สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (1 ตุลาคม 2568 )-----บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (Saha Farms) ผู้ผลิตและส่งออกไก่สด - ไก่แช่แข็งครบวงจรชั้นนำของไทย และบริษัท คอบบ์-แวนเทรส (Cobb-Vantress, LLC.) ประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้นำระดับโลกด้านการพัฒนาสายพันธุ์ไก่เนื้อ ภายใต้เครือ Tyson Foods ได้ลงนามบรรลุข้อตกลงความร่วมมือแต่งตั้งผู้แทนจำหน่าย (Distributorship Agreement) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมไก่ไทยสู่มาตรฐานสากล ตอบโจทย์ความต้องการอาหารปลอดภัย โปรตีนคุณภาพ และการเติบโตในตลาดโลก

ดร.มนูญศรี โชติเทวัญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด และบริษัทในเครือ เปิดเผยว่า ตลอดเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา สหฟาร์มยืนหยัดในฐานะผู้บุกเบิกธุรกิจส่งออกไก่ของไทย โดยมี ดร.ปัญญา โชติเทวัญ เป็นผู้วางรากฐานและขยายสู่ตลาดโลก สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้ส่งออกที่ได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศคู่ค้าสำคัญอย่างญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป ซึ่งให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร

"ความร่วมมือครั้งใหม่นี้กับคอบบ์ ถือเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และยกระดับความสามารถในการแข่งขันของไทย ไม่เพียงแต่ด้านพันธุกรรมสัตว์ แต่ยังรวมถึงระบบการจัดการฟาร์ม เทคโนโลยีการเลี้ยงที่ทันสมัย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของตลาดโลก" ดร.มนูญศรี กล่าว

ด้าน มร.เชลบี วัตคินส์ (Mr. Shelby Watkins) ประธานกรรมการ บริษัท คอบบ์-แวนเทรส อิงค์ (Cobb-Vantress, LLC.) ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ในฐานะพันธมิตร คอบบ์ ขอแสดงความยินดีกับครอบครัวสหฟาร์ม ที่ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกไก่สดอันดับหนึ่งของประเทศไทย และยืนยันว่าคอบบ์พร้อมเดินเคียงข้างสหฟาร์ม เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกัน

"วันนี้พวกเรามารวมตัวกันเพื่อต่อยอดเจตนารมณ์ของ ดร.ปัญญา โชติเทวัญ ผู้ก่อตั้งสหฟาร์ม ซึ่งได้เริ่มต้นความร่วมมือกับคอบบ์มากว่า 30 ปีก่อน ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ต้องการคัดสรรพันธุกรรมที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ความร่วมมือครั้งนั้นไม่เพียงปูรากฐานให้สหฟาร์มเติบโต แต่ยังถูกถ่ายทอดต่อไปยังเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายของคอบบ์ทั่วทั้งเอเชียจนถึงปัจจุบัน ที่คอบบ์ เราเชื่อมั่นเสมอมาว่าองค์กรที่ยึดมั่นใน 'คุณค่า' จะสามารถยืนหยัดผ่านกาลเวลาได้อย่างแท้จริง มากกว่าการมุ่งเน้นเพียงธุรกรรมหรือผลประโยชน์ทางธุรกิจ เรามองหาความสอดคล้องด้านค่านิยมก่อนเริ่มต้นความร่วมมือ และสหฟาร์มได้พิสูจน์ให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามีคุณค่าเดียวกันกับคอบบ์ ได้แก่ ครอบครัว ความเป็นเลิศ ความซื่อสัตย์ และนวัตกรรม

ครอบครัว คือการปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความเคารพและเอาใจใส่ พร้อมก้าวผ่านทั้งช่วงเวลาที่ดีและท้าทายไปด้วยกัน แม้ในหลายปีที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ความร่วมมือของเรายังคงเหนียวแน่น วันนี้ผมขอแสดงความยินดีกับครอบครัวสหฟาร์มที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกไก่สดอันดับหนึ่งของประเทศไทยได้สำเร็จ

ความเป็นเลิศ ไม่ได้หมายถึงการเป็นที่หนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นด้านคุณภาพ ซึ่งสหฟาร์มได้แสดงให้เห็นตลอดมา และคอบบ์ก็พร้อมที่จะเติบโตเคียงข้างไปด้วยกัน

ความซื่อสัตย์ คือหัวใจของการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืน องค์กรที่โปร่งใสและพูดความจริงเท่านั้นที่จะคงอยู่ได้ยาวนาน นี่คือเสาหลักของความร่วมมือระหว่างเรา และจะนำพาเราสู่อนาคต ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนผ่านผู้นำในวันนี้หรือวันหน้า ภายใต้ความแข็งแกร่งของทีมบริหารสหฟาร์มที่นำโดย ดร.มนูญศรี และทายาทรุ่นที่สอง ร่วมกับทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ยาวนาน

