Today’s NEWS FEED

News Feed

SCB WEALTH จับจังหวะดอลลาร์อ่อน เปิดขาย SCBUSDABSAP วันที่ 7-15 ต.ค.นี้ เน้นลงทุนในหุ้นเอเชียแปซิฟิกด้วยสกุลUSDมุ่งสร้างผลตอบแทนทุกสภาวะตลาด

104

 


สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(6 ตุลาคม 2568)----SCB WEALTH ร่วมกับ BlackRock คัดสรรผลิตภัณฑ์ลงทุนให้ตอบโจทย์นักลงทุนในจังหวะค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่า พร้อมเสิร์ฟกองทุนSCBUSDABSAP เสนอขายครั้งแรกในวันที่ 7- 15 ตุลาคม  2568 เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน BlackRock Systematic Asia Pacific Equity Absolute Return Fundมุ่งหวังสร้างผลตอบแทนผ่านการเติบโตของเงินลงทุนในทุกสภาวะตลาด โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์เป็นผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนและจัดตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด กองทุนหลักลงทุนอย่างเป็นระบบผสานความเชี่ยวชาญของผู้จัดการกองทุนเข้ากับเทคโนโลยี AI เพื่อคัดเลือกหุ้นคุณภาพจากกว่า 4,500 บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น พร้อมควบคุมความผันผวนให้อยู่ในกรอบ 6–8% ต่อปี เพื่อประคองความเสี่ยงให้เหมาะสม ตอกย้ำประสิทธิภาพด้วยผลงานของกองทุนหลัก นับตั้งแต่จัดตั้งจนถึงสิ้นเดือน ส.ค. 2568 ที่สร้างผลตอบแทนเป็นบวกถึง 70 เดือนจาก 102เดือน เหนือกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี MSCI AC Asia Pacific สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม โดย เงินลงทุนขั้นต่ำ SCBUSDABSAP อยู่ที่  30 USD มองภาวะเงินบาทแข็งค่าถือเป็นโอกาสสำคัญของนักลงทุนไทยที่มีแผนใช้เงินดอลลาร์ฯในระยะยาว และ ไม่ต้องเสียต้นทุนค่า Hedging

นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Wealth & Investment Product  กลุ่มธุรกิจ Consumer Banking ธนาคารไทยพาณิชย์  เปิดเผยว่า  ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจเปิดทางให้ธนาคารกลางในภูมิภาคเอเชียปรับลดดอกเบี้ยตาม ส่งผลให้ต้นทุนการลงทุนลดลง และกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาค นอกจากนี้ เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ยังเป็นอีกแรงสนับสนุนสำคัญที่ช่วยดึงดูดเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ในเอเชียมากขึ้น ขณะที่ระดับ Valuation ของตลาดหุ้นในภูมิภาคนี้ยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นในประเทศพัฒนาแล้ว

ในส่วนของแนวโน้มค่าเงินบาท จากข้อมูลของ SCB EIC ค่าเงินบาทเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นแล้วกว่า 8% ในปีนี้ ซึ่งเป็นการแข็งค่าที่สุดในรอบ ปี และแข็งค่านำคู่แข่งในภูมิภาค โดยคาดว่าเงินบาทมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31-32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่ง SCB CIO มองว่า ภาวะเงินบาทแข็งค่าถือเป็น "โอกาสสำคัญ" สำหรับนักลงทุนไทยที่มีแผนใช้เงินดอลลาร์ฯ ในระยะยาว หรือมองหาการลงทุนต่อเนื่องในต่างประเทศ การลงทุนโดยตรงในสกุลเงินดอลลาร์ฯ นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินทรัพย์การลงทุนที่หลากหลายแล้ว ยังมีข้อได้เปรียบด้านผลตอบแทนเมื่อเทียบกับการลงทุนในสกุลเงินบาท เพราะไม่ต้องเสียต้นทุนค่า Hedging อีกทั้งยังสามารถใช้แนวคิดการสร้าง "USD Wallet" เป็นการลงทุนต่อเนื่องระยะยาวด้วยสกุลเงินดอลลาร์ฯ ซึ่งช่วยลดความผันผวนจากค่าเงินและโอกาสสร้างความมั่นคงในการลงทุนได้มากขึ้น

โอกาสนี้ธนาคารไทยพาณิชย์ ผู้สนับสนุนการขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน เตรียมเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Asia Pacific Equity Absolute Return USD  (SCBUSDABSAP) ครั้งแรก ( IPO) ระหว่างวันที่  7- 15 ตุลาคม  2568 ความเสี่ยงกองทุนระดับ 6 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง เป็นกองทุนที่เปิดโอกาสให้ลงทุนด้วยสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ( USD ) ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำที่  30 USD

