สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(1 ตุลาคม 2568)---บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)PSH เปิดเผยว่า “บริษัทฯ” ได้ปรับแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจโดยมีเป้าหมายในการปรับโครงสร้าง พอร์ตการลงทุน (Reshaping Portfolio) มุ่งสร้างความแข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจก่อสร้างและพรีคาสท์ และธุรกิจเฮลท์แคร์ นอกจากนั้น ยังมุ่งเน้นการลงทุนที่สร้างรายได้ประจำที่มั่นคงและเติบโตได้ในระยะยาว (Recurring Income) ในอุตสาหกรรมภายในประเทศที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและสนับสนุนธุรกิจหลัก ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องตามกลยุทธ์ปรับโครงสร้าง พอร์ตการลงทุน เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 บริษัทฯ ได้ดำเนินการดังนี้

1. จำหน่ายหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท Ally Logistics Property Holding Co., Ltd. ให้แก่ CLI SEA One Pte Ltd. ซึ่งเป็นบริษัท ในกลุ่ม CapitaLand Investment Limited (“CLI”) โดยได้รับเงินจากการจำหน่ายหุ้นสามัญ รวมทั้งสิ้น 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 480 ล้านบาท และ

2. โอนสิทธิความผูกพันในเงินลงทุนในอนาคต ใน CapitaLand SEA Logistics Fund (“CSLF”) จำนวน 97 ล้านดอลลาร์ สิงคโปร์ หรือประมาณ 2,400 ล้านบาท ให้แก่ CLI SEA Investment Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม CLI ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นใน CSLF จะทยอยปรับลดลงจากร้อยละ 27 ลงเหลือร้อยละ 10 ตามการใช้สิทธิเพิ่มทุนที่บริษัทฯ โอนไป โดย CSLF เป็นกองทุนเพื่อการลงทุนและพัฒนา ทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์สำหรับอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ โดยการลงทุนจะครอบคลุมการขยายธุรกิจไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้ สำหรับการลงทุนในโครงการ โอเมก้า บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส ซึ่งเป็นโครงการคลังสินค้าครบวงจรด้วยเทคโนโลยีด้าน โลจิสติกส์ที่่ทันสมัยและบริการโซลูชันแบบองค์รวม (Automated Warehouse) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่ารวม 8,430 ล้านบาท บนเนื้อที่กว่า 200,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1. การลงทุนโดยตรงร้อยละ 51 บริษัทฯ ยังคงเงินลงทุนในส่วนนี้ไว้ เนื่องจากบริษัทฯ มีประสบการณ์และความชำนาญ ในการดูแลการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ในประเทศมาอย่างยาวนาน และการลงทุนนี้จะสามารถสร้างรายได้ต่อเนื่องในระยะยาว โดยเฟสแรก มีกำหนดเปิดในปี 2569 และ

2. การลงทุนผ่าน CSLF ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น ซึ่งการปรับลดสัดส่วนการลงทุนผ่าน CSLF นั้น เพื่อลดเงินลงทุนที่จะขยายไป ในต่างประเทศมูลค่าประมาณ 2,400 ล้านบาท โดยบริษัทฯ เห็นควรนำเงินลงทุนในส่วนนี้กลับมามุ่งเน้นการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโต ของรายได้ภายในประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพอร์ตการลงทุนที่มีคุณภาพ สร้างการเติบโตได้เร็ว และสามารถสร้างรายได้ประจำอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในระยะยาว

ภายหลังการดำเนินการดังกล่าว บริษัทฯ ยังคงถือหุ้นร้อยละ 51 ในโครงการโอเมก้า บางนา โลจิสติกส์ แคมปัส โดยคงสถานะ เป็นบริษัทร่วมค้า และเงินลงทุนใน CSLF คงสถานะเป็นเงินลงทุนทั่วไปเช่นเดิม