"ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีน"
คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1270-1290 จุด จากท่าทีของทรัมป์ที่ช่วยให้ตลาดผ่อนคลายปัญหาสงครามการค้าลงบ้าง ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามวันนี้ ทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของจีน และการรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคารไทย ด้านกลยุทธ์ยังเน้นย่อสะสมกลุ่มอิงมาตรการภาครัฐฯ โดยสำหรับวันนี้แนะนำ “TIDLOR”
ตลาดหุ้นสหรัฐฯฟื้นตัว ตอบรับถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ที่แสดงท่าทีว่าการเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนน่าจะนำไปสู่ข้อตกลงเพื่อคลี่คลายปัญหาการค้าได้ และยังระบุว่ามีโอกาสที่จะมีการพบปะกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ภายในเดือนนี้ กระตุ้นโมเมนตัมบวกต่อตลาดสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
ส่วนเช้านี้แนะติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากจีน ทั้ง ตัวเลข 3Q25 GDP จีน ซึ่งตลาดคาดจะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.7%y-y จาก 2Q25 ที่ระดับ 5.2%y-y ส่วนยอดค้าปลีกจีน เดือน ก.ย. คาดที่ +3%y-y จาก +3.4%y-y ใน ส.ค. และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน เดือน ก.ย. คาดที่ +5%y-y ลดลงจาก 5.2%y-y
ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม คือ การรายงานผลประกอบการของกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะออกมาทั้งหมดในวันจันทร์ และอังคารนี้ โดยธนาคารที่ออกมาก่อนแล้วในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ TISCO ซึ่งทำได้ดีกว่าคาด ดังนั้นคงต้องติดตามธนาคารอื่น ต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
ด้านกลยุทธ์ยังมองเป็นจังหวะย่อสะสม โดยประเมินแนวรับสำคัญของ SET ที่ 1270 และ 1250 จุด โดยเน้นสะสมหุ้นที่คาดได้อานิสงส์เชิงบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯในช่วงถัดไป เช่น กลุ่มไฟแนนซ์, ท่องเที่ยว, โรงไฟฟ้า และโรงพยาบาล
Daily Pick : TIDLOR
ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ( 23 บาท)
คาดกำไร 3Q25 เติบโต y-y และทรงตัว q-q หนุนจากรายได้ดอกเบี้ยขยายตัวตามการเพิ่มขึ้นของสินเชื่อ และการตั้งสำรองที่ลดลง โดยคาดแนวโน้ม NPL ยังสามารถทรงตัวได้ เป็นโมเมนตัมเชิงบวก
แนวโน้มดอกเบี้ยที่อาจปรับลดลง ผสานมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐฯ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติม
Pic of the day
คาด 3Q25 GDP ของจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.7%
Eyes On
20 ต.ค. 3Q25 GDP ของจีน, ยอดค้าปลีกจีน,
ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน,
Loan Prime Rate ของจีน
21 ต.ค. ประชุม ครม. (คาดหวังมาตรการท่องเที่ยว)
22 ต.ค. สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ US
วิจิตร อารยะพิศิษฐ
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน #44799
Wijit.A@liberator.co.th