กองทุนนี้จัดตั้งโดยบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ เพียงกองทุนเดียว ได้แก่ BlackRock Systematic Asia Pacific Equity Absolute Return Fund   ชนิดหน่วยลงทุน  D2 U.S. Dollar (กองทุนหลัก) โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ  บริหารโดย BlackRock (Luxembourg) S.A. ซึ่งกองทุนหลักเน้นการบริหารเชิงรุก (Active management) มุ่งหวังสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกให้แก่ผู้ลงทุนผ่านการเติบโตของเงินลงทุนและผลตอบแทนจากการลงทุนในทุกสภาวะตลาด โดยคำนึงถึงหลักการลงทุนด้านสิ่งแวดล้อม  สังคม และธรรมาภิบาล ( ESG) ผ่านการลงทุนในสินทรัพย์โดยตรง ( long exposure)  และการทำธุรกรรม Synthetic long และ Synthetic short   ในบริษัทที่จัดตั้งหรือจดทะเบียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า  ( Derivatives)  เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ตามความเหมาะสมขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน  

สำหรับกลยุทธ์การบริหารกองทุน  มีจุดเด่นดังนี้ 1) กองทุนหลักใช้ตราสารอนุพันธ์ทั้ง Long  และ Short position ในหุ้นขนาดใหญ่ และเล็กของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงออสเตรเลีย และญี่ปุ่น เพื่อลดความเสี่ยงด้านทิศทางตลาด  2) จำกัดความผันผวนของพอร์ตที่ 6-8% โดยเฉลี่ยต่อปี 3) มุ่งสร้างผลตอบแทนเป็นบวกในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ(USD)ผ่านกลยุทธ์การลงทุนแบบ Market Neutral ที่อาจไม่เคลื่อนไหวตามสภาวะตลาด พร้อมสอดคล้องกับการลงทุนเพื่อความยั่งยืน   4) การบริหารเชิงรุก ซึ่งใช้แบบจำลองเชิงปริมาณ (quantitative models) เพื่อคัดเลือกหุ้นอย่างเป็นระบบ โดยผู้เชี่ยวชาญผสมกับเทคโนโลยี AI ในการเข้าถึงข้อมูลท้องถิ่นของแต่ละประเทศ และ 5) กองทุนหลักได้รับ Morningstar rating 5 ดาวจากกลุ่ม EAA Fund Equity Market Neutral USD  (ข้อมูล ณ สิงหาคม 2568)

ทั้งนี้ ผู้จัดการกองทุนหลัก มีกระบวนการลงทุนอย่างเป็นระบบโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) เข้าถึงข้อมูลหุ้นบริษัทกว่า 4,500 บริษัท ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ทุกวันเพื่อสร้างพอร์ตการลงทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยผสมผสานการคาดการณ์ผลตอบแทน ความเสี่ยง และต้นทุน

ตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิก รวมถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น ต่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งภาษา ข้อมูล และโครงสร้างตลาดที่แตกต่างกัน ความสามารถในการเข้าถึงและตีความข้อมูลได้อย่างถูกต้อง จึงเป็น "กุญแจสำคัญ" ในการสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง

สำหรับกระบวนการลงทุน มีการนำจุดแข็งด้านเทคโนโลยี AI มาผสมผสานทั้งข้อมูลดั้งเดิมและข้อมูลทางเลือก เพื่อสกัด "ข้อมูลเชิงลึก" ที่สะท้อนปัจจัยขับเคลื่อนผลตอบแทนของแต่ละตลาดในอนาคต ขณะเดียวกันยังคงยึดมั่นในกรอบการลงทุนอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน SFDR Article 8 ซึ่งเน้นความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

นอกจากนี้ ทีมผู้จัดการกองทุนยังทำหน้าที่ตรวจสอบและปรับปรุงให้ Model AI มีความแม่นยำและทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ส่งผลให้นักลงทุนสามารถเข้าถึง "โอกาสที่ซ่อนอยู่" ในภูมิภาคที่ซับซ้อนนี้ได้อย่างมั่นใจ

