Today’s NEWS FEED

News Feed

บล.คิงส์ฟอร์ด : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน

122

Market Wrap-Up

  • SET วันที่ 9 ต.ค.68 ปิด +07 จุด อยู่ที่ 1,313.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 43,145 ลบ. สถาบันซื้อ 357 ลบ. รายย่อยซื้อ 615 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 539 ลบ. และต่างชาติขาย 434 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 2.7 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น ADVANC,DELTA,EGCO,AOT,PTT และยอดขายหุ้น KBANK,PTTEP,KTB,CPALL,BBL มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,948 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ FUEVFVND01,NDX01,BANPU โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Long ใน Index Futures จำนวน 4,802 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 68,198 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 455 ลบ.
  • ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA -0.52%, S&P500 -0.28%, Nasdaq -0.08% จากแรงขายกลุ่มวัสดุ -52%, อุต ฯ -1.44% ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภค +0.61% โดยนักลงทุนกังวลต่อภาวะชัตดาวน์เป็นวันที่ 9 หลังร่าง กม.งบประมาณฉบับที่ 6 ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากสภา ฯ ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 -0.43% จากแรงขายกลุ่มยานยนต์ หลัง Ferrari -15.4% หลังนักลงทุนผิดหวังต่อแผนการเงินระยะยาว และยังกังวลสถานการณ์การเมืองในฝรั่งเศส

 Market View

  • ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปรับลดลง โดยนักลงทุนกังวลต่อภาวะชัตดาวน์เป็นวันที่ 9 หลังร่างบประมาณฉบับที่ 6 ยังไม่สามารถผ่านสภา ฯ ซึ่งส่งผลให้พนักงานของรัฐบาลกลางจำนวน 7.5 แสน คน ต้องพักงานแบบไม่ได้รับค่าจ้าง ส่วนถ้อยแถลงของ ปธ.เฟดวานนี้ที่การประชุม ธ.ชุมชนไม่ได้กล่าวถึงแนวโน้มดอกเบี้ยของสหรัฐ ขณะที่ Pepsi Co +2% และ Delta Airlines +4.3% หลังรายงานผลประกอบการ Q3/68 ดีกว่าคาด โดยสัปดาห์หน้าติดตามการรายงานงบของกลุ่มธนาคาร เช่น JP.Morgan Chase, Goldman Sachs, Citi Group และ Wells Fargo โดย LSEG คาดกำไร Q3/68 ของ บจ.ใน S&P500 +8.8% YoY ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม ม.มิชิแกนเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ต.ค. คาด 54.1 & ก.ย. 55.1
  • ตลาดยุโรปวานนี้ปรับลดลงจากแรงชายกลุ่มยานยนต์ นำโดย Ferrari -4%, Michelin -3.8% และกลุ่มธนาคาร HSBC -5.4% หลังประกาศแผนเข้าซื้อหุ้นส่วนน้อยใน Hang Seng Bank มูลค่า $1.36 หมื่น ล. โดยนักลงทุนยังกังวลต่อปัจจัยการเมืองในฝรั่งเศส หลัง ปธน.มาครงกำลังสรรหานายก ฯ คนที่ 6 เพื่อเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายปี 69 ต่อสภาฯ ให้เสร็จก่อนสิ้นปีนี้ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจวานนี้ยอดส่งออกของเยอรมํน ส.ค. -0.5% & คาด +0.3% MoM สาเหตุมาจากยอดส่งออกไปสหรัฐลดลงต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปี
  • ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ +1.77% ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ & AI ไปเป็นตามดัชนี Nasdaq โดย Softbank Group +4% รับข่าวการเข้าซื้อกิจการหุ้นยนต์ของ ABB ของสวิส กอปรกลุ่มส่งออกญี่ปุ่นยังได้แรงหนุนจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่า ระหว่างรอการประชุมสภา ฯ วันที่ 20 ต.ค. เพื่อเสนอชื่อหัวพรรค LDP นางซานาเอะ ให้ดำรงตำแหน่งนายก ฯ คนใหม่ ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้ +1.32% ได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลัง ก.พาณิชย์จีนได้ออกกฏควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีที่เกี่ยวกับแร่หายาก ส่งผลให้หุ้น Zijin Mining และ China Northern Rare Earth +10% ขณะที่ฮั่งเส็ง -0.29% จากแรงขายกลุ่มการเงิน -0.7% หลัง HSBC -5.5% รับข่าวเตรียมถอนหุ้น Hang Seng Bank ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง
  • SET +70% ปริมาณการซื้อขาย 4.3 หมื่น ลบ. สถาบันซื้อ 357 ลบ. รายย่อยซื้อ 615 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 539 ลบ. และต่างชาติขาย 434 ลบ. โดยดัชนีได้แรงหนุนจากกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA +3.1% ส่งผลบวกต่อดัชนี +5.9 จุด หลังเตรียมจัดประชุมด้าน AI, Automation & Energy ในวันที่ 7 พ.ย. เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของผู้นำอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาค ขณะที่กลุ่มโรงฟฟ้า +1.5% หลัง ก.พลังงานเตรียมเดินหน้าโครงการโซลาร์ชุมชุน และโครง Direct PPA ที่จะประกาศรับซื้อไฟฟ้าในช่วง ธ.ค. ซึ่งเป็นบวกต่อ GULF, BGRIM, GUNKUL ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าที่พอร์ตการลงทุนในสหรัฐ เช่น BPP,BCPG ก็ปรับขึ้นตอบรับอุปสงค์ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มจากการลงทุนด้าน Data Center ประเด็นที่ต้องติดตามวันอังคาร ครม.เตรียมพิจารณา ม.กระตุ้นภาคท่องเที่ยวเมืองรอง และการเริ่มรายงานกำไร Q3/68 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดย BB.Consensus คาด -4.0% QoQ และทรงตัว YoY ส่วนภาวะตลาดวันนี้คาดชะลอตัวในช่วงวันหยุดยาว กอปร DELTA ติด Cash Balance ตั้งแต่ 10 ต.ค. – 30 ต.ค. อาจส่งผลให้ดัชนีผันผวน

