Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

90

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 15 ต.ค.68 ปิด +31 จุด อยู่ที่ 1,286.69 จุด มูลค่าการซื้อขาย 46,484 ลบ. สถาบันซื้อ 1,563 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,801 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 20 ลบ. และรายย่อยขาย 3,385 ลบ. NVDR มียอดซื้อสุทธิ 1,520 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น TISCO,KBANK,BBL,SCB,KTB และยอดขายหุ้น DELTA,PTTEP,TOP,BDMS,BANPU มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 2,117 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ HK01,CPAXT,SCC โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 22,275 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 49,561 สัญญา ต่างชาติขายสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 94 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.04%, S&P500 +0.40%, Nasdaq +0.66% นำโดยกลุ่มอสังหา ฯ +5%, สาธารณูปโภค +1.3% ขณะที่กลุ่มวัสดุ -0.5%, อุตสาหกรรม -0.47% ส่วนเฟดนิวยอร์คเผยดัชนีภาคการผลิต ต.ค. ปรับขึ้นอยู่ที่ 10.7 & ก.ย. -8.7 จุด ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.57% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรา LVMH +12.2% และ ASML +3.1% หลังรายงานผลประกอบการ Q3 ดีกว่าคาด

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ DJIA ปิดทรงตัว, S&P500 +0.4%,Nasdaq +66% ได้แรงหนุนจากรายงานกำไร Q3/68 ของ Morgan Stanley, Bank of America ที่ดีกว่าคาด กอปรดัชนีเซมิคอน ฯ ในตลาดฟิลลาเดลเฟีย +3% หลัง ASML ผู้ผลิตอุปกรณ์ผลิตชิปรายงานยอดชาย & กำไร Q3/68 ดีกว่าคาด ส่วนรายงานเฟด Beige Book ชี้บริษัทจำนวนมากขึ้นได้ปลดพนักงาน และหันเป็นลงทุนด้าน AI แทน โดยจำนวนแรงงานในธุรกิจด้านบริการ, เกษตร, ก่อสร้าง, การผลิตเริ่มลดลง ซึ่งเป็นผลจาก ม.ปราบปรามคนเข้าเมืองผิด กม. โดยนักลงทุนยังรอความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาชัตดาวน์, รอการเจรจาข้อพิพาทการค้าสหรัฐ - จีน ในช่วงปลายเดือนนี้ รวมถึงการประชุมเฟดวันที่ 29 ต.ค.ซึ่ง CME FedWatch ชี้เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ หลัง ปธ.เฟดแถลงในงานสัมมนาของ NABE ชี้เฟดจะยุติ ม.QT หลังตัวเลขการจ้างงานใหม่ลดลงอย่างมาก
  • ตลาดยุโรปวานนี้ +0.57% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสินค้าหรูหรานำโดย LVMH +2% หลังรายงานกำไร Q3/68 ดีกว่าคาด สาเหตุมาจากอุปสงค์จากตลาดจีนฟื้นตัวดี ขณะที่ ASML +3.1% ตอบรับยอดขายใน Q3 และคาดการณ์ยอดขายใน Q4 ออกมาดีกว่าคาด โดยนักลงทุนยังคาดหวังเฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ กอปรกับ LSEG เผยกำไร Q3/68 ของ บจ.ใน Stoxx600 คาด +0.5% จากเดิมคาด -0.6% YoY
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.76% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเครื่องจักร, บริษัทหลักทรัพย์ จากคาดการณ์เฟดมีโอกาสลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้ว่าปัจจัยการเมืองญี่ปุ่นยังกดดัน หลังพรรโคเมโตะถอนตัวออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรค LDP ส่วน Kospi เกาหลีใต้ปิด +2.68% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Samsung Electronics +7%, SK Hynix +2.6% และกลุ่มป้องประเทศ เช่น Hanwha Aerospace +2.2% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ปิด +1.22% ได้แรงหนุนจากกลุ่มเทคโนโลยี และพลังงานสะอาด แม้ว่า NBS จะรายงานดัชนี CPI จีน ก.ย. -0.3% & คาด -0.2% YoY และ PPI จีน ก.ย. -2.3% YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี
  • SET วานนี้ +1.60% ปริมาณการซื้อขาย 4.64 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 1,563 ลบ. พอร์ตโบรกซื้อ 20 ลบ. ต่างชาติซื้อ 1,801 ลบ. และรายย่อยขาย 3,385 ลบ. โดยดัชนีฟื้นตัวตามตลาดภูมิภาค หลัง ปธ.เฟดส่งสัญญาณมีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. หลังตลาดแรงงานสหรัฐมีสัญญาณชะลอตัว ส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มอิเล็ก ฯ +4.1% และไฟแนนท์ +2.65% ที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มดอกเบี้ยขาลง ขณะที่กลุ่มธนาคาร +2.1% จากคาดการณ์กำไร Q3/68 อาจดีกว่าคาด เนื่องจากอาจมีรายการกำไรจากเงินลงทุนในประเทศ - ต่างประเทศ รวมถึงธนาคารเจ้าหนี้ของ THAI จะมีกำไรจากการตีค่า FVTPL เข้ามาช่วยหนุนผลประกอบการ Q3/68 ส่วนกลุ่มค้าปลีก & ท่องเที่ยวก็มีแรงซื้อสะสม ระหว่างรอ ม.คนละครึ่งพลัสที่จะเริ่มในวันที่ 29 ต.ค. และสัปดาห์หน้า ครม.จะพิจารณา ม.กระตุ้นการท่องเที่ยวที่จะให้สิทธิ์หักลดหย่อนภาษีเงินบุคคลธรรมดาไม่เกิน 20,000 บาท/คน โดยกรณีเที่ยวเมืองหลักหักได้ 1 เท่า หากเที่ยวเมืองรองหักได้ 1.5 เท่า ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ 29 ต.ค. - 15 ธ.ค. ซึ่งทั้ง 2 มาตรการคาดจะช่วยกระตุ้น GDP ไทยปีนี้ได้ราว +0.4%

     Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,280 แนวต้าน 1,295 – 1,300 คาดดัชนีได้แรงหนุนหลังเฟดส่งสัญญาณการเงินแบบ Dovish แต่ยังรอการหารือข้อพิพาทการค้าสหรัฐ – จีน ในช่วงปลายเดือนนี้ แนะนำทยอยซื้อกลุ่มค้าปลีก & อุปโภค CPALL,CPAXT,TNP,ICHI,SAPPE,KAMART และกลุ่มท่องเที่ยว AOT,ERW,CENTEL จาก ม.กระตุ้นเศรษฐกิจ/ไฟแนนท์ TISCO,KKP,SAWAD,MTC,TIDLOR ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง
  • SAWAD* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมายIAA Consensus 27.50 บาท) บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 2Q68 ที่27 พันล้านบาท +15%QoQ, flat YoY ดีกว่าที่ตลาดคาด กำไรที่เพิ่มขึ้น QoQ มีปัจจัยหนุนจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ปรับลดลง ชดเชย NPL ที่สูงขึ้น ขณะที่รายได้ดอกเบี้ย (NII) เพิ่มขึ้น QoQ จาก NIM ที่ 15.2% จาก 1Q68 ที่ 14.5% สำหรับแนวโน้ม 2H68 คาดพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียนมีโอกาสกลับมาขยายตัว QoQ ตามฤดูกาล NIM ทยอยเพิ่มขึ้น และผลขาดทุนรถยึดน้อยลง (รถจักรยานยนต์) ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าการขยายพอร์ตสินเชื่อรวมในปี 68 ราว 5-10% (YTD -3%) ส่วนต้นทุนทางการเงินมีโอกาสลดลงในระยะถัดไปจากการปรับลดดอกเบี้ยของแบงค์ชาติ ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ที่ 4.6 พันล้านบาท -8%YoY และ 5 พันล้านบาท +9%YoY
  • KLINIQ (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย50 บาท) คาดกำไรสุทธิ 3Q68 อยู่ที่ 91 ลบ. (+23%YoY , +2%QoQ) แม้มีปัจจัยลบบ้างจากการขยายสาขาราว 4 แห่งใน 3Q68 รวมถึง Impairment การปิดให้บริการสาขา 2 แห่ง แต่ปัจจัยบวกมีน้ำหนักมากกว่าจากรายได้ +YoY +QoQ ทั้งจาก SSSG +8%YoY และจากสาขาใหม่ๆที่เปืด ส่วนช่วง 4Q68 คาดว่าจะมีการเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่ง สูงกว่าเดิมที่คาด 1แห่ง แต่ยังน้อยกว่าใน 2Q68-3Q68 ส่งผลให้เรายังว่าคาดว่ากำไร 4Q68 จะเป็นจุดสูงสุดของปีนี้ ปัจจุบัน เรายังคาดกำไรสุทธิ ปี68 และ ปี69 ของ KLINIQ ที่371 ลบ.( +15%YoY)  และ 448 ลบ.(+20%YoY)

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ย.-$0.43 อยู่ที่ $58.27 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. -$0.48 อยู่ที่ $61.91/บาร์เรล หลัง IEA เตือนตลาดน้ำมันโลกอาจเผชิญกับภาวะอุปทานส่วนเกินเพิ่มขึ้นในปีหน้า อาจสูงถึง 4 ล.บาร์เรล/วัน หลังกลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิต กอปรข้อมูล CPI, PPI จีน ก.ย. ชะลอตัว ซึ่งอาจส่งผลลบต่ออุปสงค์ความต้องการใช้น้ำมัน

 

Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+$38.20 อยู่ที่ $4,201.60 /ออนซ์. โดยนักลงทุนเลือกพักในสินทรัพย์ปลอดภัย จากความกังวลข้อพิพาทการค้าสหรัฐ – จีนรอบใหม่ กอปรกับเฟดอาจจะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. โดย Bank of America และ Societe Generale คาดราคาทองคำมีโอกาสปรับขึ้นที่ระดับ $5,000/ออนซ์ ในปีหน้า

 

Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -33.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นไทย +55.27 ล.ดอลลาร์หสหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -84.42 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -4.0 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี่แข็งค่าอยู่ที่ 32.47 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(+) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.025 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -25 อยู่ที่ 1,997

(-) BitCoin เช้านี้ -1.58% อยู่ที่ 110,972 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

10 ต.ค.     US อัตราการว่างงาน (ก.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.ย.)

15 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.ย.)

16 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (ก.ย.)

17 ต.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.ย.)

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: TNP*, CPN*, PRM*, BJC, BCPG*

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

NER ต้อนรับคณะสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เยี่ยมชมโรงงาน จ.บุรีรัมย์

NER ต้อนรับคณะสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย เยี่ยมชมโรงงาน จ.บุรีรัมย์

เวียนกลุ่มเล่น By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้ เปลี่ยนหมุนเวียนกลุ่มเล่น จากหุ้นกลุ่มแบงก์ที่ดันตลาดฯ เป็น โรงไฟฟ้า, โรงพยาบาล.....

ของจริง By : นายกล้วยหอม

นายกล้วยหอม กลับมาลัดเลาะหาข่าว และเกาะติดความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยเช่นเคยคร้าบ ขอให้วันนี้ SET บวกต่อ ....

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้