สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(6 ตุลาคม 2568)----เดือนกันยายนที่ผ่านมา สินทรัพย์เสี่ยงมีความผันผวน โดยเฉพาะ Ethereum ที่ปรับตัวลงสูงสุดกว่า 20% เป็นผลจากการประกาศอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ปรับดอกเบี้ยลง 0.25% แม้ปัจจัยนี้จะเป็นผลดีต่อสภาพคล่องระยะยาว แต่ตลาดลงทุนเกิดสภาวะ Sell on fact จากการรับข่าวล่วงหน้าและกดดันสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม หลังความผันผวนระยะสั้นลดลง ราคาของ $BTC ปรับตัวขึ้นกว่า 10% ส่งผลให้เดือนกันยายนราคาปิดทั้งเดือนเป็นบวก
นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัท เมอร์เคิล แคปปิตอล จำกัด เปิดเผยว่า Merkle Capital มองว่า เดือนตุลาคม Bitcoin และภาพรวมตลาดคริปโทฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม Ethereum ecosystem ด้วยเหตุผลดังนี้
1. อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดต่ำสุดในระยะยาว
เมื่อวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% พร้อมเปิดเผย Dot Plot สะท้อนมุมมองต่อทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยต่อเนื่องอีก 4 ครั้งจนถึงสิ้นปี 2026 ขณะที่ความเห็นส่วนใหญ่ของคณะกรรมการ FED มองว่าระดับดอกเบี้ยต่ำสุดจะอยู่ราว 3.00%–3.25% ในช่วงปลายปี 2027 และต่อเนื่องในระยะยาว หากการปรับลดเป็นไปตามที่ตลาดคาด จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบการเงินและส่งผลบวกต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างมีนัยสำคัญ
2. ตลาดคริปโทฯ เข้าสู่เดือน Uptober พร้อมสถิติหนุนจากเดือนกันยายน
ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ราคาของ $BTC มีการปรับตัวขึ้นกว่า 5% ซึ่งเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่ปี 2013 หากพิจารณาควบคู่กับสถิติย้อนหลัง จะพบว่าเดือนตุลาคมมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2010 หากเดือนกันยายนเป็นบวก เดือนตุลาคมจะปรับขึ้นต่อถึง 6 ใน 7 ครั้ง มากไปกว่านั้น ราคาของ $BTC มีสถิติปรับตัวขึ้นในเดือนตุลาคม 10 จาก 12 ครั้งนับตั้งแต่ปี 2013 ดังนั้น เมื่อพิจารณาสถิติดังกล่าวและแนวโน้มผ่อนคลายจาก Macroeconomic มีโอกาสที่ Bitcoin อาจปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดคริปโทฯ
3. มูลค่ารวมตลาดคริปโทฯ ทดสอบระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์
หลังการเข้าถึงของ Bitcoin จากนักลงทุนสถาบันเพิ่มสูงขึ้น Total market cap ของตลาดคริปโทฯ ทำสถิติ All time high ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่เมื่อยกเว้น Bitcoin ที่เป็นแหล่งสะสมเงินหลักของนักลงทุนสถาบัน พบว่าในเดือนกันยายน มูลค่าตลาดของคริปโทฯ สกุลอื่นทั้งหมดกำลังทดสอบสถิติสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี และเมื่อพิจารณาถึงสถิติปี 2021 พบว่าเมื่อผ่านระดับ All time high เดิมในปี 2017 มูลค่าตลาดคริปโทฯ ยกเว้น Bitcoin นั้นปรับตัวขึ้นสูงกว่า 250% ดังนั้น หากเดือนตุลาคมนี้มูลค่าตลาดผ่านระดับสูงสุดได้ จะมีโอกาสให้ภาพรวมคริปโทฯ ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ในไตรมาส 4 และระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ
*หมายเหตุ คริปโทเคอร์เรนซี และโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้