ECONOMICS : เงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในเดือนกันยายนยังคงอยู่ในภาวะเงินฝืดที่มีความชัดเจนขึ้น โดยอยู่ที่ -0.72% YoY สะท้อนถึงการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาพลังงาน และอาหารสด
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ยังคงติดลบเป็นเดือนที่หกติดต่อกัน โดยปรับลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
• อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) เดือน ก.ย. ยังคงติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ที่ -0.72% YoY ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์เล็กน้อย (vs. -0.79% เดือนก่อน และประมาณการของตลาด) ขณะที่เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคปรับลดลงเล็กน้อยที่ -0.03% ด้านอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ชะลอลงมาอยู่ที่ 0.65% YoY (vs. 0.81% เดือนก่อน)
• สำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2025 อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ปรับตัวเข้าสู่ภาวะเงินฝืดที่ -0.01% ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) อยู่ที่ 0.90%
• ราคาในหมวดอาหารสดและพลังงาน ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กดดันเงินเฟ้อ โดยราคาปรับลดลง -3.6% YoY (vs. -4.1% เดือนก่อน) สำหรับหมวดพลังงานยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอลงเล็กน้อยที่ -4.5% YoY (vs. -5.6% เดือนก่อน) สะท้อนถึงราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่ต่ำกว่าปีก่อน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง และมาตรการอุดหนุนจากภาครัฐที่ยังดำเนินต่อเนื่องเพื่อบรรเทาค่าครองชีพ ด้านราคาในหมวดอาหารสดหดตัวในอัตราที่ลดลงเล็กน้อยที่ -2.9% YoY (vs. -3.0% เดือนก่อน) จากปริมาณผลผลิตผัก ผลไม้ และไข่ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงฐานราคาที่อยู่ในระดับสูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน
• สำหรับหมวดสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ราคายังคงทรงตัวโดยรวม โดยปรับลดลงเล็กน้อยที่ -1.0% YoY (เทียบกับ
-1.2% เดือนก่อนหน้า) ซึ่งสะท้อนถึงการหดตัวที่ชะลอตัวลงในหมวดการขนส่งและการสื่อสาร (-1.9% YoY เทียบกับ -2.7% เดือนก่อนหน้า) จากปัจจัยสนับสนุนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่หดตัวน้อยลง ขณะที่ราคาสินค้าในหมวด เสื้อผ้าและรองเท้า (-1.4% เทียบกับ -1.1% เดือนก่อนหน้า), เคหสถาน (-0.4% เทียบกับ -0.2% เดือนก่อนหน้า) และของใช้ส่วนบุคคล และเวชภัณฑ์ (-1.4% เทียบกับ -0.9% เดือนก่อนหน้า) ยังคงหดตัวอย่างต่อเนื่อง
เป้าหมายเงินเฟ้อถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ 0.0% (ค่ากลาง) ในปี 2025F โดยเราคาดว่านโยบายการเงินยังคงมีทิศทางผ่อนคลายต่อเนื่อง และคาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะถูกปรับลดลงสู่ระดับ 0.75% ภายในไตรมาส 2 ปี 2026F
• อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) ยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ในเดือน ก.ย. ตามที่คาดการณ์ไว้ โดยปัจจัยหลักที่กดดันเงินเฟ้อมาจาก ราคาพลังงานที่ลดลง ซึ่งรวมถึง ค่าไฟฟ้าและราคาน้ามันเชื้อเพลิง สะท้อนถึงผลของนโยบายภาครัฐและราคาพลังงานโลกที่ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ราคาสินค้าอาหารสดที่สำคัญ ยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ผัก ผลไม้ และไข่ อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ โดยรวมยังคงทรงตัว โดยบางรายการยังคงมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น เช่น เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารปรุงสาเร็จ และเครื่องปรุงประกอบอาหาร
• เรายังคงประเมินว่าเงินเฟ้อทั้งในปีนี้และปีหน้าจะยังคงต่ำกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ที่ราว 0.0% และ 0.7% ในปี 2025F และ 2026F ตามลำดับ ส่งผลให้ ธปท. จะมีพื้นที่เปิดกว้างในการดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายได้มากขึ้นในระยะข้างหน้า
• เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนตุลาคม คาดว่าจะยังคงอยู่ในทิศทางติดลบต่อเนื่อง เนื่องจากปัจจัยที่ส่งผลให้เงินเฟ้อลดลงมีน้ำหนักมากกว่าปัจจัยที่ผลักดันให้ราคาสินค้าสูงขึ้น โดยราคาน้ำมันดิบโลกคาดว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำจากการปรับเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC+ ประกอบกับมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ เช่น การปรับลดค่าไฟฟ้า Ft (ค่าไฟฟ้าผันแปร) ลงเหลือ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย (จากเดิม 19.72 สตางค์) ในช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2568 ขณะเดียวกัน สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ยังมีแรงกดดันด้านราคาจากต้นทุนสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น โดยเฉพาะจากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาวัตถุดิบอาหารสดปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ผลกระทบโดยรวมคาดว่าจะไม่มากนัก
• ด้านนโยบายการเงิน เรายังคงมองว่านโยบายการเงินในระยะข้างหน้า จะยังคงมีทิศทางที่จะผ่อนคลายได้เพิ่มเติม โดยประเมินว่า ธปท. มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงไตรมาสละ 0.25% จนถึงกลางปี 2026F จากระดับ 1.50% ในปัจจุบัน ลงไปอยู่ที่ 0.75% ซึ่งเราประเมินว่าเป็นระดับที่มีความเหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันที่ศักยภาพลดลง และมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางปัญหาเงินเฟ้อที่ต่ำต่อเนื่อง และสภาวะการเงินที่มีความตึงตัวเกินความจำเป็น