สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ (29 กันยายน 2568 )-----NCL ส่งบริษัทลูก”โกลเด้น ซัพพลาย” ลงนามในสัญญากับ “Navantia” รัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือ จากประเทศ สเปน รับบริหารจัดการและสนับสนุนโครงการของกองทัพเรือ 2 โครงการมูลค่ารวมกว่า 470 ล้านบาท จากมูลค่าโครงการจัดซื้อจัดจ้างระบบอำนวยการรบที่ Navantia ลงนามร่วมกับกองทัพเรือมูลค่า 3,700 ล้านบาท หนุนรายได้ไตรมาส 3/68 โตก้าวกระโดด

นายพงษ์เทพ วิชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NCL เปิดเผยว่า บริษัท โกลเด้น ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ NCL ถือหุ้น 100% ได้ลงนามในสัญญา กับบริษัท Navantia ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือของประเทศสเปน เพื่อ บริหารจัดการและสนับสนุนโครงการของกองทัพเรือ 2 โครงการ ที่ดำเนินการในประเทศไทย (Local Service Provider) มูลค่ารวมประมาณ 470 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย
1.โครงการเพิ่มขีดความสามารถสำหรับการปฏิบัติการทางเรือมูลค่าสัญญา 2.25 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 84.86 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ลงนามในสัญญา) ระยะเวลาโครงการ 730 วัน ซึ่งได้เริ่มทยอยรับรู้รายได้ตามภาระการส่งมอบงานตั้งแต่ไตรมาส 2/68 โดยได้มีการลงนามไปเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568
2.โครงการปรับปรุงขีดความสามารถเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ชุด เรือหลวงปัตตานี มูลค่า สัญญา รวม 10.25 ล้านยูโร หรือ 381.61 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ลงนามในสัญญา) มีระยะดำเนินงาน ประมาณ 1,095 วัน ทั้งนี้จะได้รับชำระเงินค่าบริการตามภาระการส่งมอบงาน ซึ่งจะเริ่มรับรู้รายได้ ตั้งแต่ ไตรมาส 3/68
“Navantia เป็นรัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือ จากสเปน ได้ลงนามในโครงการจัดซื้อระบบอำนวย การรบและระบบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือ ของประเทศไทย มีมูลค่าโครงการรวม 3,700 ล้านบาท ขณะที่ NCL เป็นพันธมิตรกับ Navantia เข้ามารับบริหารจัดการและสนับสนุนโครงการของ Navantian ที่ดำเนินการใน ประเทศไทย (Local Service Provider) ซึ่งจากโครงการดังกล่าว NCL จะได้รับค่าบริหารจัดการรวมประมาณ 470 ล้านบาท ” นายพงษ์เทพกล่าว
อย่างไรก็ตามจากความร่วมมือดังกล่าว จะส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่ม NCL มีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าไตรมาส 3 ของปีนี้ผลงานจะเติบโตก้าวกระโดด
ทั้งนี้บริษัท โกลเด้น ซัพพลาย จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ NCL ถือหุ้น 100% มีหน้าที่รับผิดชอบ ในการบริหารจัดการและสนับสนุนโครงการของ Navantia ในประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมการดำเนินงาน ที่สำคัญหลายด้าน ได้แก่ การจัดหาและบริหารจัดการทีมวิศวกรและช่างเทคนิคผู้ชำนาญการ ของไทย เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานด้านเทคนิค, การทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักกับหน่วยงาน ท้องถิ่น และคู่ค้าที่
เกี่ยวข้องเพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงการสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และการจัดการห่วงโซ่อุปทานสำหรับชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่จำเป็นทั้งในประเทศไทยและพื้นที่ปฏิบัติการอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง
ส่วนบริษัท Navantia (เดิมชื่อ Bazan) เป็นรัฐวิสาหกิจอู่ต่อเรือของประเทศสเปนที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในยุโรป และ ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ที่ดำเนินธุรกิจด้านการต่อเรือสำหรับพลเรือนและการทหาร, การออก แบบระบบ เทคโนโลยีขั้นสูง (deep-tech) และการผลิตโครงสร้างสำหรับภาคพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานลม นอกชายฝั่ง หรือไฮโดรเจน ก่อตั้ง ขึ้นในปี 2548 ให้บริการออกแบบ, สร้าง และสนับสนุน เรือผิวน้ำ, เรือดำน้ำ และระบบต่างๆ หลากหลายประเภท มีการจ้างงานโดยตรงเกือบ 5,000 คน ซึ่งกระจายอยู่ ในศูนย์ปฏิบัติการในเมืองลาโกรุญญา, กาดิซ, การ์ตาเฮนา และมาดริด และ Navantia ยังเป็นผู้ต่อเรือหลวงจักรีนฤเบศร ให้กับกองทัพเรือของประเทศไทยอีกด้วย