สินทรัพย์เสี่ยงอยู่ในช่วงรับกระแส FOMO

HORIZON MARKET VIEW
• ช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ทำให้ตลาดหุ้นหลายประเทศผันผวน โดยมีปัจจัย กดดันทั้งความกังวลผลกระทบ GOVERNMENT SHUTDOWN สหรัฐฯ รวมถึง นายกฯ ฝรั่งเศส ลาออก หลังนั่งตำแหน่งแค่ 26 วัน ซึ่งในช่วง 1 เดือน ที่ผ่านมา ดัชนี หุ้น S&P500 ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกับดัชนี VIX สะท้อนนักลงทุน (FOMO -> FEAR OF MISSING OUT) กลัวตกกระแส แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณลดความเสี่ยง ผ่านการ HEDGING ด้วย OPTION ในระยะ 30 วันข้างหน้ามากขึ้น ด้านราคาทองยังทำ ALL TIME HIGH ต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปี +51%YTD
• ประเด็น GOVERNMENT SHUTDOWN ยังต้องติดตามใกล้ชิด โดยผลสำรวจ ของ KALSHI คาดว่าจะโอกาสที่เกิดขึ้นเกิน 13 วัน มีน้ำหนักมากกว่า 80% อย่างไร ก็ตาม หาก SHUTDOWN เร็วกว่าวันที่ 13 ราคาทองคำก็อาจจะย่อตัวลงได้

 

REGION RADAR
• AMD (AMD US) +23.7% หลัง OPEN AI เตรียมเข้าถือหุ้น 10% ใน ข้อตกลงชิป AI โดย OPENAI เซ็นสัญญาร่วมกับ AMD เพื่อใช้ชิปกรา ฟิก INSTINCT GPUS กำลังรวม 6 กิกะวัตต์ภายในหลายปีข้างหน้า
• การท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสำหรับปี 2025 ดูสดใสกว่าทุกปีเมื่อเทียบกับปี 2023 และ 2024 ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่เดือน ม.ค. – ส.ค. 2025 นักท่องเที่ยวมีการเติบโต YOY อย่างต่อเนื่อง แนะนำเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม ท่องเที่ยวญี่ปุ่น อาทิ FAST RETAILING (DR: UNIQLO80)

 

THAI FOCUS
• เงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน ก.ย. 68 -0.72%YOY (ต่ำกว่าคาด - 0.6%YOY) หดตัวต่อเนื่อง 6 เดือนติดกัน ตามการลดลงของราคา สินค้ากลุ่มอาหารสด ซึ่งแนวโน้มเงินเฟ้องวด 4Q68 คาดจะอยู่ใกล้ ระดับ 0% ตามราคาน้ำมันดิบที่อยู่ระดับต่ำ
• มาตรการคนละครึ่งพลัส เตรียมเสนอเข้า ครม.วันนี้ วงเงิน 4.4 หมื่น ล้านบาท ซึ่งหากได้รับอนุมัติ จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือน ต.ค.68 และเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.68 ประเมินว่า โครงการครั้งนี้น่าจะ ช่วยเพิ่ม GDP ไทยจากเดิมราว 0.3-0.4%

 

SYNAPSE STRATEGY
• เข้าสู่ช่วง PREVIEW กำไรงวด 3Q68 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ รวบรวม ข้อมูลจาก BLOOMBERG 97 บริษัท (72% ของ MARKET CAP) คาดกำไร 3Q68 ยังทำได้ดีมีโอกาสเติบโต 33%YOY แต่ลดลง - 28%QOQ จากฐานที่สูงกว่าปกติ
• ฝ่ายวิจัยฯ คัดสรรแนะนำทยอยสะสมหุ้นที่มีแน้วโน้มกำไร 3Q68 เติบโตโดดเด่นทั้ง QOQ และ YOY อาทิTRUE, MAJOR, BGRIM, TKN, ADVANC, KTB, MTC, PR9, BH, PLANB, DELTA, CKP

 

