20 ต.ค. 2568 10:25:57 95
สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (20 ตุลาคม 2568 )-----"เอกา โกลบอล" หนุนไทยลดปริมาณ "ขยะอาหาร" ลง 50% ในปี 2573 แนะภาคธุรกิจใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นทาง มั่นใจเป็นเครื่องมือสำคัญช่วยไทยบรรลุเป้า เผยเทรนด์โลกหนุนตลาดบรรจุภัณฑ์ยืดอายุเติบโตต่อเนื่องเป็นตัวเลขสองหลักนายชัยวัฒน์ นันทิรุจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอกา โกลบอล จำกัด (EKA GLOBAL) ผู้นำตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) แบรนด์คนไทยเบอร์ใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์ "ขยะอาหาร" (Food Waste) ในประเทศไทยยังคงเป็นประเด็นเร่งด่วน โดยข้อมูลล่าสุดจากกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ณ ปี 2568 พบว่า ขยะอาหารในประเทศมีปริมาณสูงถึง 10 ล้านตันต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 36 – 39% ของขยะชุมชนทั้งหมด และคนไทยสร้างขยะอาหารเฉลี่ยสูงถึง 154 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกทั้งนี้ ประเทศไทยได้ผลักดัน "แผนขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมาย Zero Food Waste" พร้อมประกาศให้ปีนี้ เป็น "ปีแห่งการเริ่มต้นรณรงค์ลดขยะอาหาร" เพื่อมุ่งลดปริมาณขยะอาหารลง 50% ภายในปี 2573 ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาตินายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การแก้ปัญหาขยะอาหารอย่างยั่งยืนควรเริ่มที่ "การป้องกันไม่ให้เกิดขยะตั้งแต่แรก" มากกว่าการจัดการที่ปลายทาง โดยภาคเอกชนต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร (Longevity Packaging) โดยเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร เช่น Modified Atmosphere Packaging (MAP) ให้ผลบวกอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งช่วยลดการสูญเสียอาหาร (Food Loss) และช่วยยืดอายุความสดใหม่ของอาหารและวัตถุดิบอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่การจัดเก็บ การขนส่ง จนถึงชั้นวางขาย ซึ่งเป็นการป้องกันการเน่าเสียก่อนถึงมือผู้บริโภคนอกจากนี้ยังรักษาคุณภาพและความปลอดภัย (Food Safety) ช่วยคงคุณค่าทางโภชนาการ รสชาติ และเนื้อสัมผัส รวมถึงป้องกันการปนเปื้อน ตลอดจนถึงการลดการเน่าเสียของวัตถุดิบแม้เพียง 1 – 2% สามารถช่วยประหยัดต้นทุนและลดความเสียหายทางเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมอาหารได้หลายแสนล้านบาทต่อปีสำหรับภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหาร มองทิศทางการเติบโตยังคงสดใส สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ด้านความยั่งยืนและการบริโภคอาหารพร้อมรับประทานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมองตัวเลขการเติบโตของตลาดนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารในภูมิภาคนี้จะยังคงมีการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5 – 10% ต่อปี โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-Eat) ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของบรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารขณะที่ ประมาณการณ์แนวโน้มการส่งออกอาหารพร้อมรับประทานของไทยยังเป็นตลาดที่คาดว่าจะเติบโตด้วยอัตราที่สูงกว่าการค้าโลกโดยเฉลี่ย ข้อมูลโดยสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมฯ และสถาบันอาหาร มองมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารไทยโดยรวมในปีนี้จะเติบโตกว่า 1.75 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.8%ด้านศูนย์วิจัยกรุงศรี คาดการณ์การเติบโตของปริมาณส่งออกอาหารพร้อมรับประทานปี 2568 – 2569 จะขยายตัวเฉลี่ย 5 – 6% ต่อปี มีแรงหนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการขยายตัวของสังคมเมือง วิถีชีวิตที่เร่งรีบ และการให้ความสำคัญกับอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด และมีอายุการเก็บรักษานาน ทำให้ความต้องการอาหารพร้อมรับประทานที่ใช้บรรจุภัณฑ์ยืดอายุอาหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ดีผู้ประกอบการต้องติดตามความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจและนโยบายภาษีระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด"การลงทุนในเทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ช่วยยืดอายุอาหารจึงเป็นการลงทุนที่สร้างผลบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพราะช่วยแก้ปัญหาขยะอาหารได้ตั้งแต่ต้นทาง และยังช่วยให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการลดขยะอาหารได้อย่างเป็นรูปธรรม" นายชัยวัฒน์ กล่าว
: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์
ATLAS เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรก
แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้าวันนี้ ดัชนีฯ ดีดบวก รับข่าวสหรัฐฯ กับจีน ผ่อนคลายระยะสั้นหลัง ประธานาธิบดีโดนัลด์....
หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้
Hooninside
สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้
ชื่อหรือรหัสของคุณไม่ถูกต้อง
Please, check your email format before submit.
Please, Enter you password.
Please, Enter minimum 3 character.
Please, Enter minimum 6 character.
กรุณากรอกอีเมล์ที่คุณใช้สมัครสมาชิกแล้วกดส่งเมล์