    Daily Strategy

  • ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,295 - 1,300 แนวต้าน 1,320 คาดดัชนีมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงวันหยุดยาว กอปรกับ DELTA ติด Cash Balance อาจส่งผลให้ดัชนีผันผวน แนะนำทยอยซื้อกลุ่มโรงไฟฟ้า GULF,BGRIM,GUNKUL ได้ประโยชน์จากโครงการโซลาร์ชุมชุน & Direct PPA และ CKP,BCGP คาดกำไร Q3/68 ขยายตัวดี / กลุ่มไอซีที ADVANC,TRUE คาดกำไร Q3/68 เติบโตดี กอปรได้แรงหนุนจากเทรนด์การใช้ AI /กลุ่มท่องเที่ยว AOT,ERW,CENTEL คาดได้ประโยชน์จาก ม.กระตุ้นท่องเที่ยว
  • CENTEL* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 36.25 บาท)มีประเด็นมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศที่เตรียมเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า ทั้งในเรื่องการลดหย่อยภาษีท่องเที่ยวเมืองรอง และอาจมีเรื่องส่วนงานราชการเบิกจ่ายงบประมาณสำหรับการอบรมสัมมนา ส่วนแนวโน้มผลประกอบการ 3Q68 คาดกำไรปกติดีขึ้น QoQ ตาม RevPar ของโรงแรมทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด เช่นเดียวกับธุรกิจอาหารที่ SSSG กลับมาเป็นบวก YoY จากไตรมาสก่อนที่ติดลบ ส่วน 4Q68-1Q69 เข้า season ท่องเที่ยวหนุนกำไรฟื้นตัวต่อเนื่อง อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 68-69 ไว้ที่ 64 พันล้านบาท (-6%YoY) และ 1.92 พันล้านบาท (+17%YoY)
  • ERW* (ซื้อ /ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 21 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 63 ลบ.(-83%YoY, -82%QoQ) กดดันจากปัจจัยตามฤดูกาล จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลง และ 2Q67 มีฐานสูงจากกำไรพิเศษ ส่วนการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง 3Q68 คาดว่าจะทะยอยฟื้นตัวได้ QoQ หนุนด้วยนักท่องเที่ยวในประเทศ มีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากมาตรการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ขณะที่ 4Q68 ได้แรงหนุนตามฤดูกาล และลุ้นมาตรการเพิ่มเติมของภาครัฐฯ(เช่น ลดภาษีเที่ยวเมืองรอง) ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ ERW* จะอยู่ที่ 855 ลบ.(-33%YoY) และ 919 ลบ.(+7%YoY) ตามลำดับ

Daily Key Factors

Oil Update(-) WTI พ.ย.-$1.04 อยู่ที่ $61.51 / บาร์เรล, Brent ธ.ค. -$1.03 อยู่ที่ $65.22/บาร์เรล หลังอิสราเอล & ฮามาสสามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และจะมีการปล่อยตัวประกันของทั้ง 2 ฝ่าย รวมถึงถอนกำลังทหารออกจากกาซา, ราฟาห์, ข่านยูนิส ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงสงครามในตะวันออกกลางลดลง กอปรอุปสงค์น้ำมันยังถูกกดดันจากภาวะชัตดาวน์ในสหรัฐ

 

Gold Update(-) Comex Gold ธ.ค.-$97.9 อยู่ที่ $3,972.60 /ออนซ์. หลังอิสราเอลบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับกลุ่มฮามาส ส่งผลให้ปัจจัยเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดลง กอปรกับ Dollar Index แข็งค่า +0.63% อยู่ที่ 99.538

 