HORIZON MARKET VIEW

การเมืองโลกเปลี่ยนผ่าน เพิ่มความผันผวนในตลาดหุ้น
ช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมือง ทำให้ตลาดหุ้นหลายประเทศผันผวน โดยมีปัจจัยกดดันทั้งความกังวลผลกระทบ GOVERNMENT SHUTDOWN สหรัฐฯ รวมถึงนายกฯ ฝรั่งเศส ลาออก หลังนั่งตำแหน่งแค่26 วัน ซึ่งในช่วง 1 เดือน ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้น S&P500 ปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกับดัชนีVIX สะท้อนนักลงทุน (FOMO -> FEAR OF MISSING OUT) กลัวตกกระแส แต่ก็เริ่มเห็นสัญญาณลดความเสี่ยง ผ่านการ HEDGING ด้วย OPTION ในระยะ 30 วันข้างหน้ามากขึ้น ด้านราคาทองยังทำ ALL TIME HIGH ต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่ต้นปี+51%YTD

 

อย่างไรก็ดี วานนี้ตลาดหุ้นญี่ปุ่นดีดตัวขึ้นแรงราว 4.6% หลัง “ทาคาอิจิ ซานาเอะ” นั่งหัวหน้าพรรค LDP คนใหม่ จ่อเป็นนายกฯ หญิงคนแรกของญี่ปุ่น โดยมีแนวนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่ และสนับสนุนให้ BOJ คงอัตรา ดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ

 

สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ยังคงเป็นเรื่อง GOVERNMENT SHUTDOWN ในสหรัฐฯ โดยผล สำรวจของ KALSHI คาดว่าจะโอกาสที่เกิดขึ้นเกิน 13 วัน มีน้ำหนักมากกว่า 80% อย่างไรก็ตาม หาก SHUTDOWN เร็วกว่าวันที่ 13 ราคาทองคำก็อาจจะย่อตัวลงได้

 

REGION RADAR

AMD +23.7% หลัง OPENAI เตรียมเข้าถือหุ้น 10% ในข้อตกลงชิป AI
OPEN AI เซ็นสัญญาร่วมกับ AMD เพื่อใช้ชิปกราฟิก INSTINCT GPUS กำลังรวม 6 กิกะวัตต์ (GW) ภายใน หลายปีข้างหน้า โดยเริ่มต้นเฟสแรกที่ 1 GW ในครึ่งหลังปี 2026 โดย AMD จะออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (WARRANT) ให้กับ OPEN AI สำหรับหุ้นสามัญสูงสุด 160 ล้านหุ้น ซึ่งสิทธิจะทยอย “VEST” ตาม MILESTONE การใช้งาน GPU และระดับราคาหุ้น หาก OPEN AI ใช้สิทธิครบทั้งหมด จะถือหุ้น ประมาณ 10% ของ AMD (จาก จำนวนหุ้นปัจจุบัน)

 

การท่องเที่ยวญี่ปุ่นในปี 2025 ดูสดใสกว่าทุกปี
การท่องเที่ยวในญี่ปุ่นสำหรับปี 2025 ดูสดใสกว่าทุกปีเมื่อเทียบกับปี 2023 และ 2024 ที่ผ่านมา โดยตั้งแต่เดือน ม.ค. – ส.ค. 2025 นักท่องเที่ยวมีการเติบโต YOY อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเดือน ส.ค. นักท่องเที่ยวเดินทางมายัง ญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 3.42 ล้านคน +17% YOY

 

ในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามายังญี่ปุ่นมากสุดคือนักท่องเที่ยวชาวจีน โดยตัวเลข นักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 1.01 ล้านคน เพิ่มขึ้น 36.5% YOY

 

จากภาพการท่องเที่ยวที่ดูดีในปีนี้ ส่งผลให้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวญี่ปุ่น แนะนำเก็งกำไร TAKASHIMAYA (8233 JT), ORIENTAL LAND (4661 JT), HOSHINO RESORT (3287 JT), ASICS (7936 JT), FAST RETAILING (DR: UNIQLO80)

 

THAI FOCUS

เงินเฟ้อไทยเดือน ก.ย.68 ชะลอลงเป็นเดือนที่ 6 แต่มาตรการคนละครึ่งพลัสเข้า ครม.วันนี้ คาดเป็น ตัวกระตุ้นเงินเฟ้อได้ในอนาคต

