วันพุธที่ผ่านมาดัชนีเคลื่อนไหว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงซื้อหนุนจากหุ้น DELTA และหุ้นกลุ่มธนาคารขณะที่มีแรงขายนำโดยหุ้นกลุ่มขนส่ง เป็นปัจจัยกดดันดัชนีทั้งนี้ผลการประชุม กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียงคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.50% ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,304.92 จุด -0.32 จุด -0.02%มูลค่าการซื้อขาย 37,346.56 ลบ. Program Trading -1,485.48 ลบ. ต่างชาติ -333.34 ลบ. TFEX-11,359 สัญญา ตราสารหนี้+280.54 ลบ.

ปัจจัยบวก
+ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 82 เซนต์ หรือ +1.33% ปิดที่62.55 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้ปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่มีความคืบหน้าจะทำให้รัสเซียยังคงถูกคว่ำบาตรรวมทั้งรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA)ที่บ่งชี้ว่าการใช้น้ำมันภายในประเทศปรับตัวสุงขึ้น
+ รายงานการประชุมประจำวันที่ 16-17 ก.ย.ของ FED ระบุว่า การที่ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ เผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้นถือเป็นเหตุผลเพียงพอที่ FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อสูง
+ กลุ่มฮามาสประกาศ ว่าได้บรรลุข้อตกลงเพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา โดยจะมีการถอนกำลังทหารอิสราเอล อนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าพื้นที่และดำเนินการแลกเปลี่ยนเชลยศึก

ปัจจัยลบ
- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 1.20 จุด หรือ -0.003% แต่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนประเมินรายงานการประชุม ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่า กรรมการยังคงสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่ก็มีท่าทีระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
- การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ล่วงเข้าสู่วันที่ 8 ส่งผลให้ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งทำให้นักลงทุนหันไปติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียนซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในสัปดาห์หน้า
- สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เรียกร้องให้เพิ่มความเข้มงวดในการห้ามขายอุปกรณ์ผลิตชิปให้จีน หลังผลการสอบสวนของคณะกรรมการร่วมสองพรรคพบว่า บริษัทจีนสั่งซื้ออุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงรวมมูลค่า 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา
- กนง. มติ 5:2 คงดอกเบี้ยที่ 1.50% โดยมี 2 เสียงให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย0.25% จาก 1.50% เป็น 1.25% เนื่องจากเห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ทั้งนี้ กนง.ได้ปรับลดคาดการณ์GDP ปี 68 เหลือโต 2.2% ส่วนปี 69 เหลือโต 1.6% (จากเดิมคาดปี 68 ขยายตัว2.3% และปี 69 ขยายตัว 1.7%)
-ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค (Consumer Confidence Index: CCI)เดือน ก.ย.2568 ปรับตัว ดีขึ้นจากระดับ 50.1 เป็น 50.7 ปรับตัวดีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคโดยรวมยังคงเคลื่อนไหวคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 100 แสดงให้เห็นว่า ผู้บริโภคยังคงเห็นว่าสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมยังคงฟื้นตัวช้า และค่าครองชีพสูง ตลอดจนปัญหาสงครามการค้า

แนวโน้มตลาดวันนี้
คาดดัชนีในวันนี้แกว่งตัว Sideway ออกข้าง โดยมีแรงกดดันจาก กนง. มติ 5:2 คงดอกเบี้ยที่ 1.50% และปรับลด GDPปี 68 ขณะที่นักลงทุนยังติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,300-1,312จุด

กลยุทธ์การลงทุน
-ปลดล็อกขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00-17.00 น. : CBG MENA BJC CPALL CPAXT TNP KKMOTHER
- โครงการคนละครึ่งพลัส : CPALL BJC CPAXT CBG OSP SAPPE TNP MOTHER
- เงินบาทกลับมาอ่อนค่า : CPF TU ITC BTG TFG