโน้มกำไร โดยค่า PEG ปัจจุบันอยู่ที่ 6.2 เท่า (PE ปี 68 ที่ 106 เท่า, อัตราเติบโตเฉลี่ยกำไรต่อหุ้นปี 68-70 อยู่ที่ 17%) ในขณะที่หุ้นกลุ่ม AI ระดับโลกมี PEG เฉลี่ยเพียง 1.5 เท่า (PE ปี 68 ที่ 31 เท่า EPS ปี 68-70 อยู่ที่ 21% CAGR)
คาดกำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.9 พันล้านบาท
เราคาดว่า DELTA จะรายงานกำไรหลัก 3Q68 ที่ 4.9 พันล้านบาท (-17% YoY, +6% QoQ) การลดลง YoY มาจาก อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง เนื่องจากไม่มีการรับรู้กำไรจากการตีมูลค่าสินค้าคงคลังขนาดใหญ่เหมือนปีก่อน ขณะที่การเติบโต QoQ มาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและสัดส่วนผลิตภัณฑ์ AI ที่สูงขึ้น เราประมาณการเบื้องต้นว่า กำไรหลัก 4Q68 จะอยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท (+164% YoY, +10% QoQ) โดยการเติบโต YoY ที่สูงจะมาจากฐานกำไรที่ต่ำใน 4Q67 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายลิขสิทธิ์สูง และไม่มีส่วนลด (rebates) จำนวนมากเหมือนปีก่อน ทั้งนี้ DELTA มีกำหนดประกาศผลประกอบการในวันที่ 24 ตุลาคมนี้
Yugi Takeshima
yugi.takeshima@maybank.com
(66) 2658 5000 ext 1530