 

กระทรวงพาณิชย์รายงานเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) เดือน ก.ย. 68 -0.72%YOY (ต่ำกว่าคาด -0.6%YOY) หดตัว ต่อเนื่อง 6 เดือนติดกัน ตามการลดลงของราคาสินค้ากลุ่มอาหารสด โดยเฉพาะไข่ไก่ ผักสด และผลไม้สด รวมถึง ราคาพลังงานลดลง ทั้งน้ำมันดิบโลก และนโยบายภาครัฐช่วยลดค่าไฟฟ้า ซึ่งแนวโน้มเงินเฟ้อไทยงวด 4Q68 กระทรวงพาณิชย์คาดว่าจะอยู่ใกล้ระดับ 0 และได้ปรับคาดการณ์เงินเฟ้อไทยปี 2568 ลดลงเหลือ 0.0% (เดิม 0.5%) เนื่องด้วย OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิต กดดันราคาน้ำมันดิบช่วงนี้ บวกกับนโยบายช่วยค่าครองชีพ ภาครัฐฯ ซึ่งการที่เงินเฟ้อไทยที่อยู่ในระดับต่ำ มองเป็นปัจจัยเอื้อต่อการปรับลดดอกเบี้ยสัก 1 ครั้งในช่วงที่เหลือ ของปี(เหลือการประชุม 2 ครั้ง) ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินว่าการปรับลดดอกเบี้ย 25 BPS. จะหนุนระดับ PE ขึ้น 0.67 เท่า และดัน TARGET SET INDEX จะขยับขึ้นมาได้ราว 57 จุด

 

ขณะที่นโยบายการคลังตัวชูโรงอย่าง คนละครึ่งพลัส เตรียมเสนอเข้า ครม.วันนี้วงเงิน 4.4 หมื่นล้านบาท สำหรับ ผู้มีสิทธิ์ 20 ล้านคน ซึ่งหากได้รับอนุมัติ จะเปิดให้ลงทะเบียนในช่วงเดือน ต.ค.68 และเริ่มใช้จ่ายได้ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.68(ประชาชนทั่วไปจะได้รับเงิน 2,000 บาท ส่วนผู้ที่อยู่ในระบบภาษีจะได้รับเงินเพิ่มเป็น 2,400 บาท ผ่านแอป พลิเคชันเป๋าตัง) ซึ่งกระทรวงการคลัง ประเมินว่า โครงการครั้งนี้น่าจะช่วยเพิ่ม GDP ไทยจากเดิมราว 0.3-0.4%( ผลกระทบของโครงการคนละครึ่งต่อ GDP ในอดีตราว 0.1%-0.4%) จึงคาดว่ามาตรการคนละครึ่งพลัส + มาตรการอื่นๆของครม.ชุดนี้น่าจะเป็นตัวกระตุ้นเงินเฟ้อให้ฟื้นตัวสู่ภาวะปกติได้ในอนาคต(ระดับ 1%-3%)

 

SYNAPSE STRATEGY

หาหุ้นกำไรงวด 3Q68 ดี น่าทยอยสะสม เข้าสู่ช่วง PREVIEW กำไรงวด 3Q68 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมข้อมูลจาก BLOOMBERG 97 บริษัท (72% ของ MARKET CAP) คาดกำไร 3Q68 ยังทำได้ดีมีโอกาสเติบโต 33%YOY แต่ลดลง -28%QOQ จากฐานที่สูง กว่าปกติ

 

ฝ่ายวิจัยฯ คัดสรร แนะนำทยอยสะสมหุ้นที่มีแน้วโน้มกำไร 3Q68 เติบโตโดดเด่นทั้ง QOQ และ YOY อย่าง TRUE, MAJOR, BGRIM, ADVANC, KTB, MTC, PR9, BH, PLANB, DELTA, CKP

 

 

Research Division
จัดทำโดย
ภราดร เตียรณปราโมทย์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 075365
ภวัต ภัทราพงศ์
นักวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
เลขทะเบียนนักวิเคราะห์: 117985
สิริลักษณ์ พันธ์วงค์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์