Company Note
i-Tail Corporation
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q25F เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น QoQ จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น
แนวโน้มผลประกอบการ 3Q25F ของ ITC เริ่มกลับมาเพิ่มขึ้น QoQ จากดีมานด์ที่ฟื้นตัว แม้เป็นไตรมาสแรกที่เผชิญผลกระทบเต็มไตรมาสจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ 19% แต่ปริมาณการขายคาดเติบโต high single digit YoY รายได้ถูกกดดันจากค่าเงินบาทแข็งและการช่วยเหลือด้านภาษีระยะสั้น ซึ่งคาดสิ้นสุดภายในปีนี้ การสนับสนุนลูกค้าอาจเปิดโอกาสโอนการผลิตบางส่วนจากลูกค้ารายใหญ่ในปีหน้า และบริษัทเริ่มความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Mitsubishi (MC) เพื่อเสริม Synergy แม้ดีลหุ้นยังไม่เสร็จ
คาดกำไรสุทธิ 3Q25F ลดลง YoY แต่เพิ่มขึ้น QoQ
เราคาด ITC จะมีกำไรสุทธิ 3Q25F ที่ 744 ล้านบาท (-24% YoY, +7% QoQ) จากรายได้ที่คาด +7% YoY และ +6% QoQ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการอาหารสัตว์เลี้ยงในกลุ่มประเทศอเมริกาที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากลูกค้ารีเทลรายใหญ่ที่มีออเดอร์สินค้าพรีเมียมเพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายในยุโรปคาดว่าจะดีขึ้น QoQ แต่ลดลง YoY จากฐานสูง ปริมาณการขายรวมคาดว่าเติบโต YoY แต่ทรงตัว QoQ โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่จะมาจากสินค้าพรีเมียม ซึ่งคาดคิดเป็นสัดส่วนราว 50% ของรายได้ เทียบกับ 46.3% ใน 2Q25 อัตรากำไรขั้นต้นคาดว่าจะลดลง YoY แต่ใกล้เคียงกับ QoQ แม้จะถูกกระทบจาก US tariff ที่บริษัทช่วย support ลูกค้าบางราย และค่าเงินบาทแข็ง ส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น YoY จากโครงการ Tailwind แต่ทรงตัว QoQ จากการควบคุมค่าใช้จ่าย โดยคาดอัตราภาษีจ่ายอยู่ที่ 8%
คาดผลประกอบการจะเติบโตในครึ่งปีหลังและปีหน้าเริ่มเป็นบวก
ผลประกอบการ 9M25F เราคาดคิดเป็น 69% ของกำไรทั้งปี โดยเรามองว่า 4Q25F จะยังคงดีต่อเนื่อง จากการออกสินค้าใหม่และการเพิ่มขึ้นของลูกค้าใหม่ แม้อัตรากำไรขั้นต้นอาจอ่อนตัวจากการ support ลูกค้าเพื่อแบ่งเบาภาระภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ค่าใช้จ่าย consultant fee คาดว่าจะทยอยลดลงในไตรมาสถัดไป เราคงประมาณการกำไรปี 2025F ที่ 3.05 พันล้านบาท (-15% YoY) และปี 2026F ที่ 3.25 พันล้านบาท (+7% YoY) โดยมีปัจจัยหนุนจากตลาดอเมริกาที่ดีกว่าคาด จากการปรับ product mix ได้อย่างเหมาะสม ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้นจากปริมาณการขายที่มากขึ้น แม้ว่า ASP จะลดลง ขณะที่ตลาดยุโรปและเอเชียคาดว่าปริมาณขายและ ASP จะลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
เรายังคงคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท
เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.50 บาท อ้างอิง PER forward 17x ปัจจุบันซื้อขาย PER26F 13.9x และ Dividend Yield 26F 5.8% ปัจจัยบวกคือความชัดเจน US tariff และแนวโน้มผลประกอบการดีขึ้นตั้งแต่ 2026F จากความยืดหยุ่นในการพัฒนาสินค้า สถานะการเงินเป็น net cash ความเสี่ยงหลักคือเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการเจรจาต่อรองราคาลูกค้าหลังต้นทุนเพิ่มจาก US tariff