สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(8 ตุลาคม 2568)----------เพียงแค่ปลายนิ้วบนสมาร์ทโฟน บริการสั่งอาหาร (Food Delivery) ได้ขยายขอบเขตสู่บริการสั่งทุกอย่างในชีวิตประจำวัน (Lifestyle Delivery) ตั้งแต่ของสด ของใช้ ยาสามัญ พัสดุ ไปจนถึงบริการรับ-ส่งคน บริการเดลิเวอรีจึงไม่ใช่แค่ทางเลือกด้านความสะดวกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานใหม่” ที่ขับเคลื่อนวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของคนไทยในยุคดิจิทัล สะท้อนเทรนด์การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความครบ-จบในแอปเดียว และการปรับตัวของแพลตฟอร์มระดับโลกที่เข้ามาเป็นผู้จัดการชีวิตในทุกมิติอย่างแนบเนียนและต่อเนื่อง

ตลาดไทยยังโตต่อเนื่อง: ผู้บริโภคในเขตเมืองใช้บริการเดลิเวอรีเฉลี่ยถึง 3–4 ครั้งต่อสัปดาห์

ตลาดเดลิเวอรีไทยยังเติบโตต่อเนื่อง แม้เศรษฐกิจโดยรวมจะเผชิญความท้าทาย โดยมีอัตราการขยายตัวที่สูงขึ้น และถือเป็นหนึ่งในตลาดที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ผู้บริโภคในเขตเมืองใช้บริการเดลิเวอรีเฉลี่ย 3 –4 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งสูงกว่าหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปัจจัยหลักมาจาก ความสะดวก และ ความคุ้มค่า โดยผู้ใช้มักเลือกแพลตฟอร์มที่มีโปรโมชัน ลดค่าจัดส่ง หรือมีเมนูหลากหลายให้เลือก ขณะเดียวกัน แนวโน้มการใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเมนูสุขภาพ อาหารออร์แกนิก หรือบรรจุภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ สามารถเพิ่ม การลดใช้สินค้าไม่จำเป็น เช่น งดรับช้อนส้อมพลาสติก หรือไม่รับซอสซอง การเลือกเรียกรถ EV สะท้อนการเปลี่ยนจากการใช้จ่ายเพื่อความรวดเร็ว ไปสู่การใช้จ่ายที่มีคุณค่าและ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน

Global Trend สะท้อนถึงไทย: บริการ “ส่งด่วน” และ “ครัวกลาง” โอกาสของผู้ประกอบการรายย่อย

สองเทรนด์ระดับโลกที่กำลังพลิกโฉมการสั่งของผ่านแอปพลิเคชันในไทย ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ “อาหาร” อีกต่อไป แต่ขยายสู่บริการ ที่ตอบโจทย์ทุกมิติของชีวิตประจำวันในรูปแบบ Lifestyle Delivery ได้แก่

• Quick Commerce (Q-Commerce) – การส่งสินค้าด่วนภายใน 15 – 30 นาที เริ่มเป็นรูปธรรมในไทยผ่านบริการ GrabMart และ LINE MAN Mart ที่ครอบคลุมทั้งอาหาร ของใช้ และสินค้าอุปโภคบริโภค

• Dark Kitchen หรือ Cloud Kitchen – ครัวกลางที่ออกแบบเพื่อรองรับเดลิเวอรีโดยเฉพาะ กำลังได้รับความนิยมในไทย เพื่อลดต้นทุนค่าเช่าพื้นที่และค่าดำเนินการ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยหรือผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจอาหาร สามารถเข้าถึงลูกค้าโดยตรง ผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ไม่จำเป็นต้องลงทุนเปิดเป็นร้านอาหารอีกทั้งยังสามารถทดลองเมนูใหม่หรือขยายฐานลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น
ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ดิจิทัล: แพลตฟอร์มเดลิเวอรีเชื่อมต่อผู้บริโภคกับร้านค้าและสินค้าแบบไร้รอยต่อ

บทบาทใหม่ของแพลตฟอร์มเดลิเวอรีจึงไม่ใช่เพียง “ผู้ส่งอาหาร” อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็น Lifestyle Hub ที่เชื่อมผู้บริโภคกับร้านค้าและสินค้าเข้าด้วยกัน

• ผู้บริโภค ได้รับความมั่นใจและความสะดวก ตอบโจทย์ชีวิตเมืองที่เร่งรีบ
• ผู้ประกอบการ ขยายฐานลูกค้า ทดลองโมเดลธุรกิจแบบเดลิเวอรี่เต็มรูปแบบ
• แพลตฟอร์ม สร้างระบบนิเวศที่รวมอาหาร ค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซไว้ในที่เดียว

จาก Food Delivery สู่ Lifestyle Delivery คือ การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของตลาดเดลิเวอรีไทย โดยมีแรงหนุนจาก การเติบโตของตลาดในประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าและสุขภาพ ไปจนถึงเทรนด์ระดับโลกอย่าง Quick Commerce และ Cloud Kitchen ที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่การเป็น “Lifestyle Hub” อย่างเต็มรูปแบบ

บัตรเครดิตเคทีซีร่วมรับเทรนด์นี้ด้วยการคัดสรรสิทธิพิเศษผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม อาทิ Grab, LINE MAN, Hungry Hub และ Robinhood เพื่อให้สมาชิกบัตรฯ ได้รับทั้งความสะดวก ความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่ดีในการใช้บริการเดลิเวอรี ซึ่งวันนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง

นอกจากสิทธิประโยชน์ด้านส่วนลดและโปรโมชัน เคทีซียังตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่นอกเหนือจากการเก็บโค้ดส่วนลดแบบปกติแล้ว สมาชิกสามารถแลกคะแนน KTC FOREVER รับส่วนลดของแอปฯ ที่ร่วมรายการเพิ่มผ่านแอป KTC Mobile ช่วยให้สมาชิกสามารถบริหารค่าใช้จ่ายได้อย่างยืดหยุ่น พร้อมรับความคุ้มค่าในทุกการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์ม เคทีซีจึงไม่เพียงเป็นผู้สนับสนุนการใช้จ่ายในโลกดิจิทัล แต่ยังเป็นพันธมิตรสำคัญของผู้บริโภคในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพในยุคที่แพลตฟอร์มกลายเป็นศูนย์กลางของทุกกิจกรรมประจำวัน