  ทั้งนี้ จากข้อมูลนับตั้งแต่กองทุนหลักจัดตั้ง วันที่ 22 ก.พ. 2560 จนถึงวันที่ 31 ส.ค. 2568 กองทุนหลักแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการสร้างผลตอบแทนที่ "มั่นคงและต่อเนื่อง" โดยสามารถทำผลตอบแทนรายเดือนเป็นบวกได้ถึง 70 เดือน จากทั้งหมด 102 เดือน เหนือกว่าดัชนีอ้างอิง MSCI AC Asia Pacific ซึ่งทำได้เพียง 61 เดือนจาก 102 เดือน อีกทั้งยังสร้าง ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีสูงกว่าดัชนี นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน สะท้อนถึงศักยภาพในการบริหารที่โดดเด่นและเสถียรกว่าเมื่อเทียบกับตลาดโดยรวม

  

                                                   ///////////////////////////////////////////////

คำเตือน

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
  • กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Asia Pacific Equity Absolute Return USD (SCBUSDABSAP) ความเสี่ยงระดับ เป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงสูงหรือซับซ้อน  
  • กองทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน มีความแตกต่างจากการลงทุนหรือใช้บริการกองทุนรวมทั่วไป ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน ทั้งนี้ การลงทุนในกองทุนรวมซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อนซึ่งมีปัจจัยอ้างอิง มีความแตกต่างจากการลงทุนในปัจจัยอ้างอิงโดยตรง จึงอาจทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนดังกล่าวมีความผันผวนแตกต่างจากราคาของปัจจัยอ้างอิงได้ ในกรณีที่เป็นกองทุนรวมที่มีปัจจัยอ้างอิง (underlying asset) และกำหนดเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับปัจจัยอ้างอิงดังกล่าว
  • กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
  • กองทุนรวม SCBUSDABSAP นี้บริหารจัดการการลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างประเทศโดย BlackRock ภายใต้สัญญาแต่งตั้งรับมอบหมายงานด้านการจัดการลงทุนเป็นไปตามที่ระบุในโครงการจัดการกองทุนโดยบลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
  • กองทุนหลักจะใช้แบบจำลองที่เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้จัดการลงทุน ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์เชิงปริมาณ อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานของกองทุนหลักอาจแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ได้ เนื่องจากปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์ในแบบจำลอง การให้น้ำหนักแต่ละปัจจัย แนวโน้มในอดีตที่เปลี่ยนแปลงไป และปัญหาในการสร้างและใช้งานแบบจำลอง โดยกองทุนหลักไม่มีการรับประกันว่าการใช้แบบจำลองดังกล่าวจะส่งผลให้การตัดสินใจลงทุนมีประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อมูลที่ใช้ในแบบจำลองอาจเป็นข้อมูลที่ได้รับมาจากบุคคลที่สามซึ่งอาจไม่ถูกต้องและครบถ้วน ส่งผลให้ประสิทธิภาพของแบบจำลองมีข้อจำกัด นอกจากนี้ ข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลในอดีตจึงมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคตได้อย่างแม่นยำ
  • กองทุนหลักมีกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกในทุกสภาวะตลาด โดยมูลค่าทรัพย์สินสิทธิของกองทุนหลักอาจไม่เคลื่อนไหวตามแนวโน้มของตลาด หรืออาจไม่ได้ทำกำไรในสภาวะตลาดที่เป็นบวก
  • ผลการดำเนินงานในอดีตไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • ศึกษาข้อมูลกองทุนหลักและหนังสือชี้ชวนกองทุนที่ร่วมรายการเพิ่มเติมได้จาก website ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม www.scbam.com และสามารถศึกษารายละเอียดกองทุนรวมเพิ่มเติมผ่านแอป SCB EASY
  • สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SCB Call Center โทร. 02-777-7777

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

บทความล่าสุด

อิทธิพลหุ้น By : แม่มดน้อย

หุ้นไทยยังได้อิทธิพลหุ้นใหญ่อย่าง DELTA ประคองตลาด ส่วนเส้นเทคนิคบ่งชี้ SET ยังไม่ฝ่าด่าน 1300 จุด.....

พร้อมขึ้นลง By : เจ๊มดแดง

เจ๊มดแดง ไต่กิ่งมะม่วง มองตลาดหุ้นไทย ดัชนีตลาด พร้อมขึ้น พร้อมลง ด้วยวอลุ่มเทรดไม่คึกคัก ปัจจัยบวกใหม่ ...

มัลติมีเดีย

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จัก "88TH" ก่อนเข้าซื้อขายฯพรุ่งนี้

หุ้นอินไซด์ทอล์ค : รู้จัก "88TH" ก่อนเข้าซื้อขายฯพรุ่งนี้

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้