Fund Flow(+) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ซื้อสุทธิ +49.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -13.32 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ซื้อหุ้นอินโดฯ +60.77 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และซื้อหุ้นฟิลิปปินส์ +1.92 ล.ดอลลาร์สหรัฐ

 

(0) ค่าเงินบาทเช้านี่อ่อนค่าอยู่ที่ 32.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ปรับขึ้นอยู่ที่ 4.143 %

(-) ดัชนี BDI วานนี้ -40 อยู่ที่ 1,923

(-) BitCoin เช้านี้ -0.72% อยู่ที่ 121,670 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Economic Calendar

 

ในประเทศ

สัปดาห์ที3 ส.อ.ท. แถลงดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม

สัปดาห์ที4 ส.อ.ท. แถลงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์ รถจักรยานยนต์และชิ้นส่วน

ยานยนต์

กระทรวงพาณิชย์ แถลงภาวะการค้าระหว่างประเทศ

สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม

สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,

ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค

 

ต่างประเทศ

10 ต.ค.     US อัตราการว่างงาน (ก.ย.)

US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.ย.)

15 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ก.ย.)

16 ต.ค.     US ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)

                US ดัชนียอดขายปลีก (ก.ย.)

17 ต.ค.     EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.ย.)

 

 

Theme Strategy

เลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายหลักของรัฐบาลอนุทิน (รัฐบาลระยะสั้น 4 เดือน) เร่งใช้จ่ายในการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบ Quick wins, วงจรดอกเบี้ยโลกเป็นขาลง และ Earning momentum / Seasonal 3Q68-4Q68

 

(1) ค้าปลีก / บริโภค นโยบายคนละครึ่งพลัส – กระตุ้นกำลังซื้อ, ลดค่าใช้จ่าย CPAXT*, BJC, TNP*, KK*, MOTHER*, ICHI*, CBG*

 

(2) การเงิน / นอนแบงค์ นโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน เพิ่มสภาพคล่อง SME, คาดการณ์ลดดอกเบี้ยนโยบาย MTC*, SAWAD*, TIDLOR*, KTC*, NCAP*, SINGER*, SGC*, FSMART*, AP*, SPALI*, CPN*, DIF*, 3BBIF*

 

(3) รับเหมาก่อสร้าง เร่งเบิกจ่ายงบประมาณ โครงการก่อสร้างภาครัฐ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน STECON, CK, SEAFCO*, PYLON*

 

(4) ท่องเที่ยว ฟื้นความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว, มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ AOT, CENTEL*, ERW*

 

(5) ไอซีที / ดิจิทัล ปราบปรามภัยไซเบอร์, การลงทุนด้าน Digital, Cyber Security, Data Center ADVANC, DELTA*, GULF*, BGRIM*, BCPG*, SECURE*

 

(6) ด้านสาธารณสุข ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอและเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็งฟรีทุกจังหวัด KTMS*, BIZ* ลดค่ายาและเวชภัณฑ์โรงพยาบาลเอกชน การเปิดเผยราคายาให้ผู้ป่วยมีทางเลือกในซื้อยาเองได้ HL* (เก็งกำไร)

 

(7) Solar ภาคประชาชน, มาตรการลดหย่อยภาษี Solar rooftop ครัวเรือน / Direct PPA GULF*, GUNKUL*

 

**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย

 

Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%

 

Today Fundamental Research: -

 

 

Monthly Portfolio October 2025: TNP*, CPN*, PRM*, BJC, CBG*, BCPG*

 

 

 

Analysts

Apichai Raomanachai  

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  002939

Tel  02-829-6999  Ext  2200

Email : apichai.ra@kfsec.co.th

Meena Tunlayanitigun

Fundamental and Technical Investment Analysis ID No.  033662

Tel  02-829-6999 Ext  2201

Email : meena.tu@kfsec.co.th

Nopporn Chaykaew     

Fundamental Analysis ID No.  043964

Tel  02-829-6999  Ext  2203

Email : noppoen.ch@kfsec.co.th

Nattawat Poosunthornsri  

Fundamental Analysis ID No.  087077

Tel  02-829-6999  Ext  2204

Email : nattawat.po@kfsec.co.th

 

 

 

 

 

 

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

DELTA ถล่ม SET By : แม่มดน้อย

แม่มดน้อย ขี่ไม้กวาดวิเศษ เช้านี้หุ้นไทย โดนถล่ม เจอแรงขาย DELTA เซ่น ตลท. ประกาศให้ ...

"SMO" จับมือ "APM–FSS" โรดโชว์ จ.ราชบุรี โชว์ศักยภาพธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม

"SMO" จับมือ "APM–FSS" โรดโชว์ จ.ราชบุรี โชว์ศักยภาพธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ นักลงทุนตอบรับดีเยี่ยม

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จักพื้นฐาน ATLAS เคาะราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ 7-10 ตุลาคมนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้