Today’s NEWS FEED

News Feed

ATLAS สรุปราคาไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น เปิดจองซื้อ7-10 ตุลาคมนี้

113

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(5 ตุลาคม 2568)-------------บริษัท แอตลาส เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (ATLAS) ดำเนินธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน ภาคขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม ในลักษณะการค้าปลีกไปยังผู้บริโภคโดยตรง และการค้าส่งให้กับผู้ค้าก๊าซรายย่อยเพื่อนำไปจำหน่ายต่อให้กับผู้บริโภคเปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นไอพีโอที่ 3 บาทต่อหุ้น โดยระยะเวลาการเสนอขายวันที่ 7 ตุลาคม 2568 - 10 ตุลาคม 2568 เวลา 08:30 - 17:00 น.

การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ที่เสนอขายในครั้งนี้ ได้มีการพิจารณาจากอัตราส่วนราคาต่อหุ้น ต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) โดยได้กำหนดราคาขายหุ้นสามัญของบริษัทฯ ที่จะมีการเสนอขายที่ 3.00 บาท ต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E) เท่ากับ 11.17 เท่า (ก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้) และ 15.85 เท่า (หลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ ทั้งหมด 418.42 ล้านหุ้น) จากการคำนวณกำไรต่อหุ้นจากสี่ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึง 30 มิถุนายน 2568 รวมเป็น สิบสองเดือนย้อนหลัง ซึ่งคิดเป็นกำไรสุทธิจำนวน 268.53 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.27 บาทต่อหุ้น เมื่อหารด้วยหุ้นสามัญทั้งหมดก่อนการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ และ กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.19 บาทต่อหุ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (Fully Diluted) ทั้งนี้ อัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ของหุ้นดังกล่าว คำนวณจากผลการดำเนินงานในอดีต โดยที่ยังไม่ได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคต

 

ATLAS จะเสนอขายหุ้นไอพีโอไม่เกิน 418,420,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 29.50 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯในครั้งนี้


สัดส่วนการเสนอขายหุ้น

ประเภทผู้ลงทุน จำนวนหุ้นที่เสนอขาย (หุ้น) สัดส่วนที่เสนอขาย (ร้อยละ)

1. กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) (“PTG”) และบริษัทย่อยของ PTG (ซึ่งไม่รวมถึงบริษัทฯ และ บริษัทย่อย) ไม่เกิน 28,360,000 ไม่เกิน 2.0
2. ผู้มีอุปการคุณของบริษัท ไม่เกิน 62,360,000 ไม่เกิน 4.4
3. ประชาชน ประมาณ 327,700,000 ประมาณ 23.1

รวมทั้งหมด 418,420,000 29.5


วัตถุประสงค์การใช้เงิน จำนวนเงินที่ใช้ (ล้านบาท) ระยะเวลาที่ใช้เงินโดยประมาณ

1. การลงทุนเพื่อเพิ่มโรงบรรจุก๊าซหุงต้มและร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้มเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน 99.9 ปี 2568 - ปี 2569

2. การลงทุนเพื่อเพิ่มถังบรรจุก๊าซหุงต้มเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคครัวเรือน 162.2 ปี 2568 - ปี 2569

3. การลงทุนเพื่อเพิ่มสถานีบริการก๊าซแอลพีจีเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจีในภาคขนส่ง 241.6 ปี 2568 - ปี 2569

4. การลงทุนในโครงการ “PT Auto Transform” เพื่อเพิ่มจำนวนผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิง 69.3 ปี 2568 - ปี 2569

5. การลงทุนเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและลูกค้ากลุ่มพาณิชยกรรม 5.6 ปี 2568 - ปี 2569

6. การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจจำหน่ายก๊าซแอลพีจี 400.0 ปี 2568 - ปี 2569

7. การใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ 220.7 ปี 2568 - ปี 2569

