Market Wrap-Up
- SET วันที่ 30 ก.ย.68 ปิด -13.90 จุด อยู่ที่ 1,274.17 จุด มูลค่าการซื้อขาย 49,548 ลบ. ต่างชาติขาย 3,776 ลบ.พอร์ตโบรกขาย 622 ลบ. สถาบันซื้อ 759 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,639 ลบ. NVDR มียอดขายสุทธิ 1,976 ลบ.โดยมียอดซื้อในหุ้น DELTA,KTC,GPSC,TISCO,SCC และยอดขายหุ้น PTT,PTTEP,ADVANC,KBANK,MINT มูลค่า Short Sales อยู่ที่ 1,809 ลบ.หุ้นที่มี%ปริมาณ Short สูงคือ TPIPP,QH,MEGA โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 7,881 สัญญา ยอดสะสมตั้งแต่ต้นปีต่างชาติ Long สุทธิรวม 35,404 สัญญา ต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตรไทย 345 ลบ.
- ตลาดหุ้นสหรัฐ DJIA +0.18%, S&P500 +0.41%, Nasdaq +0.30% นำโดยกลุ่มบริการสุขภาพ +2.45%, เทคโนโลยี +0.86% ขณะที่กลุ่มพลังงาน -1.07%, สินค้าฟุ่มเฟือย -0.55% ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจ JOLTs เผยตัวเลขเปิดรับสมัครงานสหรัฐ ส.ค. เพิ่มขึ้น 19,000 อยู่ที่ 7.227 ล.ตำแหน่ง สูงกว่าคาดที่ 7.185 ล.ตำแหน่ง ตลาดหุ้นยุโรป Stoxx600 +0.48% ได้แรงหนุนจากกลุ่มสื่อสาร +1.2%, ค้าปลีก +1.1% ขณะที่กลุ่มน้ำมัน & ก๊าซ -1.6%, ยานยนต์ -0.4%, ท่องเที่ยว -0.3%
- Market View
- ตลาดหุ้นสหรัฐวานนี้ปิดบวกได้แรงหนุนจากกลุ่มบริการสุขภาพ นำโดย Pfizer +6.8% หลัง ปธน.ทรัมป์จะปรับลดราคายาตามใบสั่งยาของแพทย์ในการโครงการ Medicaid กอปรนโยบายภาษี MFN จะสามารถลดราคายาในสหรัฐลง 30 – 80% ขณะที่ กม.งบประมาณรายจ่ายชั่วคราว 7 สัปดาห์ไม่สามารถผ่านการโหวตจากวุฒิสภา อาจส่งผลให้หน่วยงานราชการบางส่วนต้องปิดทำการ ซึ่งก่อนหน้าเคยเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2018 เป็นเวลา 35 วัน ส่งผลกระทบต่อ US GDP มูลค่า 1.1 หมื่น ล.ดอลลาร์ โดยหน่วยราชการจะไม่สามารถรายงานตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัส และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้ รวมถึงเที่ยวบินอาจล่าช้า เนื่องจากเจ้าหน้าควบคุมความปลอดภัยจาก FAA จำนวน 1/4 จะถูกพักงาน ค่ำวันนี้ติดตามข้อมูล ADP ตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ ก.ย., วันศุกร์ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐ ก.ย.คาด 55,000 & ส.ค. 22,000 ราย, อัตราว่างงาน ก.ย. คาดทรงตัวที่ 4.3%
- Stoxx600 ยุโรปวานนี้ปิดบวก นำโดย FTSE 100 อังกฤษ +0.54% ทำจุดสูงสุดใหม่ ได้ปัจจัยหนุนจากค่าเงินปอนด์อ่อนค่าช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก ขณะที่ GDP อังกฤษ Q2/68 +1.4% ดีกว่าคาด +1.2% YoY ส่วนข้อมูล CPI ฝรั่งเศส ก.ย. อยู่ที่ 1.1% น้อยกว่าคาด 1.3% YoY แต่ CPI เยอรมัน ก.ย. ปรับขึ้นอยู่ที่ 2.4% & คาด 2.2% YoY ส่วนค่ำวันนี้ติดตาม PMI ภาคผลิต & บริการยูโรโซน ก.ย. และ CPI ยูโรโซน ก.ย. คาด 2.2% & ส.ค. 2.0% YoY
- ตลาดหุ้นเอเชียวานนี้ ดัชนีนิเกอิ -0.25% จากความกังวลหน่วยงานราชการสหรัฐอาจเสี่ยงเช้าภาวะชัตดาวน์ กอปรกับรอผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคม LDP ในวันเสาร์ที่ 4 ต.ค. ส่วน Kospi เกาหลีใต้ -0.19% จากแรงชายกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Samsung Electronics -0.36%, SK Hynix -0.43% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้ +0.52% หลังข้อมูล PMI ภาคการผลิตจีน ก.ย. อยู่ที่ 49.8 & คาด 49.6 แต่ยังอยู่ในโซนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ส่งผลให้การประชุม CPC จีนวันที่ 20 – 23 คาดจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