นวัตกรรม จะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทั้งจากความก้าวหน้าทางพันธุกรรมและการปรับปรุงกระบวนการอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามในฐานะตัวแทนคอบบ์ ขอขอบคุณสหฟาร์มสำหรับความร่วมมือที่มั่นคง และขอบคุณเป็นพิเศษต่อ ดร.มนูญศรี ดร.จารุวรรณ และคุณกร สำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่นที่บ้านของ ดร.ปัญญา รวมถึงการแบ่งปันวัฒนธรรมไทยอันงดงามให้พวกเราได้รับรู้ ตลอดสองวันที่ผ่านมา เราไม่ได้เพียงแค่พูดถึง 'คุณค่า' แต่เราได้สัมผัสประสบการณ์อันพิเศษนี้จริง ๆ" มร.เชลบี กล่าว

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี การเงิน และเลขานุการประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหฟาร์ม จำกัด กล่าวเสริมว่า ความร่วมมือครั้งนี้สะท้อนถึงโอกาสการเติบโตของอุตสาหกรรมไก่ไทยในระยะยาว โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างคอบบ์ ซึ่งพิสูจน์ให้โลกเห็นมาอย่างต่อเนื่องว่าเป็นผู้นำระดับโลกด้านพันธุกรรมและนวัตกรรมการปรับปรุงสายพันธุ์ไก่ ไม่เพียงแต่สายพันธุ์ที่แข็งแรง เติบโตเร็ว และมีอัตรา FCR (feed efficiency) ที่ยอดเยี่ยม แต่ยังช่วยให้ผู้ผลิตทั่วโลก รวมถึงสหฟาร์ม สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในปริมาณมหาศาล เพื่อตอบสนองความต้องการโปรตีนที่เพิ่มขึ้นอย่างมั่นคง

"ในฐานะผู้ประกอบการไทย เราเชื่อมั่นว่าอุตสาหกรรมไก่ไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ความร่วมมือครั้งนี้ช่วยให้สหฟาร์มพัฒนาระบบการผลิตที่ตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืน โดยสอดคล้องกับมาตรฐานสากลและความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม" ดร.จารุวรรณ กล่าว

สหฟาร์มยังเน้นการจัดการฟาร์มตามมาตรฐานสากล (Good Farming Practice) ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) และแนวทาง ESG เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผลิตขึ้นด้วยความรับผิดชอบต่อผู้บริโภค สังคม และสิ่งแวดล้อม แม้ตลาดโลกยังมีปัจจัยท้าทายด้านกำแพงภาษี แต่สำหรับผู้ส่งออกไทยโดยเฉพาะสหฟาร์ม ผลกระทบไม่ได้มีนัยสำคัญนัก เนื่องจากมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยของไก่ไทยยังเป็นที่ยอมรับ และมีความได้เปรียบในการแข่งขัน ทำให้สามารถขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ความต้องการโปรตีนกำลังขยายตัวอย่างก้าวกระโดดในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ ซึ่งต่างมองหาแหล่งโปรตีนที่มีคุณภาพสูงและผลิตด้วยความรับผิดชอบ

"ความร่วมมือกับคอบบ์ครั้งนี้ไม่เพียงช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านสายพันธุ์และการจัดการ แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการยกระดับภาพลักษณ์ของ 'ไก่ไทย' สู่การเป็นศูนย์กลางโปรตีนคุณภาพของโลก เสริมความมั่นคงทางอาหาร และขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน"

การลงนามความร่วมมือระหว่างสหฟาร์มและคอบบ์ครั้งนี้ ไม่เพียงสะท้อนศักยภาพของผู้ประกอบการไทยที่สามารถยืนหยัดท่ามกลางความท้าทายทางการค้า แต่ยังเป็นการตอกย้ำบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตโปรตีนคุณภาพในเอเชีย ขณะที่หลายประเทศผู้ส่งออกยังเผชิญข้อจำกัดด้านต้นทุนและมาตรฐานการผลิต การเสริมความแข็งแกร่งด้านพันธุกรรมและระบบการจัดการของสหฟาร์ม จึงช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไก่ไทยให้ก้าวทันกับความต้องการโปรตีนที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก การเคลื่อนไหวครั้งนี้จึงอาจเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ไทยรักษาความเป็นผู้นำในห่วงโซ่อาหารโลกได้ในระยะยาว