รวมทั้งหมด 1,199.3


หมายเหตุ: การลงทุนในทรัพย์สินและโครงการตามที่ระบุในตารางข้างต้น บริษัทฯ ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วบางส่วนในปี 2568 โดยใช้เงินสดที่ได้จากการดำเนินงานของบริษัทฯ ทั้งการลงทุนเพื่อเพิ่มโรงบรรจุก๊าซหุงต้ม ร้านจำหน่ายก๊าซหุงต้ม และ สถานีบริการก๊าซ รวมถึงการลงทุนในโครงการ “PT Auto Transform” และ การขยายฐานลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมและลูกค้ากลุ่มพาณิชยกรรม โดยการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ การลงทุนในโรงบรรจุก๊าซ จำนวน 2 แห่ง (ได้แก่ โรงบรรจุก๊าซ “เขาย้อย” และ โรงบรรจุก๊าซ “แม่พริก”) ที่บริษัทฯ ดำเนินการแล้วเสร็จ 1 แห่ง บริษัทฯ อยู่ระหว่างการดำเนินการ 1 แห่ง

 

ผลประกอบการของบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 314.2 ล้านบาท ในปี 2565 ลดลงเหลือ 232.4 ล้านบาท ในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเป็น 285.2 ล้านบาท ในปี 2567 สำหรับหกเดือนแรก ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 155.7 ล้านบาท นอกจากรายได้จากการจำหน่ายก๊าซแอลพีจี บริษัทฯ ยังมีรายได้อีกส่วนหนึ่งมาจากการจำหน่ายน้ำมัน เนื่องจากสถานีบริการก๊าซของบริษัทฯ บางแห่ง เป็นสถานีบริการที่จำหน่ายได้ทั้งก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน (“สถานีบริการก๊าซที่มีส่วนจำหน่ายน้ำมัน”) เนื่องจากผู้ใช้รถยนต์ที่ใช้ก๊าซแอลพีจีเป็นเชื้อเพลิงมีความต้องการเติมทั้งก๊าซแอลพีจีและน้ำมัน บริษัทฯ จึงเห็นว่าการที่สถานีบริการสามารถจำหน่ายได้ทั้งก๊าซแอลพีจีและน้ำมันจะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น


อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การแบ่งแยกการดำเนินธุรกิจระหว่างกลุ่มบริษัทฯ ( ได้แก่ บริษัทฯ และ OLP) กับ กลุ่มบริษัท PTG (ได้แก่ PTG และ บริษัทย่อยและบริษัทร่วมของ PTG) มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในช่วงเดือน มิถุนายน 2567 OLP ได้ให้สิทธิ์กับ PTC ในการดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำมันในสถานีบริการก๊าซที่มีส่วนจำหน่ายน้ำมันทั้งหมดของ OLP (“สถานีบริการที่ OLP ได้ให้สิทธิ์”) โดยมีเงื่อนไขว่า PTC ต้องว่าจ้าง OLP เป็นผู้บริหารจัดการส่วนจำหน่ายน้ำมันในสถานีบริการที่ OLP ได้ให้สิทธิ์ ส่งผลให้ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป บริษัทฯ จะไม่มีรายได้จากการจำหน่ายน้ำมันในสถานีบริการ แต่บริษัทฯ จะมีรายได้จากการรับจ้างบริหารส่วนจำหน่ายน้ำมันแทน ทั้งนี้ กำไรสุทธิของบริษัทฯ ตามงบการเงินเสมือน เท่ากับ 301.4 ล้านบาท ในปี 2565 ลดลงเหลือ 228.3 ในปี 2566 และเพิ่มขึ้นเป็น 265.4 ในปี 2567 และสำหรับหกเดือนแรก ปี 2568 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิตามงบการเงินสอบทาน เท่ากับ 155.7 ล้านบาท ลดลงจากหกเดือนแรก ปี 2567 ตามงบการเงินเสมือน ซึ่งเท่ากับ 152.5 ล้านบาท

 

 

บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และข้อบังคับของบริษัทฯ

 

 

อณุภา ศิริรวง

: รายงาน/เรียบเรียง โทร 02-276-5976 อีเมล์: reporter@hooninside.com ที่มา: สำนักข่าวหุ้นอินไซด์

สามารถติดตามหน้าเพจของ หุ้นอินไซด์ เพื่อรับข่าวเด่นและประเด็นที่คุณไม่ควรพลาดได้ตามขั้นตอนนี้