- SET วานนี้ -1.08% ปริมาณการซื้อขาย 95 หมื่น ลบ. ต่างชาติขาย 3,776 ลบ. พอร์ตโบรกขาย 622 ลบ.สถาบันซื้อ 759 ลบ. และรายย่อยซื้อ 3,639 ลบ. โดยดัชนีปรับลดลงจากแรงขายกลุ่มอิเล็ก ฯ นำโดย DELTA -1.86% หลังถูกแรงขายปรับพอร์ตจากกองทุน Passive Fund อ้างอิง SET50/100 เนื่องจาก Cap.Weight หุ้นรายตัวเกินเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 10% ขณะที่ PTT, PTTEP ก็ปรับลดลง หลัง Fitch Rating คงอันดับเรทติ้งที่ BBB+ แต่ปรับลดมุมมองจาก Stable เป็น Negative เป็นไปตามเครดิตเรทติ้งของประเทศ กอปรถูกกดดันจากราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง หลังกลุ่มโอเปกพลัสเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตใน พ.ย. ส่วนหุ้นกลุ่ม Domestic Play เช่น ค้าปลีก, ไฟแนนท์ ก็ถูกแรงขายทำกำไร หลังก่อนหน้าได้ขึ้นรับข่าว ม.กระตุ้นเศรฐกิจรอบใหม่ แต่ยังต้องรอ ครม.อนุมัติโครงการคนละครึ่งในช่วงกลาง ต.ค. และคาดจะสามารถเบิกจ่ายได้ในจริงในช่วง พ.ย. – ธ.ค. ขณะที่ Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ขายสุทธิรวม -253 ล. ดอลลาร์ จากความกังวลต่อภาวะชัตดาวน์หน่วยงานราชการบางส่วนของสหรัฐ
Daily Strategy
- ประเมินแนวรับดัชนี SET วันนี้ที่ 1,260 - 1,270 แนวต้าน 1,280 - 1,290 คาดดัชนีถูกกดดันจากภาวะชัตดาวน์ของสหรัฐ กอปรกับยังรอเม็ดเงินจาก ม.คนละครึ่ง ที่จะเริ่มเบิกจ่ายได้ในช่วง พ.ย. – ธ.ค. แนะนำทยอยซื้อเมื่อดัชนีอ่อนตัว เช่นกลุ่มค้าปลีก & อุปโภค CPALL,CPAXT,BJC,TNP,ICHI คาดได้ประโยชน์จาก ม.คนละครึ่ง/ กลุ่มไฟแนนท์ & อสังหา SAWAD,MTC,TIDLOR,SPALI,AP,DIF,3BBIF คาดได้ประโยชน์จากคาดการณ์ กนง.มีโอกาสลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 8 ต.ค.
- ICHI* (ซื้อเก็งกำไร / ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.80 บาท) แนวโน้ม 3Q68 กำไรน่าจะกลับมาเติบโต QoQ, YoY มีปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่ร้อนกว่าปกติ ขณะที่ช่องทางการจำหน่าย traditional trades ที่เริ่มกลับมาสต๊อกสินค้า รวมถึงสินค้าที่ไม่ใช่กลุ่มชาเขียวมียอดขายเติบโตขึ้น ส่วนแนวโน้มกำไรปกติใน 4Q68 มีโมเมนตัมต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ โดยสินค้าในกลุ่มชาเขียวจะได้ประโยชน์ผ่านการขายในช่องทาง traditional trades ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิปี 68-69 จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท Flat YoY และ 1.36 พันล้านบาท +5%YoY
- CBG* (ซื้อ/ ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 65.84 บาท)กำไรสุทธิ 2Q68 อยู่ที่ 800 ลบ.(+16%YoY, +5%QoQ) หนุนด้วยรายได้ในประเทศจากการคงราคาขายปลีกที่ 10 บาท ขณะที่แบรนด์เบียร์ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วนการดำเนินงานปกติในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่ายังคงมีแรงหนุนต่อเนื่อง YoY จากกลยุทธดึงส่วนแบ่งตลาดในประเทศ ขณะที่คาดว่ามีโอกาสที่จะมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมมาจากมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อของภาครัฐฯ และระยะถัดไปยังจะมีปัจจัยหนุนจาการร่วมมือกับ Tsingtao ปัจจุบัน ตลาดคาดว่าในปี68และ69 กำไรสุทธิของ CBG* จะอยู่ที่ 3,129 ลบ.(+10%YoY) และ 3,384 ลบ.(+8%YoY)
Daily Key Factors
Oil Update(-) WTI พ.ย.-$1.08 อยู่ที่ $62.37 / บาร์เรล, Brent พ.ย. -$0.95 อยู่ที่ $67.02/บาร์เรล หลังกลุ่มโอเปกพลัสเตรียมเพิ่มกำลังผลิต 2.74 – 4.11 แสนบาร์เรล/วัน ใน พ.ย. โดยรอการประชุมโอเปกพลัสวันที่ 5 ต.ค. ขณะทิ่อิรัก & เคอร์ดิสถานตกลงส่งออกน้ำมันผ่านตรุกีจำนวน 230,000 บาร์เรล/วัน ส่วน API รายงานสต็อคน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลง 3.674 ล.บาร์เรล
Gold Update(+) Comex Gold ธ.ค.+18.0 อยู่ที่ $3,873.20 /ออนซ์ ได้แรงหนุนจาก Dollar Index อ่อนค่า -0.13% อยู่ที่ 97.776 กอปรกับกังวลต่อภาวะชัตดาวน์หน่วยงานราชการบางส่วนของสหรัฐ ส่งผลให้ทองคำยังเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
Fund Flow(-) Fund Flow ต่างชาติในตลาด TIP วานนี้ ขายสุทธิ -253.05 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นไทย -116.53 ล.ดอลลาร์สหรัฐ ขายหุ้นอินโดฯ -102.02 ล.ดอลลาร์สหรัฐ และขายหุ้นฟิลิปปินส์ -34.50 ล.ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี่อ่อนค่าอยู่ที่ 32.46 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี ทรงตัวอยู่ที่ 4.155 %
(-) ดัชนี BDI วานนี้ -86 อยู่ที่ 2,134
(-) BitCoin เช้านี้ -0.21% อยู่ที่ 114,260 ดอลลาร์สหรัฐ
(0)ดัชนีทันกันอุต ฯ รายใหญ่ของญี่ปุ่น Q3/68 อยู่ที่ระดับ 14 ตามคาดการณ์
Economic Calendar
ในประเทศ
30 ก.ย. ธปท. รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย
สัปดาห์ที5 สศอ. แถลงดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม
สศค.รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง, ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาค,
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค
ต่างประเทศ
30 ก.ย. CN ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน (ก.ย.)
US รายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากซีบี (ก.ย.)
US ตำแหน่งงานว่างเปิดใหม่จาก JOLTS ( ส.ค.)
01 ต.ค. EU ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) (ปีต่อปี) (ก.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิค (ก.ย.)
US การเปลี่ยนแปลงการจ้างงานภาคนอกภาคเกษตรกรรม(ADP)(ก.ย.)
US สินค้าคงคลังน้ำมันดิบ
02 ต.ค. US จำนวนคนที่ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก
03 ต.ค. US อัตราการว่างงาน (ก.ย.)
US รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง (เดือนต่อเดือน) (ก.ย.)
US การจ้างงานนอกภาคการเกษตร (ก.ย.)
US ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการบริการ (ก.ย.)
Theme Strategy
Theme หุ้นที่มีปัจจัยบวกตามกระแส Megatend, คาดทิศทางดอกเบี้ยเข้าสู่ขาลง, Earning Play 2Q68, High Season ไตรมาส3, และ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จาก Trade War สหรัฐ-จีน ลดความรุนแรงลง
(1) กลุ่มการเงิน คาดการณ์ดอกเบี้ยนโยบายลดลงในช่วง 2H68 NCAP*, SINGER* ,SGC* , MTC*, SAWAD*, TIDLOR*
(2) กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้ประโยชน์ตามฤดูกาลจากฤดูร้อน GULF*, GPSC*, BCPG
(3) กลุ่ม China Play คาดความตึงเครียดทางการค้าผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว และรัฐบาลจีนมีโอกาสออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น SCC* ,SCGP* , PTTGC, IVL*
(4) กล่มสินค้า IT ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยี ADVICE* ,COM7* SYNEX*, SIS*
(5) สินค้าจำเป็นและการบริโภคในชีวิตประจำวันที sensitive น้อยต่อกำลังซื้อในประเทศชะลอตัว เช่น CPALL , MALEE*, BJC , NSL*
(6) กลุ่มส่งออกที่ผันผวนตามประเด็นภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เน้น เก็งกำไร เมื่อมีพัฒนการเชิงบวกของการเจรจาไทย-สหรัฐฯ เช่น DELTA*, CCET*, KCE*, TU, ITC*, ASIAN*, AAI*, COCOCO*
(7) กลุ่มร.พ.ที่ไตรมาส 2 เป็น Low Season แต่เข้าสู่ High Season ในไตรมาส3 เช่น BDMS, SKR, WPH*, PR9*
**หุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ที่ยังไม่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย
Asset Allocation: Equity 50% Fixed Income 35% Alternative Investment etc. Gold 10% Cash 5%
Today Fundamental Research: -
Monthly Portfolio September 2025: SEAFCO*, CPN*, PTTGC*, GULF*, CBG*
Analysts
Apichai Raomanachai
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 002939
Tel 02-829-6999 Ext 2200
Email : apichai.ra@kfsec.co.th
Meena Tunlayanitigun
Fundamental and Technical Investment Analysis ID No. 033662
Tel 02-829-6999 Ext 2201
Email : meena.tu@kfsec.co.th
Nopporn Chaykaew
Fundamental Analysis ID No. 043964
Tel 02-829-6999 Ext 2203
Email : noppoen.ch@kfsec.co.th
Nattawat Poosunthornsri
Fundamental Analysis ID No. 087077
Tel 02-829-6999 Ext 2204
Email : nattawat.po@kfsec.co.th